“ปศุสัตว์” ยืนยันคุมเข้มโรคลัมปี สกินให้อยู่ในวงจำกัดได้

ชัยภูมิ 14 มิ.ย. – กรมปศุสัตว์ยืนยัน สามารถควบคุมโรคลัมปี สกินให้อยู่ในวงจำกัด โดยตั้งแต่ต้นปี 2565 พบโค-กระบือป่วยเพียง 2,002 ตัว โดยส่วนใหญ่เป็นลูกสัตว์ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน สั่งการทุกพื้นที่ดำเนินงานเข้มงวด สืบสวนโรคทุกกรณี พร้อมหใรายงานสถานการณ์โรคทุกวันตามหลัก “รู้เร็ว คุมเร็ว สงบโรคได้เร็ว”


นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์เปิดเผยว่า สั่งการให้ปศุสัตว์จังหวัดทั่วประเทศเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคโรคลัมปี สกิน ส่วนก่อนหน้านี้มีการนำเสนอข่าวว่า จากจังหวัดชัยภูมิพบการแพร่ระบาดโรคลัมปี สกินในหลายพื้นที่ รวมกว่า 10 อำเภอ โดยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พบโคป่วยร่วมกว่า 357 ตัว และล่าสุดมีโคป่วยตายถึง65 ตัว ทำสถิติสูงสุดในประเทศไทย ยืนยันว่า โรคนี้สามารถควบคุมได้ในวงจำกัด ใน 1 เดือนที่ผ่านมาพบรายงานโรคใหม่ใน 3 จังหวัด รวมสัตว์ป่วยทั่วประเทศ 1,498 ตัว จากจำนวนสัตว์ทั้งหมดทั่วประเทศเกือบ 9 ล้านตัวซึ่งคิดเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนทั้งหมด สำหรับสถานการณ์ของโรคลัมปี สกินของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 จนปัจจุบัน พบสัตว์ป่วยใหม่เพียง 2,002 ตัว หากเปรียบเทียบจำนวนสัตว์ป่วยรายเดือนของปี 2565 เทียบกับปี 2564 พบว่า มีจำนวนลดลงมากถึงร้อยละ 116.7 โดยในปี 2564 พบค่าเฉลี่ยรายเดือนของจำนวนสัตว์ป่วยทั้งประเทศ 39,278 ตัว แต่ในปี 2565 ค่าเฉลี่ยรายเดือนของจำนวนสัตว์ป่วยทั้งประเทศ 334 ตัว 

จากการสอบสวนโรคพบว่า สัตว์ที่ป่วยใหม่เป็นสัตว์ที่ไม่ได้รับวัคซีน เปอร์เซ็นต์การเกิดโรคน้อยมาก โดยสัดส่วนการป่วยและตายไม่เกิน 1 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนทั้งหมด สัตว์ที่ป่วยสามารถรักษาหายได้ ลูกโคมีภูมิคุ้มกันในระดับดีโดยได้รับมาจากแม่โคที่ทำวัคซีนแล้ว 


ทั้งนี้กรมปศุสัตว์จะเร่งทำการฉีดวัคซีนให้กับลูกโคที่เกิดใหม่หรือตัวที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งตอนนี้ประเทศไทยสามารถผลิตวัคซีนได้แล้วส่วนหนึ่งประมาณ 50,000 โด๊ส แต่ยังไม่เพียงพอจะมีการขยายกำลังการผลิตต่อไป จึงต้องมีการนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศอยู่ จนกว่าจะสามารถผลิตได้เพียงพอ ดังนั้นรับประกันและขอยืนยันว่า โรคนี้ไม่มีความรุนแรงเหมือนสถานการณ์เกิดโรคในปี 2564 แน่นอน สำหรับเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนจะให้ในพื้นที่ที่มีการระบาดโรคและสัตว์ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนก่อนลำดับแรกเช่น จังหวัดแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีโคอยู่จำนวนมาก

ดังนั้นจึงขอรณรงค์ให้เจ้าของสัตว์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกินให้แก่ลูกสัตว์ที่เกิดใหม่ สัตว์ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน และสัตว์ที่ได้รับวัคซีนมาแล้วนานกว่า  1 ปี ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) พบว่า ในปัจจุบันมีบริษัทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนการนำเข้าวัคซีนโรคลัมปี สกินแล้ว คือ บริษัทอินเตอร์เว็ท (ประเทศไทย) จำกัด ดังนั้นหากเจ้าของสัตว์มีความต้องการวัคซีนเพื่อป้องกันโรคสามารถประสานงานกับบริษัทได้โดยตรง ทั้งนี้การฉีดวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกินในลูกสัตว์เกิดใหม่หากแม่ของลูกสัตว์ไม่มีประวัติการฉีดวัคซีนสามารถฉีดในลูกสัตว์ได้ทันที แต่กรณีแม่มีประวัติป่วย หรือมีประวัติได้รับการฉีดวัคซีนในช่วงก่อนการตั้งท้อง สามารถฉีดในลูกสัตว์ตั้งแต่อายุ 4 เดือนขึ้นไป    

ทั้งนี้กรมปศุสัตว์อยู่ระหว่างการของบประมาณเพิ่มเติมเพื่อให้การช่วยเหลือเกษตรกรจากงบกลางจำนวน203,107,702 บาท พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือเกษตรกรเป็นจำนวนมาก ในปัจจุบันให้ความช่วยเหลือเกษตรกรโดยใช้งบประมาณทดลองราชการแล้ว 52,389 ราย โค-กระบือ 58,089 ตัว วงเงิน 1,221,823,020 บาท อยู่ระหว่างการช่วยเหลืออีก 1,596 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.82  ทั้งนี้กรมปศุสัตว์ได้อยู่ระหว่างการของบประมาณเพิ่มเติมจากงบกลางเพื่อให้การช่วยเหลือเกษตรกรในบางพื้นที่เพิ่มเติม จำนวน 203,107,702 บาท


อธิบดีกรมปศุสัตว์ว่า ย้ำมาตรการการดำเนินการการควบคุมและแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคและได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ เร่งรัดดำเนินการควบคุม ป้องกัน และกำจัดโรค ดังต่อไปนี้

               1. รณรงค์พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคและยากำจัดแมลงในฟาร์มโค-กระบือทั้งจุดที่พบโรคและรัศมี 5 กิโลเมตรรอบจุดเกิดโรค ตลาดนัดค้าสัตว์ เป็นต้น โดยการรณรงค์พ่นยานั้นขอให้ดำเนินการพร้อมกันทั้งหมู่บ้านหรือชุมชนเพื่อให้การดำเนินการเกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ควรมีการรณรงค์ทำความสะอาดปรับภูมิทัศน์โดยรอบฟาร์มให้ปลอดโปร่ง ไม่ให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของแมลงพาหะ กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง  กำจัดมูลสัตว์ออกจากฟาร์มเป็นประจำ

                2. ให้ดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน ให้กับลูกสัตว์และสัตว์ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโรคลัมปีสกิน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีอัตราการตายสูงสุด และสัตว์ป่วยจะแสดงอาการรุนแรง

                3. ประสานขอความร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้นำเกษตรกรในชุมชนในพื้นที่เพื่อร่วมดำเนินการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคและยากำจัดแมลงในฟาร์มโค กระบือ  

                4. ประชาสัมพันธ์สร้างความรับรู้ให้กับเกษตรกรเกี่ยวกับโรคและวิธีการป้องกันโรคลัมปีสกิน โดยการใช้หลอดไฟไล่แมลงและกางมุ้งเพื่อป้องกันแมลงดูดเลือด การใช้ยาฆ่าแมลงแบบพ่นและแบบราดบนตัวสัตว์ การปรับปรุงระบบความปลอดภัยทางชีวภาพของสถานที่เลี้ยงสัตว์รวมทั้งให้ข้อมูลสถานการณ์โรคที่เป็นปัจจุบันเพื่อให้เกษตรกรเข้มงวดเฝ้าระวังและสังเกตอาการสัตว์ของตนเอง หากพบอาการสงสัยตามนิยามให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที  

               5. สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการลงพื้นที่ในฟาร์มโคเนื้อ โคนม และกระบือ เพื่อค้นหาสัตว์ป่วย สร้างความร่วมมือ และสร้างเครือข่ายในพื้นที่ในการปฏิบัติงาน เพื่อให้การดำเนินงานในการควบคุมโรคตามมาตรการที่กำหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพ   เกิดผลกระทบต่อเกษตรกรน้อยที่สุด ตามหลัก “รู้เร็ว คุมเร็ว สงบโรคได้เร็ว”

หากพบสัตว์แสดงอาการน่าสงสัยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ของสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดหรือสำนักงานปศุสัตว์อำเภอในพื้นที่ อาสาปศุสัตว์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์การบริหารงานส่วนตำบลในพื้นที่ หรือโทรแจ้งสายด่วนของกรมปศุสัตว์ที่เบอร์โทร 063-225-6888 หรือผ่านแอปพริเคชัน DLD 4.0 “แจ้งการเกิดโรคระบาด” เพื่อให้การช่วยเหลือเกษตรกรได้ทันท่วงที ทั้งนี้หากเกษตรกรให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในการป้องกันและควบคุมการเกิดโรคอย่างเคร่งครัด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]