เร่งแก้ “ผสมเลือดชิด” รักษาเผ่าพันธุ์โลมาอิรวดี

กรุงเทพฯ 6 พ.ค. – “วราวุธ” สั่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกำหนดมาตรการป้องกัน “โลมาอิรวดี” ในทะเลสาบสงขลาสูญพันธุ์ หลังสำรวจพบเหลือเพียง 14 ตัว โดยต้องมีมาตรการแก้ไขระยะสั้นจากปัญหาติดเครื่องมือประมง การฟื้นฟูแหล่งอาหาร ส่วนระยะยาวอาจต้องผสมข้ามพันธุ์กับโลมาอิรวดีทะเลประเทศอื่นเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ให้อยู่คู่ทะเลสาบสงขลาและประเทศไทย


นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเร่งกำหนดมาตรการป้องกันโลมาอิรวดีสูญพันธุ์ โดยจากการสำรวจจำนวนประชากรในทะเลสาบสงขลาล่าสุดพบว่า เหลือเพียง 14 ตัว จากที่เคยสำรวจพบในปี 2564 มี 16 ตัวซึ่งขณะนี้สังคมกำลังห่วงใยว่า สัตว์ทะเลหายากชนิดนี้มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์อย่างยิ่ง

ทั้งนี้โลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาเป็นโลมาชนิดเดียวของประเทศไทยที่อาศัยอยู่ในน้ำจืด โดยเป็น 1 ใน 5 แห่งของโลกที่พบโลมาชนิดนี้ได้แก่ อินเดียซึ่งปัจจุบัน 150 ตัว อินโดนีเซีย 90 ตัว เมียนมา 80 ตัว กัมพูชา 90 ตัว ดังนั้นไทยที่เหลือเพียง 14 ตัวจึงเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากที่สุด


นายวราวุธกล่าวต่อว่า การวางแผนอนุรักษ์และขยายพันธุ์โลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาจึงต้องมีมาตรการทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยระยะสั้นเช่น การดูแลเขตอนุรักษ์โลมา การเพิ่มศักยภาพการลาดตระเวนเชิงคุณภาพของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ การส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ประมงเพื่อให้ชาวประมงอยู่ได้ การเพิ่มสัตว์น้ำที่เป็นอาหารของโลมาอิรวดี เช่น การเพิ่มซั้งในเขตโลมา รวมถึงการออกทำความเข้าใจกับประชาชนและชาวประมงในพื้นที่ถึงความสำคัญของโลมาอิรวดีทั้ง 14 ตัวที่เหลืออยู่ และเร่งสำรวจจำนวนประชากรตลอดจนการแพร่กระจาย ตลอดจนการสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายภาคประชาชนในการแจ้งข่าว เมื่อเจอโลมาติดเครื่องมือประมง ส่วนระยะยาวกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจะร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ทะเลศึกษาการผสมข้ามพันธุ์กับโลมาอิรวดีจากทะเลประเทศอื่นเนื่องจากจำนวนประชากรอยู่อย่างจำกัดในทะเลสาบสงขลาและการที่ไม่สามารถอพยพเคลื่อนย้ายแลกเปลี่ยนความหลากหลายของสายพันธุ์กับโลมาอิรวดีกลุ่มอื่น ทำให้เกิดการผสมสายพันธุ์เลือดชิด เป็นผลให้ลูกโลมามีความอ่อนแอ 

นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกล่าวว่า โลมาอิรวดีที่พบในประเทศไทย พบอาศัยอยู่บริเวณตอนบนของทะเลสาบสงขลาที่เรียกว่า ทะเลหลวง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ลึกที่สุดของทะเลสาบ มีความลึกเฉลี่ย 2 – 3 เมตร นอกจากนี้ยังพบว่า มีการหากินเฉพาะบริเวณที่มีความลึกของน้ำมากกว่า 2 เมตร และจะไม่เข้าใกล้ฝั่งหรือพื้นที่น้ำตื้นกว่านี้ และที่สำคัญคือ จะมีการหากินที่หลบเลี่ยงจากพื้นที่ที่มีการทำประมง จากการสำรวจจำนวนประชากรของโลมาอิรวดีในช่วงปี 2560 – 2564 พบว่า มีแนวโน้มจำนวนประชากรลดลง จากปี 2558 พบ 27 ตัว ต่อมาปี 2564 พบ 16 ตัว แต่ล่าสุดในปีนี้พบว่า เพียง 14 ตัวเท่านั้น

สำหรับสาเหตุหลักของการเกยตื้นของโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลา มาจากการติดเครื่องมือประมงประเภทอวนเช่นอวนปลาบึก อวนปลากะพง เป็นส่วนใหญ่ รองลงมาเป็นสาเหตุทางด้านกายภาพและชีวภาพเช่น เกิดการตื้นเขินของทะเลสาบจากตะกอนชายฝั่ง มลภาวะจากธาตุอาหารพืช (Eutrophication) หรือภาวะการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของแพลงก์ตอนพืชและสาหร่ายในแหล่งน้ำจืด การก่อสร้างสิ่งลวงล้ำลำน้ำ การเกิดมลพิษในน้ำและดินในทะเลสาบปริมาณสัตว์น้ำที่เป็นอาหารของโลมาอิรวดีลดลง และการเจ็บป่วยตามธรรมชาติ โดยอีกสาเหตุสำคัญคือ การผสมสายพันธุ์เลือดชิด เป็นผลให้ลูกโลมามีความอ่อนแอ


นายโสภณกล่าวต่อว่า จะเร่งดำเนินมาตรการระยะต่างๆ ตามข้อสั่งการของรมว. ทส. อีกทั้งยังต้องเร่งศึกษาวิจัยเป็นงานคู่ขนานเพื่อศึกษาถึงสาเหตุของการตายวัยเด็กของโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลา ซึ่งอาจมาจากปัญหาเลือดชิดหรือการปนเปื้อนของสารพิษในแหล่งน้ำ รวมถึงการศึกษาแนวทางการเพิ่มความหลากหลายทางพันธุกรรม ตลอดจนการแก้ปัญหามลพิษ การตื้นเขิน และรวมทั้งการจัดสร้างศูนย์ช่วยเหลือและพยาบาลสัตว์ทะเล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการช่วยเหลือพร้อมอุปกรณ์การปฏิบัติอย่างเป็นระบบ ควบคู่กับการดูแลจัดการถิ่นที่อยู่ของโลมา และการจัดการสภาพแวดล้อมของทะเลสาบสงขลา

ทั้งนี้ “โลมาอิรวดี” จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และยังเป็นสัตว์ที่ได้รับการคุ้มครองตามข้อตกลงระหว่างประเทศจากการประชุม CITES ครั้งที่ 13 เมื่อปี 2546 ที่ประเทศไทยได้เสนอให้โลมาอิรวดีเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองบัญชีที่ 1 ส่งผลให้ได้รับการคุ้มครองในระดับนานาชาติด้วย ดังนั้นจะต้องอนุรักษ์ให้เป็นสัตว์ทะเลหายากที่อยู่คู่กับทะเลสาบสงขลาสืบไป ไม่กลายเป็นเพียงตำนานเหมือนดังเช่นที่มีข่าวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สูญเสียโลมาอิรวดีตัวสุดท้ายในแม่น้ำโขง บริเวณชายแดนกัมพูชา กับ สปป.ลาว ไปแล้วตามแถลงการณ์ขององค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF .- สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]