เร่งทำฝนหลวงลดพายุลูกเห็บและหมอกควันภาคเหนือ

กรุงเทพฯ 19 เม.ย.- กรมฝนหลวงฯ เร่งปฏิบัติการทำฝนเพื่อบรรเทาความรุนแรงของพายุลูกเห็บและหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ นอกจากนี้ยังเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนต่างๆ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรายงานว่า มีพื้นที่ประสบวาตภัย 21 จังหวัด


นายสำเริง แสงภู่วงค์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ได้ให้หน่วยฝนหลวงในพื้นที่ที่สภาพอากาศเอื้อต่อการบินปฏิบัติการขึ้นบินทำฝนต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคเหนือเนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมบริเวณดังกล่าว ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ทำให้ด้านตะวันตกของภาคกลางและภาคใต้ตอนบน มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยมีลูกเห็บตกและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อประชาชนและเกิดความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร

ทั้งนี้ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง 9 หน่วยขึ้นบินปฏิบัติการเพื่อช่วยบรรเทาความรุนแรงของพายุลูกเห็บให้กับบางพื้นที่ของ จ.เชียงใหม่ ลพบุรี ชัยภูมิ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ บรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่าบริเวณพื้นที่ อ.สามเงา จ.ตาก เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนห้วยหลวง และอ่างเก็บน้ำคลองสียัด รวมถึงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สระบุรี ลพบุรี นครสวรรค์ อุดรธานี นครราชสีมา ชลบุรี และสระแก้ว


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรายงานว่า ยังคงมีสถานการณ์วาตภัยใน 21 จังหวัด ได้แก่ ตาก แม่ฮ่องสอนเชียงราย พะเยา เชียงใหม่ น่าน ลำปาง กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ พิจิตร ลำพูน สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครนายก ปราจีนบุรี สกลนคร มหาสารคาม อุดรธานี ชัยภูมิ และกาฬสินธุ์ รวม 58 อำเภอ 137 ตำบล 405 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3,241 หลัง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย (เชียงราย และตาก) ผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย (ตาก) ประกอบด้วย 

1. ภาคเหนือ 11 จังหวัด รวม 38 อำเภอ 89 ตำบล 331 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 2,819 หลัง ผู้เสียชีวิต2 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ดังนี้ 

– ตาก เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตาก อำเภอบ้านตาก อำเภอวังเจ้า และอำเภอสามเงา รวม 10 ตำบล 12 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย 


– แม่ฮ่องสอน เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปาย และอำเภอปางมะผ้า รวม 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง 

– เชียงราย เกิดวาตภัยในพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเวียงเชียงรุ้ง อำเภอดอยหลวง อำเภอเชียงของ อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเวียงแก่น อำเภอพญาเม็งราย อำเภอเทิง อำเภอพาน อำเภอแม่สาย อำเภอเวียงชัย อำเภอป่าแดด อำเภอเวียงป่าเป้า และอำเภอแม่สรวย รวม 38 ตำบล 177 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 2,559 หลังมีผู้เสียชีวิต 1 ราย 

– พะเยา เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพะเยา และอำเภอจุน รวม 9 ตำบล 65 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 72 หลัง 

– เชียงใหม่ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอกัลยานิวัฒนา รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน 

– น่าน เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอ เวียงสา รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง 

– ลำปาง เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังเหนือ อำเภอเมืองปาน และอำเภอเถิน รวม 4 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 4 หลัง 

– กำแพงเพชร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองกำแพงเพชร อำเภอขาณุวรลักษบุรี อำเภอปางศิลา และอำเภอคลองขลุง รวม 11 ตำบล 30 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 121 หลัง 

– เพชรบูรณ์ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหล่มสัก อำเภอหล่มเก่า และอำเภอวังโป่ง รวม 3 ตำบล 7 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 59 หลัง 

– พิจิตร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอตะพานหิน อำเภอบางมูลนาก อำเภอโพทะเล และอำเภอดงเจริญ รวม 5 ตำบล 7 หมู่บ้าน 

– ลำพูน เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเมืองลำพูน รวม 4 ตำบล 23 หมู่บ้าน 

2. ภาคกลาง 3 จังหวัด รวม 4 อำเภอ 13 ตำบล 26 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 336 หลัง ดังนี้ 

– สิงห์บุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าช้าง และอำเภอบางระจัน รวม 5 ตำบล 17 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 100 หลัง 

– อ่างทอง เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอป่าโมก รวม 1 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 6 หลัง 

– พระนครศรีอยุธยา เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอบางบาล รวม 7 ตำบล 7 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 230 หลัง 

3. ภาคตะวันออก 2 จังหวัด รวม 6 อำเภอ 21 ตำบล 25 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 31 หลัง ดังนี้ 

– นครนายก เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครนายก อำเภอบ้านนา อำเภอปากพลี และอำเภอองครักษ์ รวม 18 ตำบล 21 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 28 หลัง 

– ปราจีนบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาดี และอำเภอประจันตคาม รวม 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง

4. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด รวม 10 อำเภอ 14 ตำบล 23 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 55 หลังดังนี้ 

– กาฬสินธุ์ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอหนองกุงศรี รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง 

– สกลนคร เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอวานรนิวาส รวม 1 ตำบล 3 หมู่บ้าน 

– มหาสารคาม เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองมหาสารคาม และอำเภอกันทรวิชัย รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง 

– อุดรธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเพ็ญ และอำเภอบ้านดุง รวม 4 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 36 หลัง 

– ชัยภูมิ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอภักดีชุมพล อำเภอบำเหน็จณรงค์ อำเภอซับใหญ่ และอำเภอบ้านแท่น รวม 7 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 15 หลัง

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.  รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ได้ทุกที่ทุกเวลา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]