ประกาศวิสัยทัศน์ 5 ปีเป็นองค์กรด้านการค้าติด 1 ใน 5 ของเอเชีย

นนทบุรี 11 มี.ค.-กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ฉลองการสถาปนาครบรอบ 70 ปี เปิดวิสัยทัศน์การทำงานในช่วง 5 ปีข้างหน้า ชูเป็นองค์กรมีความสามารถในการแข่งขันด้านการค้าระหว่างประเทศของไทยเป็น 1 ใน 5 ของเอเชียภายในปี 2570 ภายใต้การดำเนินการ 4 ยุทธศาสตร์หลัก ดันผู้ประกอบการเข้าถึงเทคโนโลยี เร่งรัดขยายตลาดส่งออกเชิงรุก สร้างมูลค่าเพิ่มสินค้า บริการด้วยนวัตกรรม สร้างภาพลักษณ์ให้ประเทศและสินค้าไทย


นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 5 ปี เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี การสถาปนากรม ว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กรมฯ ได้เผชิญกับความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องดำเนินการเปลี่ยนแปลงองค์กรครั้งใหญ่และอย่างรวดเร็ว เพื่อให้สามารถเดินหน้าภารกิจของกรมฯ ต่อไปได้ ท่ามกลางอุปสรรคที่เกิดจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดทั้งภายในและระหว่างประเทศ โดยได้ใช้แนวคิดเชิงกลยุทธ์ “ตั้งรับ ปรับตัว หาโอกาส” ในการบริหารการเปลี่ยนแปลง ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกษ์ใช้งานกับภารกิจของกรมฯ ในทุก ๆ ด้าน ทำให้สามารถนำพาองค์กรและผู้ประกอบการปรับตัวฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปได้ และช่วยสนับสนุนภาคการส่งออกให้เติบโตและเป็นเครื่องยนต์หลักค้ำจุนเศรษฐกิจไทย

สำหรับแผนการขับเคลื่อนกรมฯ ในอีก 5 ปีข้างหน้า ได้ตั้งวิสัยทัศน์ “ความสามารถในการแข่งขันด้านการค้าระหว่างประเทศของไทยเป็น 1 ใน 5 ของเอเชียภายในปี 2570” ซึ่งเป็นการตั้งเป้าหมายที่จะสื่อสารให้เกิดการรับรู้อย่างกว้างขวางถึงการเป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนการค้าระหว่างประเทศของประเทศไทย โดยมีเป้าหมายหลัก คือ การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศภายใน 5 ปี ให้อยู่ใน 5 อันดับแรก เปรียบเทียบกับประเทศคู่แข่งในเอเชีย ซึ่งถือเป็นวิสัยทัศน์ที่ท้าทายความสามารถขององค์กรเป็นอย่างมาก เนื่องจากปัจจัยที่จะมีผลต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ มีปัจจัยภายนอกที่อยู่นอกการควบคุมจำนวนมาก


ทั้งนี้ กรมฯ เชื่อมั่นว่าการสร้างความเข้มแข็งจากภายใน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจะสร้างภูมิต้านทานต่อความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะพัฒนาองค์กรให้ก้าวไปสู่การเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม ที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง โดยความหมายของนวัตกรรม คือ การคิดค้นวิธีการทำงาน เครื่องมือใหม่ เพื่อแก้ปัญหาเดิม หรือปัญหาใหม่ที่จะเกิดขึ้น โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในองค์กรอย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง รองรับยุค Digital Transformation ที่เทคโนโลยีนำการค้า ซึ่งจะมีผลต่อศักยภาพการแข่งขันของไทยในตลาดโลก

นอกจากนี้ เพื่อเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานภายใน และการให้บริการภายใต้ภารกิจของกรมฯ ทั้งการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ การพัฒนาสินค้า/บริการ และการพัฒนาช่องทางการตลาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรในการเสริมและเกื้อหนุนให้ภาคธุรกิจได้พัฒนาไปอย่างก้าวไกล ด้วยหลัก “รัฐหนุน เอกชนนำ”

อย่างไรก็ตาม ได้กำหนดแนวทางยุทธศาสตร์ 4 ข้อหลัก ในการเตรียมความพร้อมภารกิจของกรมฯ สำหรับอนาคต ได้แก่


ยุทธศาสตร์ที่ 1 การเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการ ให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ โดยจะมุ่งพัฒนาผู้ประกอบให้สามารถใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ อาทิ การสื่อสารแบบ 5G , เทคโนโลยี Cloud , Big Data , Robotics , Machine Learning , Artificial Intelligence มาช่วยในการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ ผ่านการพัฒนาหลักสูตรอบรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับทักษะเดิม และสร้างทักษะใหม่ในการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัล การเสริมสร้างองค์ความรู้ การปรับเปลี่ยนความคิดและความเชื่อ (mindset) เพื่อการปรับตัวสู่การเป็นผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรม (Innovation Driven Enterprises) และด้วยแนวคิด “รักษ์โลก” ภายใต้โมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio Circular and Green) รวมถึงการสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ผ่านการพัฒนาหลักสูตรอบรมต่างๆ ทั้งออฟไลน์และหลักสูตรการเรียนการสอนผ่านระบบ E-learning เพื่อให้ผู้ประกอบการ เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และนักศึกษา ในทุกภูมิภาคของประเทศ สามารถเข้าถึงโอกาสในการพัฒนาศักยภาพได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน

ยุทธศาสตร์ที่ 2 การเดินหน้าเร่งรัดขยายตลาดส่งออกเชิงรุก มุ่งเน้นการเชื่อมโยงกับตลาดต่างประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ เนื่องจากการค้าระหว่างประเทศในยุคดิจิทัล เปลี่ยนโฉมหน้าไปอย่างมาก โดยรูปแบบการทำธุรกิจระหว่างประเทศเปลี่ยนจาก B2B เป็น B2C มากขึ้น โดยช่องทางการซื้อ-ขายสินค้าผ่านตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Marketplace) ทำให้ผู้ซื้อ-ผู้ขายสามารถตกลงธุรกิจกันได้โดยตรง อีกทั้งยังขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆได้ง่ายขึ้น กรมจึงจะมุ่งเน้นส่งเสริมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนเพื่อขยายโอกาสให้ SMEs ไทยเข้าถึงผู้ซื้อ/ผู้บริโภคในต่างประเทศ การพัฒนากิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจทางออนไลน์ (OBM) ระหว่างผู้ส่งออกกับผู้นำเข้าในต่างประเทศ ให้เป็น Smart OBM โดยการนำเทคโนโลยี AI มาเพิ่มประสิทธิภาพในการจับคู่เจรจาธุรกิจให้มีความแม่นยำเพื่อสนับสนุนให้เกิดมูลค่าการซื้อขายมากยิ่งขึ้น และการนำนวัตกรรมการตลาดใหม่ๆมาปรับรูปแบบกิจกรรมของกรมให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของบริบทการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงพัฒนาต่อยอดรูปแบบกิจกรรมที่กรมได้ปรับเปลี่ยนในช่วงการระบาดของโควิด-19 อาทิ งานแสดงสินค้าออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ รวมทั้ง Virtual Trade Show

ยุทธศาสตร์ที่ 3 การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการด้วยนวัตกรรม การสร้างแบรนด์ การออกแบบ และความคิดสร้างสรรค์ โดยกรมจะเดินหน้าบูรณาการการทำงานกับกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการต่อยอดสินค้านวัตกรรมที่เกิดจากงานวิจัยเพื่อการค้าสู่ตลาดโลก เน้นการบ่มเพาะแบรนด์ ผู้ประกอบการ BCG เพื่อสร้าง BCG Heroes ในกลุ่มสินค้าที่ไทยมีศักยภาพสูง อาทิ อาหารแห่งอนาคต อาหารสัตว์เลี้ยง บรรจุภัณฑ์ ไลฟ์สไตล์ และเครื่องสำอาง/ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย นอกจากนี้ จะมุ่งเน้นการใช้ soft power เป็นเครื่องมือในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าของประเทศไทย โดยการใช้ความเข้มแข็งของประเทศไทยด้านวัฒนธรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ และเอกลักษณ์ความเป็นไทย (Thainess) มาสร้างความโดดเด่นให้กับสินค้าและบริการของไทย มุ่งเน้นส่งเสริมการส่งออกอาหารไทย มวยไทย ดิจิทัลคอนเทนต์ (ละคร/ภาพยนตร์ไทย เกมส์ แอนิเมชั่นที่สอดแทรกความเป็นไทย) สปาไทยและผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย รวมถึงร้านอาหารไทย โดยเฉพาะร้านอาหาร Thai Select ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว

ยุทธศาสตร์ที่ 4 การส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยและสินค้าไทย (Country Image และ Product Image) โดยเดินหน้าโครงการสำคัญต่างๆ อาทิ Thailand Trust Mark ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพสินค้าและบริการชั้นนำของไทย/ D Mark / PM Award และการส่งเสริมแบรนด์ประเทศไทยด้านการค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้แคมเปญ BCG # Be the Change รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยสินค้าอาหารของไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์การเป็นศูนย์กลางสินค้าเกษตรและอาหารคุณภาพของโลก

“การขับเคลื่อนการค้าระหว่างประเทศของไทยในอนาคต ต้องอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม และความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน แนวยุทธศาสตร์ 4 ข้อที่ผมกล่าวถึงข้างต้น เป็นแนวทางที่สอดคล้องกับวาระแห่งชาติในการยกระดับการพัฒนาประเทศด้วย 2 โมเดลหลัก คือ โมเดล Thailand 4.0 ซึ่งเป็นการพัฒนาคลัสเตอร์เทคโนโลยีและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต และโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน”นายภูสิตกล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]