โรงพิมพ์สลากฯ 23 ธ.ค. – บอร์ดสลาก ออก 3 มาตรการ แก้ปัญหาสลากเกินราคา รื้อระบบซื้อ จองล่วงหน้า 2 แสนราย เปิดแพลตฟอร์มขายออนไลน์ 80 บาท เดินหน้าขยายจุด 80 บาททุกอำเภอ
นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วยนายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และพันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมแถลงผลประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ผ่าน 3 มาตรการในการแก้ปัญหาสลากเกินราคา ทั้งในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว โดยนายลวรณ กล่าวว่า ปัญหาสลากเกินราคาเกิดปัญหามาต่อเนื่อง อีกทั้งสถานการณ์โควิด-19 จึงมีผู้สนใจหันมาขายสลากรวมทั้งหมด 4 แสนคน ทำให้สลากในตลาด ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ขาย ส่วนใหญ่ไม่มีสลากของตัวเอง จึงต้องไปหาซื้อมาขายอีกทอดหนึ่ง รวมทั้งขายผ่านช่องออนไลน์
บอร์ดสลาก จึงเห็นชอบมาตรการ ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ประกอบด้วย แนวทางแรก การขยายจุดจำหน่ายโครงการ “สลาก 80” ไปทั่วประเทศ ทุกเขต และอำเภอละ 1 จุด โดยคัดเลือกเป็นผู้ขึ้นบัญชีสำรองของแต่ละเขต/อำเภอ โดยยังเปิกกว้าง ให้เปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่ายรายเดิม ส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ 75 จังหวัด อำเภอละ 1–2 จุด รวมจำนวนไม่เกิน 1,000 จุด เริ่มสมัครเพิ่มเติม ตั้งแต่พรุ่งนี้ 24 ธ.ค.2564 – 24 ม.ค.2565 ระยะเวลา 1 เดือน เป็นกลุ่มที่อยู่ในระบบโควตา 25,000 คน ซึ่งได้รับโควตาจำหน่าย 25 เล่ม ด้วยการขายผ่านแอปเป๋าตัง ของ ธ.กรุงไทย
แนวทางที่สอง คือ การรื้อระบบ ซื้อ-จองล่วงหน้าเดิม เพื่อเปิดรับสมัครลงทะเบียนใหม่ทั้งหมด จำนวน 200,000 ราย รับสลาก 5 เล่ม/งวด เปิดให้สมัครผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานสลากฯ เพื่อนำข้อมูลผู้สมัครมาคัดกรองคุณสมบัติ ห้ามข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ พนักงานบริษัท เพราะเป็นผู้มีรายได้เงินเดือนประจำแล้ว จึงต้องการเปิดให้รายย่อยที่ต้องการขายสลาก เข้ามาลงทะเบียน โดยสามารถเช็คคุณสมบัติผ่านระบบข้อมูลได้ทั้งหมด หากมีผู้สมัครเกินจำนวนที่กำหนด จะใช้วิธีเรียงลำดับแบบสุ่มหรือ Random sort ทั้งส่วนกลางและรายจังหวัด เมื่อคัดกรองได้ทั้งหมด ตามรายชื่อผู้ลงทะเบียน จะเริ่ม จำหน่ายตั้งแต่สลากงวดวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป
พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า แนวทางที่สาม สำนักงานสลากฯ ได้พัฒนาช่องทางจำหน่าย ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ภายใต้การขาย สลาก ประเภทและรูปแบบเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงจากปัจจุบัน จึงทำได้โดยไม่ต้องจัดให้ รับฟังความคิดเห็น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและศึกษาผลกระทบทางสังคม โดยเปิดให้ตัวแทนจำหน่ายที่เข้าร่วมโครงการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม เข้ามาสมัครร่วมโครงการ ด้วยการ มอบสลากให้สำนักงานฯ สแกนเข้าระบบ โดยสำนักงานฯ จะเก็บสลากตัวจริงเอาไว้ เพื่อเป็นเป็นหลักฐานในการรับเงินรางวัล
ในระบบนี้ จะต้องลงทะเบียนผู้ซื้อก่อนและจ่ายเงินเข้าบัญชีตัวแทนจำหน่าย ข้อดีของระบบนี้ ระบบการสั่งซื้อจะถูกบันทึกและจัดเก็บไว้ สามารถตรวจสอบข้อมูลการซื้อขายได้ และเมื่อถูกรางวัล ระบบจะแจ้งเตือนให้ติดต่อขอรับเงินรางวัล นอกจากนี้ยังเปิดทางให้ ตัวแทนจำหน่าย โพสต์ขายผ่านเฟซบุ๊ก หรือร้านค้าออนไลน์ในนามชื่อของตนเองได้ เพราะระบบสำนักงานสามารถตรวจสอบได้ เมื่อประชาชนซื้อผ่านออนไลน์ในราคา 80 บาท จะลดปัญหาสลากเกินราคาได้ เพราะตัวแทนจำหน่ายรับสลากในราคา 70.40 บาท เมื่อขายในราคา 80 ยังได้กำไร และจะทบทวนสิทธิ์การจอง-ซื้อล่วงหน้าทุก 2 ปี หากใครทำผิดเงื่อนไขจะห้ามอย่างเด็ดขาด เพื่อหาผู้ขายสลากตัวจริง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า การแก้ปัญหาสลากเกินราคาต้องใช้หลายมาตรการประกอบกัน เนื่องจากปัญหาเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้ง 3 มาตรการ ยอมรับว่า ส่งผลกระทบต่อผู้ขายสลากนอกระบบ และผู้จำหน่ายในส่วนของตลาดดอทคอมต่างๆ และจะทำให้ตลาดออนไลน์เหล่านี้ ต้องกลับมาขายในราคา 80 บาท เมื่อสำนักงานสลากฯ หันมาเปิดแพลตฟอร์มออนไลน์เอง โดยหลังจากนี้ สำนักงานสลากฯ จะกำหนดสัดส่วนการจำหน่ายแบบใบและแบบผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ให้มีความเหมาะสม ขณะที่ระบบจอง-ซื้อล่วงหน้า นับว่ามีสัดส่วนร้อยละ 72 ของตัวแทนจำหน่ายสลากทั้งหมด
โฆษกคณะกรรมการฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปริมาณสลากปัจจุบันจำนวน 100 ล้านฉบับ นับว่า เพียงพอต่อความต้องการของคนซื้อปัจจุบัน และต้องยอมรับว่าช่องทางออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมของกลุ่มคนรุ่นใหม่ และขอยืนยันว่าผู้ค้าในระบบเดิมจะไม่ได้รับผลกระทบ.-สำนักข่าวไทย
