เอกชนเชื่อช่วงสั้น “โอไมครอน” ไม่กระทบเศรษฐกิจไทย

กรุงเทพฯ 7 ธ.ค.- “เอกชน-นักวิชาการ” แนะ WHO ต้องชี้แจงความรุนแรงเชื้อ “โอไมครอน” มีมากน้อยเพียงใดให้ชาวโลกรู้ด่วน แต่ยังมั่นใจระยะสั้นไม่กระทบต่อเศรษฐกิจไทย ย้ำ! มาถูกทางเร่งฉีดวัคซีนคุ้มกันหมู่ ระบุหากเชื้อตัวใหม่ไม่รุนแรงปีหน้าเศรษฐกิจไทยโตได้ไม่ต่ำร้อยละ 5


นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกล่าวว่า แม้ประเทศไทยจะเจอผู้ติดเชื้อโอไมครอน แล้ว 1 ราย ซึ่งเป็นคนต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย ทำให้ขณะนี้ตรวจพบเชื้อตัวนี้แล้ว 47 ประเทศนั้น เท่าที่ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับความรุนแรงของเชื้อตัวนี้ว่าจะเป็นอย่างไร ดังนั้น เห็นว่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลก(WHO) จะต้องสำรวจเชื้อโอไมครอนตัวนี้ว่ามีความรุนแรงสร้างความเสียหายกับชาวโลกอย่างไรและมีตัววัคซีนตัวไหนที่จะป้องกันเชื้อตัวนี้ได้บ้าง เพื่อให้ชาวโลกได้เตรียมตัวและหาทางป้องกันการแพร่เชื้อโอไมครอนกันต่อไป โดยขณะนี้ถือว่าประเทศไทยสามารถเร่งฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิดได้ในระดับที่น่าพอใจ คาดว่าในอีกไม่กี่วันนี้ ไทยจะฉีดวัคซีนได้ถึง 100 ล้านโดส ซึ่งจะทำให้คนไทยมีภูมิป้องกันเชื้อโควิดได้เห็นได้จากขณะนี้ ปริมาณคนติดเชื้อเริ่มลดลงมาอยู่ต่อวันเพียง 3,000-4,000 คนและมองว่าปริมาณนี้น่าจะลดลงได้อีกแน่นอน จึงอยากให้คนไทยที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนให้รีบมารับวัคซีนมากขึ้นเพื่อให้คนไทยมีภูมิคุ้มกันหมู่

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประเทศไทยจะยังไม่ทราบที่แน่ชัดเกี่ยวกับความรุนแรงของเชื้อโอไมครอน แต่ทางรัฐได้ประกาศแนวทางป้องกันชัดเจนเกี่ยวกับการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทั้งคนไทยและชาวต่างชาติอย่างเข้มข้นเพื่อหาเชื้อตัวนี้ไม่ให้เข้ามาในประเทศไทยมากกว่านี้ รวมทั้งยังเชื่อว่าหากคนไทยไม่ประมาทป้องกันตัวตามที่สาธารณสุขกำหนดไว้ เชื่อว่าน่าจะป้องกันการเชื้อได้ ดังนั้น คงจะต้องได้รับความร่วมมือจากคนไทยทั้งประเทศที่จะป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด เพราะเชื่อว่าเชื้อโควิดยังจะอยู่กับคนทั่วโลกไปอีกนาน แม้ว่าเชื้อจะกลายพันธุ์ แต่หากทุกคนมีภูมิคุ้มกันก็จะลดการสูญเสียได้


นอกจากนี้ ภาคเอกชนมองว่าจากผลกระทบเชื้อโอไมครอนที่ตรวจพบในหลายประเทศแล้วขณะนี้ ในช่วงระยะสั้นของปีนี้ ไม่น่าจะกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้มากนัก เพราะภาครัฐเดินมาถูกทางหลังจากคลายล็อกดาวน์ในหลายกิจการทำให้บรรยากาศการค้าการลงทุนรวมถึงการท่องเที่ยวในประเทศเริ่มกลับมาดีขึ้นภายใต้มาตรการดูแลของภาครัฐและความร่วมมือของประชาชน หากเป็นเช่นนี้ได้ก็เชื่อว่าจะส่งผลให้อัตราการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจไทยปี 64 จะเป็นบวกได้ร้อยละ 1-1.5 แต่ยังเห็นว่าหากจะให้ได้ผลภาครัฐควรใช้มาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนเพิ่มเติม เช่น โครงการคนละครึ่ง ช้อบดีมีคืน เพื่อส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทยในช่วงปลายปีไปจนถึงต้นปีหน้าได้

นายสนั่นยังกล่าวอีกว่า หากการแพร่เชื้อโอไมครอนไม่รุนแรงและทั่วโลกป้องกันเชื้อตัวนี้ได้ โอกาสที่เศรษฐกิจไทยในปี 65 จากมาตรการกระตุ้นภาครัฐผ่านโครงการจับจ่ายใช้สอยให้กับประชาชนที่มีเม็ดเงินเข้าระบบกว่า 500,000 ล้านบาท รวมทั้งมาตรการด้านการท่องเที่ยวคนต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น ภาคการส่งออกยังส่งออกสินค้าไทยไปตลาดต่างประเทศทั่วโลกเติบโตได้อีกไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ได้โอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ร้อยละ 5 จึงเป็นไปได้สูง แต่หากเชื้อโอไมครอนรุนแรงและเอาไม่อยู่โอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะไม่ขยายตัวตามเป้าหมายก็เป็นไปได้เช่นกัน

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจกล่าวว่า หากเชื้อโอไมครอนรุนแรงจนถึงขั้นปิดประเทศและล็อกดาวน์ทั่วโลกโอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะกลับมาเติบโตน้อยลง เพราะจะส่งผลกระทบด้านการท่องเที่ยว สายการบิน การส่งออก และการบริโภคของคนทั่วโลกจะกลับมาเหมือนเดิมจากช่วงที่ทั่วโลกได้รับผลกระทบการแพร่เชื้อโควิดในสายพันธุ์ต้นๆ ได้ ดังนั้นในเวลานี้คงต้องติดตามจาก WHO ที่สำรวจเชื้อโอไมครอนว่าจะออกมาว่ารุนแรงแค่ไหนเพื่อให้คนทั่วโลกจะได้เตรียมแผนรับมือกับเชื้อโอไมครอนกันได้ต่อไป


“มองว่าหากเชื้อโอไมครอนไม่รุนแรงโอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวในปีหน้าเป็นไปได้สูงจะส่งผลให้เศรษกิจไทยในปีหน้าเติบโตได้ถึงร้อยละ 4-5 แต่หากเชื้อโอไมครอนรุนแรงและแพร่เชื้อรวดเร็วคุมไม่อยู่ จนถึงขั้นปิดประเทศไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยโอกาสที่เศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะเติบโตเท่ากับปี 64 ได้ แต่หากรุนแรงจนต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ประเทศและภาคธุรกิจอีกโอกาสเศรษฐกิจจะติดลบก็เป็นไปได้เช่นกัน แต่ภาพรวมยังเชื่อว่าโอไมครอนจะไม่รุนแรง เห็นได้จากหลังจากหลายประเทศพบคนติดเชื้อตัวนี้มาเกือบ 2 สัปดาห์ยังไม่มีข่าวถึงขึ้นเสียชีวิต ดังนั้น จึงมองว่าวัคซีนที่มีอยู่น่าจะป้องกันเชื้อตัวนี้ได้” นายธนวรรธน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]