เวียดนามรับจะทบทวนนำเข้าสุกรให้ไทยใหม่

นนทบุรี 7 มิ.ย.-รัฐมนตรีพาณิชย์ ระบุเวียดนามจะทบทวนมาตรการประกาศห้ามนำเข้าสุกรแก่ไทยใหม่ คาดได้รับข่าวดีเร็วๆ นี้ ปลื้มการค้า 2 ฝ่ายขยายตัวเกือบร้อยละ 20 แม้เจอพิษโควิด เตรียมฉลองครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม พร้อมตั้งเป้าเพิ่มการค้าปีนี้ 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับนาย ฟาน จี๊ ทัญ เอกอัครราชทูตแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทยว่า ตนได้หยิบยกกรณีที่เวียดนามตรวจพบเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกรมีชีวิตที่นำเข้าจากประเทศไทย ทำให้ทางเวียดนามเตรียมที่จะออกประกาศระงับการนำเข้าสุกรจากไทยตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนที่จะถึงนี้นั้น โดยได้ชี้แจงกับฝ่ายเวียดนามไทยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก และได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสุกรก่อนการส่งออกทุกขั้นตอนแล้ว และขอให้เวียดนามพิจารณายกเลิกมาตรการนี้ หากก่อนที่ประกาศจะมีผลบังคับใช้เวียดนามตรวจไม่พบโรคในสุกรที่ส่งออกจากไทยก็น่าจะประกาศยกเลิกดังกล่าวได้ ซึ่งทางเวียดนามรับปากจะกลับไปทบทวนเรื่องนี้ให้ไทยอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าจะมีข่าวดีได้เร็วๆนี้


ทั้งนี้ ส่งไทยส่งออกสุกรไปเวียดนามปีละประมาณ 10,000 ล้านบาท จึงได้ขอให้ท่านทูตช่วยประสานทางการเวียดนาม ให้ผ่อนคลายมาตรการเพื่อให้สุกรคุณภาพจากไทยส่งออกไปเวียดนามได้โดยสะดวก เพราะสุกรจากไทยเป็นที่ต้องการของเวียดนามอยู่แล้ว ซึ่งประเทศไทยเข้มงวดเรื่องสุขอนามัยและการส่งออกสุกรไปเวียดนามมาก โดยจะตรวจสุกรทุกล็อตที่ออกจากไทยไปยังชายแดนและส่งออกไปต่างแดนด้วย

อย่างไรก็ตามทูตเวียดนามนำมาหารือ 2 ประเด็น คือ 1 เนื่องจากประเทศไทยต้องเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมการค้าไทย-เวียดนามในปีนี้แต่ติดสถานการณ์โควิด จึงได้ข้อสรุปว่าควรเป็นเดือนสิงหาคมนี้ แต่จะเป็นวันไหนให้ระดับเจ้าหน้าที่ไปกำหนดกันอีกที และ 2 ท่านทูตสนับสนุนความเห็นของตนที่ให้ความเห็นในการประชุมเอเปค ในประเด็นที่ไทยสนับสนุนให้ประเทศต่างๆสามารถใช้สิทธิพิเศษในการผลิตวัคซีนโดยให้เหตุผลสุขอนามัยของประชาชนหรือที่เรียกว่า CL วัคซีน หรือมาตรการใช้ทริปส์ที่ให้ถือว่าวัคซีนปลอดการบังคับใช้สิทธิบัตรชั่วคราว เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆสามารถผลิตวัคซีนได้ จะได้กระจายวัคซีนไปทั่วโลก ทั้งประเทศด้อยพัฒนาและกำลังพัฒนา


ทั้งนี้ ในส่วนของไทยนอกจากเรื่องสุกรแล้ว ยังขอให้เวียดนามประชาสัมพันธ์ งานจับคู่ธุรกิจออนไลน์ระหว่างไทย-เวียดนามที่ไทยจัดขึ้น ในช่วงวันที่ 4-5 สิงหาคมเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน ขอทูตเวียดนามประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับด่านเพื่ออำนวยความสะดวกสินค้าไทยผ่านเวียดนามไปจีน เพราะบางด่านประสบปัญหาการจราจรติดขัด โดยเฉพาะด่านเวียดนาม ฝั่งจีนโหย่วอี้กวน และภาคเอกชนผู้ผลิตยาไทยได้ให้ข้อมูลมาที่กระทรวงพาณิชย์กรณีที่เวียดนามกำหนดหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนยาที่เวียดนามมีความซับซ้อน จึงขอให้ผ่อนคลายกฏระเบียบให้เป็นมาตรฐานอาเซียนหรือ WHO ด้วย เพราะประเด็นนี้จะช่วยการส่งออกยาไปเวียดนาม ส่วนเรื่องน้ำตาล เวียดนามขึ้นภาษีการทำตลาดน้ำตาลไทยในเวียดนามและขึ้นภาษีโดยใช้มาตรการตอบโต้การอุดหนุนโดยโดยคิดภาษีเพิ่มจาก ร้อยละ 5 เพิ่มเป็นทั้งในโควต้าและนอกโควต้าเป็นร้อยละ 51 ขอให้ช่วยพิจารณาผ่อนคลายมาตรการให้เป็นตามกรอบ WTO เป็นหลัก

สำหรับเป้าหมายส่งออกเวียดนาม ได้ตั้งเป้าเพิ่มมูลค้าระหว่างกันจากปัจจุบัน 20,000 ล้านดอลาร์สหรัฐหรือ 500,000 กว่าล้านบาทเป็น 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 750,000 ล้านบาท ในปีนี้ และยังมอบหมายเจ้าหน้าที่อาวุโสทั้ง 2 ประเทศ หารือกันว่าจะต้องใช้เวลากี่ปีและนำมาหารือร่วมกันในการประชุม JTC ร่วมกันในเดือนสิงหาคมต่อไป

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์พร้อมส่งเสริมกิจกรรมที่ทั้ง 2 ฝ่ายอาจร่วมกันจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการฉลองโอกาสครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม ในช่วงเดือนสิงหาคม 2564 นี้ และยินดีกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนามที่เติบโตถึงร้อยละ 2.91 ในปี 2563 รวมทั้งการขยายตัวของการค้าระหว่างไทยกับเวียดนามที่ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 ที่ขยายตัวถึงร้อยละ 19.93 มีมูลค่ารวมกว่า 6,623.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินบาท 199,523.29 ล้านบาท นับเป็นนิมิตหมายที่ดีว่าการค้าระหว่างไทยและเวียดนามยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้น แม้ว่าทั้ง 2 ประเทศจะยังคงเจอปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ตาม


ดังนั้นทั้ง 2 ฝ่ายได้หารือถึงการส่งเสริมการค้าระหว่างกันเพื่อให้การค้า 2 ฝ่ายยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผ่านความร่วมมือที่มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีมาสนับสนุนการค้ามากขึ้น เช่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าในรูปแบบออนไลน์ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และนวัตกรรมการผลิต เพื่อช่วยพัฒนาห่วงโซ่อุปทานภายในภูมิภาค รวมถึงการเพิ่มห่วงโซ่คุณค่าในสินค้าเกษตรที่ทั้งไทยและเวียดนามต่างก็เป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารที่สำคัญของโลก
นอกจากนี้ ไทยได้เน้นย้ำความสำคัญของการอำนวยความสะดวกและลดปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างกันเพื่อให้การค้าสองฝ่ายยังคงขยายตัวได้ต่อไปในช่วงที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยขอให้เวียดนามช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดนจากไทยไปจีน โดยเฉพาะในช่วงฤดูผลไม้ของไทย ซึ่งในทุกปีจะมีการขนส่งผลไม้ผ่านแดนเวียดนามไปยังจีนจำนวนมาก การลดข้อกำหนดในการขอหนังสือรับรองผลิตภัณฑ์ยาที่ส่งออกจากไทยไปยังเวียดนาม

ทั้งนี้ ในปี 2563 เวียดนามเป็นคู่ค้าอันดับที่ 6 ของไทยในโลก และอันดับที่ 3 ของไทยในอาเซียน รองจากมาเลเซีย และสิงคโปร์ การค้าไทย-เวียดนามมีมูลค่า 16,618.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินบาท 517,424.4 ล้านบาท โดยไทยส่งออกไปยังเวียดนาม 11,163.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินบาท 346,063.4 ล้านบาท และนำเข้าจากเวียดนาม 5,454.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินบาท 171,361.04 ล้านบาท สำหรับ 4 เดือนแรกของปี 2564 ตั้งแต่มกราคม-เมษายน 64 การค้าไทย-เวียดนามมีมูลค่า 6,623.92 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท 199,523.29 ล้านบาท โดยมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 19.93 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 เป็นการส่งออกมูลค่า 4,314.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท 129,294.27 ล้านบาท และเป็นการนำเข้ามูลค่า 2,309.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท 70,229.02 ล้านบาท โดยสินค้าส่งออกหลักของไทยไปเวียดนาม คือ รถยนต์และส่วนประกอบ และสินค้านำเข้าสำคัญของไทยจากเวียดนาม คือ โทรศัพท์มือถือและอื่นๆเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]