ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดสัมมาธุรกิจครอบครัวแห่งปี

สัมมาธุรกิจครอบครัว

กรุงเทพ 26 ก.ย.-ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดสัมมนาธุรกิจครอบครัวแห่งปี เพื่อพลิกอนาคตธุรกิจครอบครัวให้เติบโตอย่างยั่งยืน และลบคำสบประมาทที่ว่า ธุรกิจครอบครัวจะสิ้นสุดภายใน 3 รุ่น


ศาสตราจารย์พิเศษ กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ และพันธมิตร ยังคงมุ่งมั่นให้ความสำคัญในการสนับสนุน และพัฒนาธุรกิจครอบครัวไทยให้เข้มแข็ง และเติบโตเป็นเสาหลักเป็นกำสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดทุน และเศรษฐกิจไทยอย่างแท้จริง อีกทั้งเรื่องธุรกิจครอบครัว กำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญในยุคความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และการก้าวเข้าสู่ยุค AI เต็มตัว โดยตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี นอกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเป็นผู้นำในการเปิดเวทีจัดงานสัมมนา SET Annual Conference on Family Business แล้วการดำเนินโครงการต่างๆ ร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อสนับสนุนธุรกิจครอบครัว ให้สามารถปรับตัวและเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนไปทั้งระบบนิเวศ มีหลายโครงการ อาทิ โครงการสนับสนุนทุนวิจัยสำหรับอาจารย์ ในการผลิตงานวิจัยเกี่ยวกับธุรกิจครอบครัวไทย เพื่อส่งเสริมให้เกิดงานวิจัยที่มีคุณภาพ และสนับสนุนให้อาจารย์และผู้เชี่ยวชาญในสถาบันการศึกษาได้ศึกษาวิจัยในประเด็นที่เชื่อมโยงระหว่างธุรกิจครอบครัว ตลาดทุนไทยและเศรษฐกิจไทย ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับความสนใจอย่างยิ่งจากนักวิจัย มีผู้ร่วมยื่นข้อเสนอรับทุนรวมกว่า 30 หัวข้องานวิจัย และมีหัวข้องานวิจัยที่ผ่านเข้ารอบ 6 หัวข้อ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถเผยแพร่ผลงานวิจัยได้ทั้งหมดรวมถึง ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการพัฒนาฐานข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียนที่จัดเป็นธุรกิจครอบครัวในตลาดหุ้นไทย เพื่อเป็นฐานข้อมูลผลิตงานวิจัยสำหรับผู้ที่สนใจทั่วไป

โครงการ Family Business Thailand โดยความร่วมมือระหว่าง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการบริหารจัดการธุรกิจครอบครัว ให้มีองค์ความรู้ด้านบริหารจัดการธุรกิจ และการตลาดด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมทั้งกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ อันจะนำมาซึ่งข้อมูลที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ในการเสริมสร้างโอกาสทางการค้าและการบริหารเครือข่ายให้แก่ธุรกิจครอบครัว


โครงการห้องเรียนธุรกิจครอบครัว บน LiVE Platform ที่ให้ธุรกิจครอบครัวเข้ามาเรียนรู้โดยการพัฒนาความรู้ที่สำคัญ และจำเป็นเฉพาะด้านสำหรับธุรกิจครอบครัว มีการเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมาช่วยกันพัฒนาเนื้อหาหลักสูตรและเผยแพร่องค์ความรู้ ประสบการณ์ร่วมกัน ปัจจุบันมีเนื้อหาหลักสูตรกว่า 180 ชิ้น ในหลากหลายรูปแบบ อาทิ e-Learning คลิป บทความ มีผู้ได้รับความรู้ไปแล้วกว่า 1 หมื่นราย

นอกจากโครงการเหล่านี้ที่ต้องทำต่อเนื่องแล้ว ในอนาคตตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงเป็น “บ้านแห่งโอกาส” สำหรับธุรกิจครอบครัวไทย ในการเดินหน้าร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อให้การทำงานผ่านโครงการ กิจกรรมต่างๆ มีความยั่งยืน เกิดประโยชน์ที่แท้จริงกับธุรกิจครอบครัวไทย ตลาดทุนและประเทศไทย ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อการร่วมมือกัน พลิกอนาคตธุรกิจครอบครัว ให้โตอย่างยั่งยืนรวมถึงเป็นการ “ลบคำสาป” ที่ว่า ธุรกิจครอบครัวจะจบสิ้นภายใน 3 รุ่น

ในโอกาสนี้ ขอให้ 8 แนวทางในการ Transformation ของธุรกิจครอบครัวไทย สู่ยุค AI เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน


1.ประเมินความพร้อมขององค์กร และทำความเข้าใจศักยภาพของ AI ในการกำหนดกลยุทธ์เป้าหมายว่า AI จะนำไปสู่ความสำเร็จของธุรกิจได้อย่างไร โดยควรมีการกำหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมายค่านิยมของธุรกิจให้ชัดเจน วางแผนการนำ AI มาใช้ให้สอดคล้องกับเป้าหมายระยะสั้นและยาว และพิจารณาปัญหาที่ AI จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างไร รวมถึงดูว่าคู่แข่งหรือคู่ค้าทางธุรกิจแบบเดียวกันใช้ AI ในรูปแบบใด ทั้งนี้ ควรใช้ที่ปรึกษา หรือกรรมการมืออาชีพที่มีความรู้ในเรื่อง AI มาช่วยพัฒนาระบบ AI และการใช้งาน

    2.พิจารณาโอกาสและความเสี่ยง วิเคราะห์โอกาส อุปสรรค และความเสี่ยงจากการใช้ AI อย่างรอบคอบ รวมถึงในประเด็นกฎหมาย ความรับผิดชอบ การลงทุน พัฒนาทักษะบุคลากรและวัฒนธรรมองค์กรเพื่อให้บุคลากรเรียนรู้ อบรมและพัฒนาทักษะดิจิทัล เพื่อให้ผู้บริหารให้เข้าใจ AI และเทคโนโลยีใหม่ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจครอบครัวได้ถูกต้องตามหลักจริยธรรมและกฎหมาย

    3.สร้างวัฒนธรรมนวัตกรรม ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ทดลอง และอาศัยศึกษาจากความล้มเหลวผิดพลาดการไม่ใช้หรือการใช้ AI ในองค์กรอื่น โดยสามารถปรับปรุงวิธีการทำงานและการปรับโครงสร้างองค์กรให้สอดคล้องกัน ทั้งนี้ควรมีที่ปรึกษาหรือกรรมการมืออาชีพที่มีความรู้ในเรื่องนี้มาช่วยให้คำแนะนำเช่นกัน

    4.เพิ่มบทบาททายาทรุ่นใหม่ เปิดโอกาสให้ Next Gen รุ่น X, Y, Z มีส่วนร่วมในการนำ AI และเทคโนโลยีใหม่เข้าสู่ธุรกิจ โดยมอบหมายอำนาจในการบริหารจัดการภายใต้ที่ปรึกษาหรือกรรมการมืออาชีพที่มีความรู้ด้าน AI มาช่วยแนะนำ อีกทั้งผู้ส่งมอบธุรกิจต้องสนับสนุนทั้งการลงทุนและควรเรียนรู้เรื่องดังกล่าวด้วยตนเอง รวมถึงควรทดลองนำ AI มาใช้ในการทำงานของตนเองด้วย

    5.ยินยอมกระจายอำนาจการตัดสินใจ โดยมอบหมายงานและกระจายอำนาจให้กับทายาทรุ่นใหม่ๆ ที่มีความสามารถในเรื่อง AI มากขึ้น เพื่อลดความล่าช้าในการปรับตัว โดยกำหนดระยะเวลาเป้าหมายชัดเจนและเงินลงทุนที่เหมาะสม หรืออาจแยกธุรกิจ AI ออกมาให้คนรุ่นใหม่บริหารเพื่อสนับสนุนธุรกิจอื่นๆ ด้วย หากมีธุรกิจหลากหลาย

    6.ลงทุนในบุคลากร เทคโนโลยี และระบบข้อมูล และลงทุนพัฒนาทักษะของผู้บริหาร พนักงานเรื่อง AI อย่างจริงจัง เช่น การลงทุนในเทคโนโลยี ย้ายข้อมูลสู่ระบบคลาวด์, ใช้ Hybrid Cloud เพื่อความยืดหยุ่นและลดต้นทุนในการทำงาน โดยอาจเลือกลงทุนในโครงการที่เล็กๆ ก่อนสำหรับผู้ที่ยังไม่มั่นใจ ทั้งนี้ ควรศึกษาจากตัวอย่างธุรกิจที่มีการนำ AI และ IoT มาใช้ เช่น ระบบ Smart Farm, ระบบอัตโนมัติในโรงงาน, Chatbot สำหรับบริการลูกค้า

    7.บริหารจัดการความเสี่ยงและจริยธรรม หากธุรกิจครอบครัวนำ AI มาใช้ ก็จะต้องวางนโยบายการใช้ AI อย่างรับผิดชอบ คำนึงถึงผลกระทบทางจริยธรรม ความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยไซเบอร์ รวมถึงปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการใช้ AI เป็นไปตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยเป็นไปตามแนวนโยบายของรัฐบาล

    8.วัดผลและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเทคโนโลยี AI เปลี่ยนแปลงเร็วมาก ต้องมีการวัดผลและตัดสินใจปรับปรุงให้ดีขึ้นโดยเร็ว และติดตามนโยบายและสถานการณ์ การส่งเสริมจากภาครัฐในเรื่องมาตรการภาษี BOI หรือเงินสนับสนุนจากภาครัฐพร้อมๆ กันไป

    ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวด้วยว่า ฐานข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รวบรวมไว้มาแชร์ให้ทราบว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2565-2567) บริษัทธุรกิจครอบครัวใช้กลไกของตลาดหุ้นไทยในการระดมทุนเพื่อขยายกิจการ และเติบโตอย่างต่อเนื่อง

    • มูลค่าสินทรัพย์เติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 9% ต่อปี และมีสัดส่วน 55% ของสินทรัพย์รวมทั้งตลาด
    • รายได้รวม ยังคงเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 11% ต่อปี และมีสัดส่วน 48% ของรายได้รวมทั้งตลาด
    • กำไรรวม มีการผันผวนไปตามภาวะตลาด แต่ก็ยังมีสัดส่วนเฉลี่ย 54% ของกำไรรวมทั้งตลาด
    • สัดส่วน Market Cap บริษัทที่เป็น Family Business ต่อ Total Market Cap เฉลี่ย 3 ปี อยู่ในระดับ 53%
    • การจ้างงาน 3 ปีที่ผ่านมา มีการจ้างงานเฉลี่ยมากถึง 1 ล้าน 4 แสนอัตรา หรือร้อยละ 74 ของการจ้างงานทั้งหมดของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย

    จากข้อมูลตัวเลขข้างต้นนี้ ทำให้เห็นได้ว่า บริษัทธุรกิจครอบครัวได้รับประโยชน์จากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อตลาดทุนไทยเป็นอย่างมาก.- 513 สำนักข่าวไทย

    ดูข่าวเพิ่มเติม

    Top Viewed • อ่านมากสุด

    ดูทั้งหมด

    หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

    ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

    “อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

    ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

    โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

    กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

    กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

    กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

    ข่าวแนะนำ

    สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

    29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

    เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

    29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

    แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

    29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

    ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

    29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]