ทางหลวงฯ เร่งนำเครื่องจักรจัดการดินสไลด์ให้ประชาชนสัญจรได้

4 ก.ย. – กรมทางหลวงชนบท ระดมกำลังเจ้าหน้าที่นำกระสอบทรายวางตามแนวบ้านเรือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน พร้อมนำเครื่องมือเครื่องจักรเข้าจัดการดินสไลด์เพื่อให้ประชาชนสัญจรได้อย่างปลอดภัย

นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ในขณะนี้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ ปัจจุบันในส่วนของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ยังได้สั่งการไปยังสำนักงานทางหลวงชนบท และแขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจโครงข่ายทางหลวงชนบทที่อยู่ในความรับผิดชอบ ซึ่งหากพบว่ามีเส้นทางที่ได้รับผลกระทบให้เร่งติดตั้งป้ายเตือน ป้ายทางเลี่ยง ป้ายบอกระดับน้ำ สัญญาณไฟกระพริบ ปักเสาตามแนวเขตทาง ตลอดจนอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน อาทิ แขวงทางหลวงชนบทเพชรบูรณ์ ได้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่แจกจ่ายกระสอบทรายและวางกระสอบทรายเป็นแนวกันน้ำตามบ้านเรือนของประชาชน รวมไปถึงในบางสายทางที่ระดับน้ำลดลงแล้ว ได้เร่งทำความสะอาดถนนเพื่อประชาชนสัญจรได้อย่างปกติต่อไป นอกจากนี้ยังมีในส่วนของแขวงทางหลวงชนบทแม่ฮ่องสอน ได้นำเครื่องจักรเข้าดำเนินการจัดการพื้นที่บริเวณที่มีดินสไลด์บนโครงข่ายทางหลวงชนบท เพื่อให้ประชาชนสัญจรผ่านได้โดยเร็ว และให้การเดินทางเป็นไปด้วยความสะดวกปลอดภัย

ซึ่งขณะนี้ (4 ก.ย. 68 เวลา 09.30 น.) สำนักบำรุงทาง กรมทางหลวงชนบท ได้รายงานสายทางที่ได้รับผลกระทบในปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 11 สายทาง ใน 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดแพร่ จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดนครพนม แบ่งเป็น สัญจรผ่านไม่ได้ 5 สายทาง สัญจรผ่านได้ 6 สายทาง ดังนี้

1. พร.001 สะพานข้ามแม่น้ำยม อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ กม.ที่ 0+485 – 1+185 น้ำกัดเซาะคอสะพานขาด (ผ่านไม่ได้)
2. มส.014 สะพานบ้านป่าปุ๊ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน กม.ที่ 0+000 – 0+000 สะพานชำรุดเสียหาย (ผ่านไม่ได้)
3. มส.4009 แยก ทล.1263 (กม.ที่ 12+100) – บ้านแม่จ๋า อ.ขุนยวม, เมือง จ.แม่ฮ่องสอน กม.ที่ 26+400 – 47+000 ดินไหล่เขาข้างทางเกิดการ Slide ปิดทับเส้นทาง (ผ่านไม่ได้)
4. นภ.3037 ถนนผังเมืองรวมเมืองหนองบัวลำภู สาย ก อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู กม.ที่ 2+400 – 3+400 น้ำหลาก (ผ่านไม่ได้)
5. นภ.3003 แยก ทล.228 (กม.ที่ 4+100) – บ้านจอมทอง อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู กม.ที่ 44+050 – 45+000 น้ำหลาก (ผ่านไม่ได้)
6. ชม.4032 แยก ทล.1141 (กม.ที่ 3+400) – บ้านท่าวังพร้าว อ.เมือง, สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ กม.ที่ 3+590 – 3+060 น้ำไหลกัดเซาะไหล่ทางชำรุดเสียหาย (ผ่านได้)
7. มส.4015 แยก ทล.1095 (กม.ที่ 165+800) – บ้านปางคอง อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน กม.ที่ 21+900 – 22+300 น้ำไหลกัดเซาะผิวจราจรและไหล่ทางชำรุดเสียหาย (ผ่านได้)
8. นพ.2045 แยก ทล. 22 (กม.ที่ 226+178) – บ้านคำเตย อ.เมือง, ท่าอุเทน จ.นครพนม กม.ที่ 25+000 – 25+100 น้ำหลาก (ผ่านได้)
9. นภ.3038 ถนนผังเมืองรวมเมืองหนองบัวลำภู สาย ข อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู กม.ที่ 3+200 – 3+400 น้ำหลาก (ผ่านได้)
10. พล.2005 แยก ทล.11 (กม.ที่ 25+100) – บ้านท่าหมื่นราม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก กม.ที่ 4+050 – 4+950 น้ำหลาก (ผ่านได้)
11. พช.2044 แยก ทล.21 (กม.ที่ 247+600) – บ้านโพธิ์ทอง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ กม.ที่ 5+800 – 6+000 น้ำหลาก (ผ่านได้)

ทั้งนี้ ทช. ยังได้เฝ้าระวังในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุดินสไลด์ หรือคอสะพานชำรุดในโครงข่ายสายทางที่อยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและอำนวยความสะดวกปลอดภัยในการสัญจรให้กับพี่น้องประชาชน โดย ทช. จะรายงานสถานการณ์ให้ประชาชนได้รับทราบเป็นระยะ และขอความร่วมมือประชาชนโปรดระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษและโปรดสังเกตป้ายเตือน ซึ่งสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่แขวงทางหลวงชนบททั่วประเทศหรือติดต่อสายด่วนกรมทางหลวงชนบท โทร. 1146. -513-สำนักข่าวไทย