กรุงเทพฯ 3 ก.ย. – นักวิชาการ ภาคเอกชน ห่วงปัญหาเศรษฐกิจ ช่วงการเมืองวุ่นวาย วอนเร่งรัดงบปี 69 หาทางช่วยเอสเอ็มอี ร้านค้ารายย่อย ฟื้นเศรษฐกิจชายแดน
รศ.ดร.มนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิทยาการการจัดการสำหรับนักบริหารร ะดับสูง (วบส.) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมือง มีทั้งเรื่องการทูลเกล้าฯ เสนอยุบสภา ขณะที่พรรคประชาชน หนุนยกมือให้ “อนุทิน” เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ สังคมจึงมองว่า ประธานสภา ต้องรอดูว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ ยุบสภาหรือไม่ ในช่วงเสนอยุบสภา ท่ามกลางช่วงรอยต่อนี้ ยังมีปัญหาเศรษฐกิจรอแก้ไขอีกมากในช่วงระยะสั้น
แม้จะตั้งรัฐบาลใหม่ ต้องยุบสภาตามข้อตกลงในอีก 4 เดือนข้างหน้า แต่การมีรัฐบาลใหม่ในช่วงเวลาจำกัด อาจมีปัจจัยบวกจุดประกายให้มีความหวังขึ้นมาบ้าง ท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว การขาดดุลงบปี 69 วงเงิน 8 แสนล้านบาท ต้องหวังให้มีการเร่งรัดลงทุนออกสู่ระบบ การส่งออกครึ่งปีหลังซบเซา หลังได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐร้อยละ 19 แม้เป็นช่วงรอยต่อทางการเมือง กระทรวงคลัง พาณิชย์ อุตสาหกรรม ต้องทำงานหนักแม้ไม่ใช่ออกนโยบายเชิงหาเสียง แต่ต้องหาทางช่วยเหลือเอสเอ็มอีและประชาชน เพราะเศรษฐกิจไทยมีปัญหามากช่วงนี้
นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานยุทธศาสตร์สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยช่วงนี้เปราะบางอย่างมาก หลายฝ่ายคาดว่าจีดีพีในปี 68 เติบโตร้อยละ 2 นับว่ารั้งท้ายสุดในกลุ่มอาเซียน โดยคาดการณ์เวียดนามเติบโตร้อยละ 8 ฟิลิปปินส์โตร้อยละ 5.5 อินโดนิเซียเติบโตร้อยละ 5.1 มาเลเซียร้อยละ 4.4 ประเทศเพื่อนบ้านเหมือนวิ่งบนถนนคอนกรีต ส่วนไทยวิ่งบนถนนลูกรังฝุ่นตลบ
แม้ไทยจะมีรัฐบาลรักษาการเพียงช่วงสั้น แต่ขอให้ผลักดันมาตรการดูแลรายย่อย ฟื้นเศรษฐกิจชายแดนไทย-กัมพูชา เพราะมีความเสียหายหนักในช่วงที่ผ่านมา หาทางดึงแรงงานต่างชาติจากประเทศอื่นเข้ามาชดเชย ส่งเสริมการนำเทคโนโลยี และ AI เข้ามาใช้พัฒนากิจการ ยอมรับปัญหาการเมืองก็ต้องเร่งแก้ไข แต่ปัญหาปากท้องชาวบ้านต้องลืมไม่ได้ แม้จะเป็นช่วงรัฐบาลรักษาการ ยังจำเป็นต้องผลักเศรษฐกิจคนเดือนร้อนอีกหลายด้าน.-515- สำนักข่าวไทย