สั่งการทุกหน่วยงาน “คมนาคม” รับมือพายุ “วิภา”

กรุงเทพฯ 23 ก.ค. – “สุริยะ” สั่งการทุกหน่วยงาน “คมนาคม” รับมือพายุวิภา จัดเจ้าหน้าที่-อุปกรณ์ ช่วยเหลือประชาชนทันที-มีประสิทธิภาพ กำชับทุกฝ่ายเกาะติดสถานการณ์ 24 ชั่วโมง ดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้ผลกระทบอย่างใกล้ชิด


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้พายุโซนร้อนวิภากำลังพาดผ่านประเทศไทย ส่งผลให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ต้องเผชิญกับลมพายุและฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน และมีความเสี่ยงดินโคลนถล่ม จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ดำเนินมาตรการความปลอดภัยสูงสุด เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้

กรมทางหลวง (ทล.) จัดเตรียมป้ายเตือนอันตราย ป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยง – ทางลัด และเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะถนนสายหลักและเส้นทางภูเขาที่มีความเสี่ยงดินโคลนถล่ม อาทิ จังหวัดน่าน พะเยา เชียงราย แพร่ และลำปาง เฝ้าระวังจุดเสี่ยงน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำและทางหลวงสายสำคัญ พร้อมจัดเตรียมเครื่องจักรเพื่อแก้ไขสถานการณ์ได้ทันทีหากเกิดเหตุฉุกเฉิน อีกทั้งให้ประสานการทำงานกับหน่วยงานท้องถิ่น และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนประชาชนและผู้ใช้ทางอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ทล. ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมและดินสไลด์ในโครงข่ายทางหลวง ข้อมูล ณ 23 กรกฎาคม 2568 เวลา 11.30 น. พบ 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย (10 สายทาง 14 แห่ง) น่าน (5 สายทาง 8 แห่ง) และพะเยา (5 สายทาง 7 แห่ง) รวม 29 แห่ง การจราจรผ่านได้ 22 แห่ง ผ่านไม่ได้ 7 แห่ง ขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีฝนตกหนัก ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และสอบถามเส้นทางผ่านสายด่วน ทล. โทร. 1586 ตลอด 24 ชั่วโมง


ส่วนกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้กำชับให้หน่วยงานในพื้นที่จัดเจ้าหน้าที่ให้ลงพื้นที่ตรวจสายทางที่อยู่ในความรับผิดชอบอย่างใกล้ชิด หากพบถนนที่ได้รับผลกระทบทั้งสัญจรผ่านได้และผ่านไม่ได้ให้เร่งดำเนินการนำเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย เข้าติดตั้งเพื่อแจ้งเตือนประชาชนผู้ใช้เส้นทางระมัดระวังในการขับขี่สัญจรทันที พร้อมรายงานสถานการณ์เข้าสู่ระบบบริหารจัดการงานอุทกภัย ทช. หรือ FMS เพื่อให้ผู้บริหารและประชาชนได้รับทราบเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว สามารถแจ้งเหตุสายด่วน ทช. โทร. 1146 ข้อมูล ณ 23 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.30 น. มีสายทางที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม 3 จังหวัด สามารถสัญจรผ่านได้ ดังนี้ 1) ชม.3018 แยก ทล.108 – บ้านกิ่วแลป่าเป้า อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ช่วง กม. ที่ 11+730 – 11+740 2) พร.6040 บ้านน้ำพุ – บ้านแม่แรม อำเภอร้องกวาง อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ช่วง กม. ที่ 5+280 – 6+150 และ 3) อบ.4038 แยก ทล.2173 – บ้านพิบูลมังสาหาร อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ช่วง กม. ที่ 18+000 – 18+200

กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งดำเนินมาตรการป้องกันน้ำท่วมในระบบขนส่งทางราง โดยเน้นการทำความสะอาดและปรับปรุงระบบระบายน้ำ ขุดลอกทางน้ำธรรมชาติ จัดเจ้าหน้าที่สำรวจพื้นที่เสี่ยง และจัดหาเครื่องมือวัดปริมาณน้ำฝน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยเกิดน้ำท่วมซ้ำซาก เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินรถ ทั้งนี้ รฟท. ได้เตรียมความพร้อมโดยกำชับทุกฝ่ายให้เข้มงวดมาตรการความปลอดภัยและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอุปกรณ์ทั้งรางรถไฟและตัวรถ อาณัติสัญญาณ เครื่องกั้นอัตโนมัติให้พร้อมใช้งาน และสำรองพนักงานรถจักรสำหรับภารกิจเผชิญเหตุ รวมถึงตรวจเช็กระบบต่าง ๆ ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ ติดตามปริมาณน้ำฝน ประเมินสถานการณ์ จัดหาสถานที่พักคอยผู้โดยสาร และขอความร่วมมือผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังบริเวณจุดตัดเสมอระดับและอุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟ โดยให้สังเกตป้ายและสัญญาณเตือนระดับน้ำ เพื่อความปลอดภัย

ขณะที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้แจ้งให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางออกจากประเทศไทยไปยังในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เช่น ฮ่องกง มาเก๊า และเซินเจิ้น เป็นต้น ตรวจสอบข่าวสารและสถานะของเที่ยวบิน หากได้รับผลกระทบจากเที่ยวบินล่าช้าหรือการยกเลิกเที่ยวบิน จะได้รับการคุ้มครองสิทธิทั้งในเที่ยวบินแบบประจำในประเทศและระหว่างประเทศ เช่น การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินหรือการขอรับเงินค่าโดยสารคืนเต็มจำนวน แต่ยกเว้นการรับค่าชดเชยเนื่องจากเกิดจากเหตุการณ์ภายนอกที่ไม่อาจคาดหมายและไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.caat.or.th/th/archives/97266 หรือ โทร. 0 2568 8800 สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศไทยจากสนามบินที่ได้รับผลกระทบให้ตรวจสอบสิทธิและทางเลือกจากเว็บไซต์ของสายการบินที่เดินทาง


ด้านบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ได้ออกมาตรการรองรับสภาพอากาศที่อาจส่งผลกระทบการบินเพื่อเพิ่มระดับของความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการจัดการจราจรทางอากาศ ตามแนวทางขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) 4 ด้าน ประกอบด้วย 1) การให้บริการจราจรทางอากาศและการปฏิบัติการบิน 2) การให้บริการเครื่องอำนวยความสะดวกการเดินอากาศ โดยให้เฝ้าระวังและเตรียมการรองรับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ 3) ลักษณะทางกายภาพของสนามบิน เช่น ทางวิ่ง ทางขับ และอื่น ๆ จนส่งผลต่อการให้บริการจราจรทางอากาศ และ 4) อาคารสถานที่ของ บวท. โดยให้ตรวจสอบสภาพการใช้งาน ความมั่นคงแข็งแรง รวมทั้งให้กำหนดแนวทางการบริหารความคล่องตัวการจราจรทางอากาศ เพื่อให้ทุกเที่ยวบินเกิดความสะดวก และความปลอดภัยทางการบินสูงสุด

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) รายงานว่า ท่าอากาศยานในสังกัด ทอท. มีการดำเนินการโดยท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้จัดเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่ พร้อมให้บริการในการเปิดศูนย์ประสานงานบริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ชั้น 1 ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุกรณีเกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมขังภายในเขตสนามบินอย่างเคร่งครัด โดยจะมีการประชุมติดตามและประเมินสถานการณ์เป็นประจำทุกวัน เวลา 09.00 น. เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างทันท่วงที รวมถึงได้เปิดพื้นที่สำหรับจอดยานพาหนะ เพื่อช่วยเหลือพนักงานและประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบ สามารถรองรับรถยนต์ได้ประมาณ 250 คัน ขณะที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย อนุญาตให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังบ้านเรือน นำรถยนต์มาจอดบริเวณถนนเส้นทางบ้านพักพนักงานได้ ช่วงวันที่ 23 – 24 กรกฎาคม 2568 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด โดยเที่ยวบินยังเข้า – ออกได้ปกติ

ในส่วนของกรมเจ้าท่า (จท.) ได้ออกประกาศ จท. ที่ 152/2568 เรื่องให้ระมัดระวังการเดินเรือ เนื่องจากจากอิทธิพลของพายุวิภา และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ควรงดออกจากฝั่ง เพื่อความปลอดภัยในการเดินเรือ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมและทุกหน่วยงานเกี่ยวเกี่ยวข้อง พร้อมที่จะเข้าดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้สถานการณ์ดังกล่าวเกิดผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชน แต่หากมีสถานการณ์ผิดปกติจะเร่งส่งหน่วยงานเข้าลงพื้นที่และเร่งจัดการโดยทันที พร้อมกันนี้ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม หรือแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายระหว่างเดินทางติดต่อได้ที่ สายด่วน กระทรวงคมนาคม 1356 ทล. 1586 ทช. 1146 การรถไฟแห่งประเทศไทย 1690 AOT Contact Center 1722 และกรมเจ้าท่า 1199. -513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]