กลุ่มทิสโก้ เผยไตรมาส 2/68 กำไรสุทธิ 1,644 ล้านบาท ลดลง 6.2%

15 ก.ค. – กลุ่มทิสโก้ เผยไตรมาส 2/ 68 กำไรสุทธิ 1,644 ล้านบาท ลดลง 6.2% ส่งผลงวดครึ่งแรกปี 2568 กำไรสุทธิ 3,287 ล้านบาท ลดลง 5.7% ผลจากภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ความเสี่ยงสูงขึ้น พร้อมช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ต่อเนื่อง เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจช่วงครึ่งปีหลังด้วยความรอบคอบ ยึดแนวทางธุรกิจยั่งยืน


นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ (Mr. Sakchai Peechapat, Group Chief Executive, TISCO Financial Group Public Company Limited) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน แม้จะได้รับแรงสนับสนุนจากการส่งออกที่เร่งตัวขึ้นก่อนมาตรการภาษีศุลกากรสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้ แต่อุปสงค์ภายในประเทศกลับอ่อนแรงลงอย่างชัดเจน โดยมีสาเหตุหลักจากการชะลอการลงทุนของภาคเอกชน และความระมัดระวังในการใช้จ่ายของครัวเรือน อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตและปัญหาหนี้สิน ขณะเดียวกันภาคการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่เต็มประสิทธิภาพ

สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรก กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิ 3,287 ล้านบาท ลดลง 5.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุจากรายได้ธุรกิจหลักปรับตัวลดลง โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงสืบเนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย และการลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ภายใต้โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ขณะที่ธุรกิจสินเชื่อยังคงขยายตัวที่ 1.4% จากปีก่อน จากกลุ่มสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เป็นหลัก ส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวในกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคล จากการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในกลุ่มแบรนด์รถยนต์เป้าหมาย พร้อมคัดสรรการเติบโตไปในกลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพดี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้สามารถเพิ่มอัตราการเข้าถึง (Penetration Rate) ในกลุ่มรถยนต์ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมียอดสินเชื่อปล่อยใหม่เติบโตขึ้นถึง 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน


อย่างไรก็ดี รายได้ค่าธรรมเนียมโดยรวมได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดทุนที่ยังคงผันผวน แต่การฟื้นตัวของสินเชื่อเช่าซื้อช่วยหนุนให้รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยกลับมาเติบโตอีกครั้ง อีกทั้ง ธุรกิจจัดการกองทุน บลจ.ทิสโก้ จำกัด ยังคงสร้างผลงานโดดเด่น โดยสามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่เข้ามาเป็นลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพการให้บริการ และตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน กลุ่มทิสโก้ยังคงดำเนินนโยบายควบคุมจัดการค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยชะลอการขยายสาขาใหม่และมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของสาขาเดิมให้ดียิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ยังเดินหน้าตั้งสำรองตามแผน เพื่อรองรับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง

ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวในครึ่งปีหลัง และมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค จากแรงกดดันด้านการส่งออก การท่องเที่ยว และความไม่แน่นอนทางการเมือง ขณะที่กำลังซื้อภายในประเทศยังคงอ่อนแอจากรายได้ที่ไม่เพิ่มขึ้นและภาระหนี้ครัวเรือน กลุ่มทิสโก้ยังคงยึดมั่นในยุทธศาสตร์ “ธุรกิจยั่งยืน” (Sustainable Focus) โดยให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ พร้อมปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง ควบคู่กับการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดผ่านโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี โดยมีลูกหนี้ที่เข้าเกณฑ์ได้รับความช่วยเหลือแล้วกว่า 40% พร้อมขยายความช่วยเหลือต่อเนื่องในเฟสที่สอง ขณะเดียวกันจะเดินหน้าบริการที่ปรึกษาทางการเงินแบบองค์รวม (Holistic Advisory) ครอบคลุมทั้งด้านการลงทุนและการวางแผนสุขภาพ ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนของลูกค้าในทุกช่วงชีวิต

สรุปผลประกอบการสำหรับงวดไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกของปี 2568


ผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้สำหรับไตรมาส 2 ปี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 1,644 ล้านบาท ลดลง 6.2% เทียบกับไตรมาส 2 ปี 2567 จากรายได้รวมที่อ่อนตัวลง 2.9% เนื่องมาจากการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้สอดคล้องกับการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงการลดภาระดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้ในโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” อีกทั้ง รายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจที่เกี่ยวกับตลาดทุนชะลอตัวลง ตามปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ลดลงในภาวะตลาดทุนที่ไม่เอื้ออำนวย นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss – ECL) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.0% ของสินเชื่อเฉลี่ย ตามแผนการปรับสำรองกลับเข้าสู่ระดับปกติ พร้อมรองรับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง ในขณะเดียวกัน บริษัทยังคงดำเนินการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปรับลดลง 7.0%

อย่างไรก็ดี ผลกำไรงวดไตรมาส 2 ปี 2568 อยู่ในระดับเดียวกันกับไตรมาส 1 ปี 2568 จากรายได้รวมที่เติบโต 2.4% ชดเชยกับค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) ที่เพิ่มสูงขึ้น รายได้ดอกเบี้ยสุทธิทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า ในขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมขยายตัว โดยเฉพาะธุรกิจธนาคารพาณิชย์และนายหน้าประกันภัย รวมถึงผลกำไรจากพอร์ตเงินลงทุน บริษัทยังคงควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงต่อเนื่อง 2.3% ส่งผลให้กำไรก่อนการตั้งสำรองเติบโต

สำหรับกำไรสุทธิของบริษัทงวดครึ่งปีแรกของปี 2568 มีจำนวน 3,287 ล้านบาท ลดลง 5.7% เมื่อเทียบกับงวดครึ่งปีแรกของปี 2567 เป็นผลมาจากรายได้ที่ชะลอตัวลง 1.7% ทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลงจากการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และการช่วยเหลือลูกหนี้ในโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” รวมทั้ง รายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจหลักทรัพย์ยังคงอ่อนแอ ทั้งค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์ ค่าธรรมเนียมธุรกิจวาณิชธนกิจ และกำไรจากพอร์ตเงินลงทุน อย่างไรก็ดี รายได้ค่าธรรมเนียมธนาคารพาณิชย์ฟื้นตัวจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยและรายได้ที่เกี่ยวกับสินเชื่ออื่นๆ รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจจัดการกองทุนขยายตัว จากการเติบโตของธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนรวม ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 4.0% จากการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ค่าใช้จ่ายสำรองผลขาดทุนด้านเครดิต (ECL) อยู่ที่ 0.8% ของสินเชื่อเฉลี่ย ทั้งนี้ บริษัทมีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ที่ 15.5%

เงินให้สินเชื่อรวมของกลุ่มทิสโก้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 มีจำนวน 235,512 ล้านบาท เติบโต 1.4% จากสิ้นปี 2567 สาเหตุหลักมาจากสินเชื่อบริษัทที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สินเชื่อ SME อ่อนตัวลงจากสิ้นปี 2567 จากการเข้มงวดในการติดตาม การวางแผนสต็อกรถยนต์อย่างใกล้ชิด อีกทั้ง บริษัทยังคงระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียน ท่ามกลางสภาวะที่หนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง สำหรับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ทรงตัวที่ 2.4% ของสินเชื่อรวม ตามกลยุทธ์การขยายสินเชื่ออย่างระมัดระวัง พร้อมด้วยการช่วยเหลือลูกหนี้ตามแนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ ระดับค่าเผื่อสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Coverage Ratio) อยู่ที่ 154.8%

ธนาคารทิสโก้ยังคงรักษาระดับฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง โดยมีประมาณการอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ 20.6% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 11.0% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และมีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 18.6% และ 2.0% ตามลำดับ.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]