แถลงความสำเร็จการเชื่อมโยงท่าเรือระนอง-ท่าเรือจิตตะกอง บังกลาเทศ

กรุงเทพ 2 ก.ค. – “มนพร” แถลงความสำเร็จการเชื่อมโยงท่าเรือระนอง – ท่าเรือจิตตะกอง เดินหน้ายกระดับท่าเรือไทยสู่การเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ทางทะเลในภูมิภาคอาเซียน เสริมสร้างบทบาทไทยใน BIMSTEC


นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังการแถลงข่าวความสำเร็จในการเชื่อมโยงท่าเรือระนอง-ท่าเรือจิตตะกอง ว่า กระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญกับการยกระดับท่าเรือของประเทศไทยให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากลทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การให้บริการและการเชื่อมโยงกับระบบโลจิสติกส์รูปแบบอื่น โดยเฉพาะการพัฒนาท่าเรือในระดับภูมิภาค ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของกระทรวงฯ ที่มุ่งเน้นให้ท่าเรือทำหน้าที่เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ เป็นประตูการค้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน และภูมิภาคใกล้เคียง พร้อมทั้งเชื่อมโยงกับระบบโลจิสติกส์ในระดับสากลได้อย่างไร้รอยต่อ

นางมนพร กล่าวต่อว่า ด้วยศักยภาพของท่าเรือระนอง ทั้งการมีที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญบนฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทย ทำให้สามารถเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าไปยังมหาสมุทรอินเดียและอ่าวเบงกอลได้ โดยไม่ต้องผ่านช่องแคบมะละกา อีกทั้งยังเป็นท่าเรือหลักที่สามารถรองรับการขนส่งด้วยระบบตู้สินค้าตามมาตรฐานสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงฯ จึงได้ผลักดันการพัฒนาเส้นทางขนส่งทางทะเล ผ่านความร่วมมือระหว่างท่าเรือระนองกับท่าเรือในกลุ่มประเทศ BIMSTEC ด้วยการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างท่าเรือระนองกับท่าเรือจิตตะกอง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเส้นทางเดินเรือใหม่ที่สามารถลดระยะเวลาการขนส่งจากเดิม 7 – 15 วัน ให้เหลือเพียง 3 – 5 วัน รวมทั้งเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูล การพัฒนาเทคโนโลยี และการส่งเสริมบทบาทภาคเอกชนในการขับเคลื่อนประเทศ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของประเทศไทยในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางทะเลฝั่งอันดามัน เชื่อมโยงสู่ภูมิภาคเอเชียใต้ และกลุ่มประเทศ BIMSTEC ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน


นางมนพร กล่าวอีกว่า กระทรวงคมนาคมจะเดินหน้าผลักดันความร่วมมือระหว่างท่าเรือระนองและท่าเรือจิตตะกองอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านกฎระเบียบและระบบการบริหารจัดการ และด้านการมีส่วนร่วมของภาครัฐและภาคเอกชนในด้านการค้าระหว่างประเทศ โดยในส่วนของด้านโครงสร้างพื้นฐาน ได้มอบหมายให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เร่งจัดทำแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือระนอง อาทิ การวางแผนจัดหาเครนหน้าท่าและเครื่องมือทุ่นแรงเพิ่มเติม การปรับปรุงระบบคลังสินค้าและท่าเทียบเรือ รวมถึงการพัฒนาโครงข่ายการเชื่อมต่อด้านโลจิสติกส์แบบบูรณาการทั้งทางถนน ทางราง และทางอากาศ เพื่อให้ท่าเรือระนองมีความพร้อมในการรองรับปริมาณสินค้าที่จะเติบโตในอนาคต และเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันกับภูมิภาคโดยรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในไทยและบังกลาเทศ เพื่อลดอุปสรรคด้านกฎระเบียบ รวมทั้งพัฒนาระบบการบริหารจัดการและปรับปรุงขั้นตอนการขนส่งระหว่างประเทศ เช่น พิธีการศุลกากร การแลกเปลี่ยนข้อมูลล่วงหน้า และการลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน เพื่อให้การขนส่งทางทะเลเป็นไปอย่างราบรื่นและมีต้นทุนที่แข่งขันได้ พร้อมส่งเสริมการจัดกิจกรรม Road Show และ Business Matching ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อเชื่อมโยงผู้ประกอบการสินค้าที่มีศักยภาพ และสามารถรวบรวมสินค้าทั้งขาเข้า-ขาออกให้เพียงพอต่อการเปิดเส้นทางเดินเรือในเชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม

“ความร่วมมือระหว่างท่าเรือระนองและท่าเรือจิตตะกองในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับขีดความสามารถด้านโลจิสติกส์ทางทะเลของประเทศไทยในระดับภูมิภาค เสริมสร้างบทบาทของไทยในเวที BIMSTEC และเตรียมความพร้อมสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางฝั่งอันดามัน เชื่อมโยงเศรษฐกิจเอเชียใต้ และมหาสมุทรอินเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนในอนาคต” นางมนพร กล่าวทิ้งท้าย

นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข กล่าวเพิ่มเติมว่า กทท. ได้ลงนาม MOU ร่วมกับการท่าเรือจิตตะกอง ประเทศบังกลาเทศ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564 โดยมีสาระสำคัญของความร่วมมือ อาทิ การแลกเปลี่ยนข้อมูลและองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาท่าเรือของทั้งสองประเทศ รวมทั้งการส่งเสริมและผลักดันให้เกิดเส้นทางเดินเรือขนส่งสินค้าระหว่างกัน ซึ่ง กทท. จะดำเนินงานต่อยอดความร่วมมือกับท่าเรือจิตตะกอง อย่างเป็นรูปธรรมด้วยการบูรณาการกับหน่วยงานภายนอก อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูตทั้งสองประเทศในการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับท่าเรือระนองและท่าเรือจิตตะกอง เพื่อให้ผู้ประกอบการเห็นโอกาสในการใช้ประโยชน์จากเส้นทางใหม่ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์และเปิดตลาดใหม่ให้กับผู้ผลิตไทยและบังกลาเทศ ผ่านกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ อาทิ การจัด Road Show และ Business Matching รวมถึงร่วมผลักดันความร่วมมือเชิงนโยบาย เช่น การจัดทำ FTA ระหว่างไทยกับบังกลาเทศ ซึ่งจะช่วยลดอุปสรรคทางภาษีและเพิ่มศักยภาพการค้าในระยะยาว โดยเฉพาะสินค้าศักยภาพ เช่น แร่ดินขาว อาหารทะเล และสินค้าเกษตร เพื่อให้เกิดปริมาณสินค้าที่เพียงพอสำหรับการเปิดบริการเดินเรือระหว่างสองท่าเรืออย่างยั่งยืน พร้อมทั้งการวางแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือระนองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีความพร้อมรองรับปริมาณสินค้าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต


ด้านนางนลินี ทวีสิน กล่าวว่า บังกลาเทศ ถือเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิก BIMSTEC ที่มีศักยภาพสูง ด้วยจำนวนประชากรกว่า 170 ล้านคน และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ย 5 – 7% ต่อปี โดยท่าเรือจิตตะกอง เป็นท่าเรือหลักของประเทศ ที่มีบทบาทสำคัญในการรองรับสินค้าคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 90 ของการค้าทางทะเลทั้งหมด อีกทั้งยังมีสถิติการเติบโตของตู้คอนเทนเนอร์เฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 14 ต่อปี ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพทางการค้าของประเทศที่เติบโตเร็วยิ่งกว่า GDP โดยรวม

ทั้งนี้ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานแถลงข่าวความสำเร็จในการเชื่อมโยงท่าเรือระนอง – จิตตะกอง ร่วมกับนางนลินี ทวีสิน ประธานผู้แทนการค้าไทย นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. H.E. Mr. Faiyaz Murshid Kazi เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศประจำประเทศไทย และนางสาวพจนา พะเนียงเวทย์ กงสุลกิตติมศักดิ์บังกลาเทศประจำประเทศไทย ในวันพุธที่ 2 กรกฎาคม 2568 ณ ทำเนียบรัฐบาล.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]