หอการค้าไทย-จีน แนะไทยสร้างภูมิคุ้มกันเชิงนโยบาย รับมือระเบียบโลกเปลี่ยน

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย.- หอการค้าไทย-จีน แนะไทยวางจุดยืนทางยุทธศาสตร์ให้ชัด มุ่งเป็น “ศูนย์กลางความมั่นคงทางอาหาร” หรือ “ฮับการผลิตและโลจิสติกส์ของอาเซียน” เร่งภูมิคุ้มกันเชิงนโยบาย รับมือระเบียบโลกเปลี่ยน พร้อมใช้โอกาสพิเศษในวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน ผลักดันการเติบโต บนพื้นฐานของ “หุ้นส่วนที่เท่าเทียมกัน”


ดร.ณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน กล่าวบรรยายในหลักสูตรผู้บริหารธุรกิจไทย-จีน รุ่นที่ 2 (บทจ.2) และหลักสูตรผู้บริหารรุ่นใหม่ธุรกิจไทย-จีน รุ่นที่ 2 (Young Executive Program 2) หัวข้อ สงครามการค้ากับระเบียบโลกที่เปลี่ยนไป ว่า ประเทศไทยกำลังก้าวสู่การเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญสู่ระเบียบโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยพลวัต ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และเทคโนโลยี ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่ได้ยึดโยงอยู่กับแค่มหาอำนาจเพียงหนึ่งหรือสองประเทศอีกต่อไป แต่กำลังก้าวเข้าสู่โครงสร้าง “โลกหลายขั้ว” (Multipolar World) ที่ไม่ได้มีเพียงจีนกับสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่รวมถึงกลุ่มภูมิภาคและประเทศสำคัญอื่นๆ เช่น อาเซียน อินเดีย ละตินอเมริกา หรือแม้กระทั่งกลุ่มความร่วมมืออย่างบริกส์ (BRICS) ที่กำลังมีบทบาทมากขึ้น ความตึงเครียดทางการค้ากำลังเปลี่ยนสู่การแข่งขันของมหาอำนาจในการกำหนดกติกาและทิศทางของโลก ประเทศไทยในฐานะประเทศขนาดกลางที่มีความเชื่อมโยงสูงกับเศรษฐกิจโลก ต้องปรับบทบาทและวางจุดยืนทางยุทธศาสตร์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อรักษาเสถียรภาพ สร้างความแข็งแกร่ง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลกอย่างยั่งยืน โดยต้องกำหนดจุดยืนทางยุทธศาสตร์ของชาติอย่างชัดเจน ด้วยการวางตำแหน่งประเทศไทยให้เป็น “ศูนย์กลางความมั่นคงทางอาหาร” หรือ “ฮับการผลิตและโลจิสติกส์ของอาเซียน” รวมถึงการกำหนดจุดแข็งของตนเอง เช่น Soft Power ด้านวัฒนธรรม อาหาร และการท่องเที่ยว โดยยึดหลักผลประโยชน์ของชาติ ความยั่งยืน และความสมดุลในการดำเนินนโยบายระหว่างขั้วอำนาจต่างๆ อย่างชาญฉลาด การพัฒนาเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับทิศทางโลกก็เป็นสิ่งสำคัญ ด้วยการส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) อย่างจริงจัง, ยกระดับมาตรฐาน ESG ให้เป็นสากล, และพัฒนาระบบการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) และความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดโลกและผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น

ภายใต้ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก จีนซึ่งเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย ยังคงมีบทบาทสำคัญและเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่ขาดไม่ได้สำหรับประเทศไทย เป็นที่คาดการณ์ว่าในปี 2025 มูลค่าการค้าโลกอาจหดตัวลงร้อยละ 0.2 และหากสถานการณ์กำแพงภาษียังคงยืดเยื้อ อาจหดตัวได้มากถึงร้อยละ 1.5 ซึ่งความไม่แน่นอนนี้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยโดยตรง เนื่องจากเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการส่งออกสูง อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือกับจีนยังคงเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้ประเทศไทยได้อย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมโยงสู่ตลาดโลกขนาดใหญ่ หรือการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของอาเซียน โดยไทยตั้งอยู่ใจกลางอาเซียน ทำให้เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในห่วงโซ่อุปทานโลก สามารถเชื่อมโยงจีน-เอเชียใต้-ตะวันออกกลาง และเป็น “ฮับโลจิสติกส์-ศูนย์กลางการแปรรูป” ที่สำคัญได้ ไทยควรกระจายความเสี่ยงโดยการขยายตลาดส่งออก และเร่งเจรจา FTA ที่สำคัญ เช่น Thai-EU FTA และ CPTPP เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้า ประกอบกับการที่จีนใช้นโยบายเศรษฐกิจ Dual Circulation และยุทธศาสตร์ BRI เพื่อกระชับความเชื่อมโยงในภูมิภาค ไทยจึงอาจได้รับโอกาสทั้งการค้าและการลงทุนจากนโยบายเหล่านี้ของจีน นอกจากนี้ จีนยังถือเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ของไทย โดยเฉพาะในด้านพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งเป็นเทรนด์สำคัญของโลกในอนาคต เศรษฐกิจไทยจึงต้องเร่งปรับตัว ลดการพึ่งพาตลาดเดิม เสริมความร่วมมือกับจีนอย่างสมดุล พร้อมใช้โอกาสพิเศษในวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน เพื่อผลักดันการเติบโต โดยความร่วมมือกับจีนควรอยู่บนพื้นฐานของ “หุ้นส่วนที่เท่าเทียมกัน” เพื่อให้เกิดผลประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม

“ประเทศไทยต้องสร้าง “ภูมิคุ้มกันเชิงนโยบาย” ที่แข็งแกร่ง ทั้งในมิติของการเมือง เศรษฐกิจ เทคโนโลยี นวัตกรรม และการพัฒนาบุคลากร เพื่อพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมเสริมสร้างความยืดหยุ่นของระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและโปร่งใส และถึงแม้เศรษฐกิจโลกอาจอยู่ในช่วงขาลง แต่ไม่ใช่ทุกอุตสาหกรรมจะได้รับผลกระทบ อาหารยังคงเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐาน และยังมีโอกาสอีกมาก หากประเทศไทยสามารถพัฒนาเทคโนโลยีและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรได้ เช่น การแปรรูปข้าวไทยให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นและตอบโจทย์ตลาดโลกได้หลากหลายยิ่งขึ้น” -517-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]