วิจัยกรุงศรีปรับลดคาดการณ์จีดีพีไทยเหลือโต 2.1% ปี68

กรุงเทพฯ 30 พ.ค. – วิจัยกรุงศรีปรับลดคาดการณ์จีดีพีไทยเหลือโต 2.1% ปี 68 จากเดิมโต 2.7% คาด กนง.ลดดอกเบี้ยลงอีก 1-2 ครั้งในปีนี้ ท่ามกลางความเสี่ยงซ้อน จากทั้งความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐฯ และปัจจัยกดดันภายในประเทศ


ดร.พิมพ์นารา หิรัญกสิ หัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจ และผู้บริหารสายงานวิจัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายในและภายนอกเพิ่มขึ้น จึงคาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 จะเติบโต 2.1% ชะลอลงจากคาดการณ์เดิมที่ 2.7% โดยเฉพาะเมื่อต้องประสบกับความเสี่ยงจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่มีฉากทัศน์ที่หลากหลายและมีความไม่แน่นอนสูง อีกทั้งยังมีความเสี่ยงซ้อนจากความเปราะบางภายในประเทศ ทั้งปัญหาเชิงโครงสร้าง ความไม่แน่นอนของประสิทธิผลของนโยบายเศรษฐกิจ และความล่าช้าของการฟื้นตัวในภาคท่องเที่ยว ปัจจัยดังกล่าวล้วนเพิ่มความเสี่ยงด้านต่ำต่อการเติบโต และอาจเป็นปัญหาที่ฝังลึกลงสู่ระบบเศรษฐกิจไทย

โดยวิจัยกรุงศรีได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 เนื่องจาก 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ 1) ผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2) แรงส่งจากภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มอ่อนแรงลงเนื่องจากความกังวลของนักท่องเที่ยวจีนต่อสถานการณ์ด้านความปลอดภัยในการเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย และ 3) ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบเชิงลบต่อเนื่องอย่างเป็นวงจร (Negative feedback loop) ผ่านความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายและลงทุน”


ทั้งนี้ แรงส่งหลักเศรษฐกิจไทย จะมาจากการใช้จ่ายภาครัฐและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผนวกกับการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวที่แม้จะฟื้นช้ากว่าคาดแต่คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 35.5 ล้านคน มาอยู่ที่ 36.5 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศยังคงเผชิญความเสี่ยงสูง ตามบริบทของความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่ถึงแม้ว่าล่าสุด ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 (ตามเวลาสหรัฐฯ) ศาลการค้าของสหรัฐฯ ได้มีคำสั่งระงับมาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) แต่ยังมีความเสี่ยงที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะใช้อำนาจตามกฎหมายอื่นๆ เพื่อเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติม เช่นกฎหมายการค้าปี 1974 มาตรา 122 ที่อาจทำให้ประเทศต่างๆ รวมถึงไทยถูกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราไม่เกิน 15%

ซึ่งจากความไม่แน่นอนดังกล่าว การส่งออกของไทยในช่วงครึ่งปีหลังจึงยังมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบเชิงลบ ซึ่งการคาดการณ์ครั้งนี้ ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่าสหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 10% ต่อประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่รวมถึงไทย ส่งผลให้การส่งออกทั้งปีคาดว่าจะขยายตัวเพียง 2.0% หลังจากที่เติบโตสูงด้วยอัตราเลขสองหลักในช่วงไตรมาสแรก ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มเติบโตชะลอลงที่ 2.6% ท่ามกลางแรงกดดันจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแอลง แนวโน้มรายได้ภาคเกษตรที่ชะลอตัว หนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง รวมทั้งความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีสหรัฐฯ และการฟื้นตัวช้าของภาคท่องเที่ยวที่จะกระทบต่อการจ้างงานและรายได้ ในด้านการลงทุน แม้การลงทุนภาครัฐอาจเติบโตถึง 5.8% แต่ยังไม่สามารถเหนี่ยวนำให้การลงทุนภาคเอกชนกลับมาเติบโต (Crowding-in effect) ได้ ประกอบกับภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นช้ากระทบต่อการขยายการลงทุนในภาคบริการ เพิ่มความเสี่ยงที่การลงทุนภาคเอกชนอาจหดตัวต่อเนื่องที่ -0.5% นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ยังเป็นปัจจัยลบที่บั่นทอนความเชื่อมั่น และทำให้ภาคธุรกิจชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจน

ด้านอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ภายใต้ความเสี่ยงของการค้าระหว่างประเทศ เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงครึ่งปีหลังขณะที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจถูกปรับลดลงอีก 1-2 ครั้งในปีนี้


ในระยะข้างหน้า เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับปัจจัยท้าทายสำคัญหลายประการ ได้แก่ นโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่ยังมีความเสี่ยงสูง,) ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศและสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่เปราะบาง , ความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจภายในประเทศ ท่ามกลางข้อจำกัดด้านพื้นที่ทางการคลัง และ ปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น ความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตที่ลดลง ระดับหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้

“แม้ปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกจะมีลักษณะคล้ายคลึงกันทั่วโลก แต่เมื่อผนวกกับแรงกดดันภายใน อาจทำให้เศรษฐกิจไทยเผชิญผลกระทบที่รุนแรงกว่าหลายประเทศ ดังนั้น จึงเป็นช่วงเวลาที่ต้องอาศัยความระมัดระวังเชิงนโยบายควบคู่ไปกับการตอบสนองที่มีประสิทธิภาพและเท่าทันสถานการณ์”ดร.พิมพ์นารา ระบุ. -511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]