โครงข่ายคมนาคม 2 วัน อุบัติเหตุลดลง 9% ระบบรางครองแชมป์ผู้ใช้บริการสูงสุด

กรุงเทพ 13 เม.ย.- กระทรวงคมนาคม สรุปตัวเลขภาพรวมการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 บนโครงข่ายของกระทรวงคมนาคม 2 วัน (11 – 12 เมษายน 2568) อุบัติเหตุลดลง 9% ระบบรางครองแชมป์ผู้ใช้บริการสูงสุด


กระทรวงคมนาคม โดยศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยคมนาคม เปิดตัวเลขภาพรวมการเดินทางในเทศกาลสงกรานต์ 2568 ระหว่างวันที่ 11 – 12 เมษายน 2568 ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมบูรณาการอำนวยความสะดวกและการให้บริการการเดินทางประชาชน ช่วง 2 วันที่ผ่านมา พบว่าสามารถบริหารจัดการและอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาได้อย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

ตามที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีนโยบายให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนเกิดความอุ่นใจ เดินทางสู่จุดหมายปลายทางด้วยความสะดวกปลอดภัย นั้น ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยคมนาคม ได้สรุปสถิติอุบัติเหตุบนโครงข่ายของกระทรวงคมนาคม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2568 ซึ่งข้อมูลวันที่ 11 – 12 เมษายน 2568 (สะสม 2 วัน) ประมวลผลข้อมูล ณ วันที่ 13 เมษายน 2567 เวลา 07.30 น. พบว่า ทางบก เกิดอุบัติเหตุรวม 432 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 57 คน บาดเจ็บ 422 คน สาเหตุจากขับรถเร็วเกินอัตรากำหนด 93 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 61 ยานพาหนะที่เกิดเหตุสูงสุด คือ รถกระบะบรรทุก 4 ล้อ 272 คัน คิดเป็นร้อยละ 34 บริเวณที่เกิดเหตุสูงสุด คือ ทางตรง ไม่มีความลาดชัน 322 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 68 จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ ขอนแก่น 4 คน โดยจังหวัดที่เกิดเหตุสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร (31 ครั้ง) ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว (วันที่ 11 – 12 เมษายน 2567) จำนวนอุบัติเหตุ ลดลงร้อยละ 9 จำนวนผู้เสียชีวิต ลดลงร้อยละ 10 และจำนวนผู้บาดเจ็บ ลดลงร้อยละ 21 นอกจากนี้ พบอุบัติเหตุบนโครงข่ายทางราง 1 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 1 คน และทางน้ำ 1 ครั้ง ส่วนทางอากาศไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุ


ส่วนระบบขนส่งสาธารณะทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ สามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ สำหรับการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศ มีจำนวนรวม 5,521,634 คน ลดลง ร้อยละ 1.95 เปรียบเทียบกับวันเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ ระบบการขนส่งทางรางมีการใช้บริการสูงสุด คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 44 ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ ด้านถนน ราง น้ำ และอากาศ มีจำนวนรวม 449,159 คน ระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศที่มีผู้ใช้สูงสุดในแต่ละภูมิภาค ได้แก่ 1) ภาคกลาง : ทางอากาศ (ขาออก) 106,268 คน2) ภาคใต้ : ทางถนน 69,782 คน 3) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ทางถนน 104,328 คน 4) ภาคเหนือ : ทางถนน 36,012 คน และ 5) ภาคตะวันออก : ทางถนน 40,162 คน

ขณะที่การจราจรเข้า – ออก กรุงเทพฯ บนทางหลวงสายหลัก 11 เส้นทาง มีปริมาณ 2,256,502 คัน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.02 เปรียบเทียบกับวันเดียวกันของปีก่อน การเดินทางภายในกรุงเทพฯ บนทางด่วนมีปริมาณ 2,886,732 คัน ลดลง ร้อยละ 0.56 ส่วนการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะ ณ จุดตรวจ จุดพักรถ และจุดจอด 222 แห่ง มีการตรวจรถ 30,709 คัน ไม่พบข้อบกพร่อง ตรวจผู้ปฏิบัติงาน จำนวน 30,709 คน พบอุณหภูมิเกิน (เป็นไข้) สั่งเปลี่ยน 1 คน ไม่พบสารเสพติด และแอลกอฮอล์ สำหรับรถไฟ มีการตรวจความพร้อมผู้ปฏิบัติงาน 237 คน ไม่พบแอลกอฮอล์หรือสิ่งเสพติด และการตรวจความพร้อมท่าเรือ/แพ 159 แห่ง ตรวจเรือ 1,838 ลำ ไม่พบข้อบกพร่อง และตรวจผู้ปฏิบัติงาน 2,594 คน ไม่พบแอลกอฮอล์หรือสิ่งเสพติด


นอกจากนี้ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมได้อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชน ประกอบด้วย กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะแล้ว 13,652 คัน ตรวจความพร้อมพนักงานขับรถ 13,652 ราย พบมีความดันสูง 205 มิลลิเมตรปรอท 1 คน นั่งพักแล้วความดันไม่ลดลงจึงสั่งให้เปลี่ยนพนักงานขับรถทันที ส่วนผลการติดตามตรวจสอบการเดินรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกด้วยระบบ GPS Tracking 51,447 คัน พบการใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด 193 คัน ผลตรวจสอบการใช้ความเร็วรถโดยสารและรถบรรทุกด้วยกล้องเลเซอร์ 1,848 คัน พบการใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด 10 คัน สำหรับการร้องเรียนเกี่ยวกับรถโดยสารสาธารณะได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว 195 เรื่อง โดยเรื่องที่มีการร้องเรียนมากที่สุด 3 อันดับได้แก่ ขับรถประมาท/น่าหวาดเสียว ผู้ประจำรถแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพแต่งกายไม่เรียบร้อย และบรรทุกผู้โดยสารเกิน ซึ่ง ขบ. จะเร่งติดตามผู้กระทำผิดมาสอบสวนและดำเนินการลงโทษตามกฎหมายต่อไป

ด้านผู้บริหารกรมทางหลวงชนบท ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์อำนวยความสะดวกและปลอดภัยของสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 7 (อุบลราชธานี) แขวงทางหลวงชนบทอุบลราชธานี แขวงทางหลวงชนบทยโสธร และแขวงทางหลวงชนบทร้อยเอ็ด พร้อมปล่อยขบวนรถรณรงค์ความปลอดภัยเทศกาลสงกรานต์ 2568 รองรับการเดินทางสร้างความเชื่อมั่นอุ่นใจให้กับประชาชน

บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) รายงานตัวเลขการเดินทางวันที่ 11 เมษายน 2568 มีผู้โดยสารเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เที่ยวไป 106,337 คน เที่ยวกลับ 46,006 คน รวม 152,343 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส, รถร่วมฯ รถตู้) เที่ยวไป 4,214 เที่ยว เที่ยวกลับ 3,438 เที่ยว รวมทั้งสิ้น 7,652 เที่ยว โดยจำนวนผู้โดยสารสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ประมาณ 22,343 คน ซึ่ง บขส. สามารถบริหารจัดการเดินรถได้อย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

กรมการขนส่งทางราง (ขร.) เผยวันแรกของวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 มีผู้ใช้บริการระบบราง รวม 1.49 ล้านคน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 7.11 มีเหตุอันตรายต่อการเดินรถไฟ 2 ครั้ง พร้อมทั้งประสานผู้ให้บริการระบบรางอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย รองรับการเดินทางกลับภูมิลำเนาได้อย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

สำหรับภาพรวมการเดินทางของผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานในสังกัดกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เป็นไปอย่างคึกคัก โดยเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 มีผู้โดยสารเดินทางภายในประเทศ 42,870 คน ระหว่างประเทศ 1,949 คน รวม 44,819 คน มีเที่ยวบินรวม 299 เที่ยวบิน ภาพรวมการรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกผู้โดยสารเป็นไปด้วยความเรียบร้อย 513.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]