CIMB หั่น “จีดีพี” ปี 68 เหลือโต 1.8% แต่หาก “ทรัมป์” เก็บเพิ่มอีกจะเพียง 1.4%

กรุงเทพฯ 10 เม.ย. – สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMB) หั่นจีดีพี ปี 68 เหลือ 1.8% แต่หากสหรัฐเก็บภาษีเพิ่มอีก เศรษฐกิจไทยอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค ในไตรมาส 3-4 และจะฉุดจีดีพีเหลือเพียง 1.4% ส่วนดอกเบี้ยนโยบายปีนี้คาดว่าอยู่ที่ 1.25% และอาจลดลงถึงระดับ 1.00% แนะเน้นลงทุนเชิงรับ รักษาเงินต้น เช่น พันธบัตรฯ หุ้นกู้ที่มีความน่าเชื่อถือดี ที่สำคัญไม่สร้างหนี้โดยไม่จำเป็น


นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า การที่นายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเลื่อนเก็บภาษีตอบโต้ประเทศต่างๆ ออกไป 90 วัน ซึ่งประเทศไทยเหลือการจัดเก็บเพียง 10% เท่ากับประเทศส่วนใหญ่ ยกเว้นจีนที่โดนภาษีที่ 125% เนื่องจากตอบโต้เก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐ 84% นั้น ยังนับว่าไทยมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากนโยบายการค้าสหรัฐ ความไม่แน่นอน และความตึงเครียดที่ยืดเยื้อ สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จึงปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2568 จาก 2.7% ลงเหลือ 1.8% อย่างไรก็ดี บนความไม่แน่นอน หากมีการจัดเก็บภาษีสูงขึ้น เศรษฐกิจไทยอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคใน Q3-Q4 และโตเพียง 1.4% แต่หากเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยแม้เพียงเล็กน้อย และความผันผวนทั่วโลก เศรษฐกิจไทยอาจชะลอลงหนักกว่าคาด

มาตรการภาษีทรัมป์จะทำการค้าโลกชะลอ การส่งออกอาจโตเพียง 1.4% การผลิต-การนำเข้าวัตถุดิบและเครื่องจักรลดลง การลงทุนชะลอตัว รายได้แรงงานและนอกภาคเกษตรมีแนวโน้มอ่อนตัว สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่เปราะบาง ได้แก่ เหล็ก และอะลูมิเนียม ยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ ยาและเวชภัณท์ อาจได้รับผลกระทบมากกว่ากลุ่มอื่น เศรษฐกิจเติบโตชะลอ เงินเฟ้อต่ำ อาจเปิดทางให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ในกรณีนี้คาดว่า ธปท. จะไม่ลดดอกเบี้ยรุนแรง เพราะข้อจำกัดหลายประการที่ไม่เอื้อต่อการผ่อนคลายแบบครอบคลุม คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายปีนี้ 1.25% หากเศรษฐกิจอ่อนแอกว่าคาด อาจมีการลดดอกเบี้ยลงถึงระดับ 1.00% ถ้าแรงกดดันจากภาษียังอยู่ เงินเฟ้อเร่งตัว ธปท. อาจใช้มาตรการเฉพาะจุด เช่น ช่วยเหลือหนี้ SMEs และอัดฉีดสภาพคล่อง แทนการเน้นลดดอกเบี้ย


ขณะที่มาตรการการคลังจะมีบทบาทมากขึ้นในการกระตุ้นเศรษฐกิจ จากความกังวลต่อสินเชื่อที่อ่อนแอ และความเสี่ยงภาวะกับดักสภาพคล่อง โดยเฉพาะหากความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและผู้บริโภคยังไม่ฟื้น

ค่าเงินบาท คาดว่าจะอ่อนค่าช่วงกลางปี ก่อนจะทรงตัวปลายปี จากปัจจัยที่ดอลลาร์แข็งค่าในภาวะตลาดผันผวน กดดันค่าเงินประเทศเกิดใหม่รวมถึงค่าเงินบาท ดังนั้น เงินบาทอาจอ่อนค่า Q2 จากการไหลออกของเงินทุน การนำเงินปันผลกลับประเทศ รายได้ท่องเที่ยวทรงตัวหรือชะลอลง นอกจากนี้ ส่วนต่างดอกเบี้ยที่กว้างขึ้น ระหว่างไทยกับสหรัฐ กดดันเงินบาทเพิ่มเติม อยากให้ระวังเงินบาทผันผวนอ่อนค่าอีกครั้งช่วงปลายปีหากมีความไม่แน่นอนในการเก็บภาษีที่สูงขึ้น ฐานท่องเที่ยวไทยที่แข็งแกร่ง และผลกระทบจากสงครามการค้าที่จำกัด อาจช่วยให้เงินบาทเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” ระดับภูมิภาคได้บางส่วน ภาคการท่องเที่ยว คาดว่านักท่องเที่ยวยังคงเพิ่มขึ้น แต่เพิ่มเพียงเล็กน้อย คาดว่าจะมี 37.1 ล้านคนปีนี้ เทียบกับ 35.5 ล้านคนปีก่อน

หากย้อนกลับไปดู ไทม์ไลน์ วันที่ 2 เมษายน 2568 ทรัมป์ประกาศเก็บภาษี “ตอบโต้เท่าเทียม” (Reciprocal Tariffs) กับหลายประเทศ โดยให้เหตุผลว่าชาติเหล่านั้นได้รับสิทธิประโยชน์ทางการค้าอย่างไม่เป็นธรรม และเรียกว่าเป็น ‘วันปลดแอก’ ของสหรัฐฯ จึงบอกได้ว่า สหรัฐต้องการลดการพึ่งพาจีนและพันธมิตรที่ไม่แท้จริงของสหรัฐฯ ต้องการนำรายได้จากภาษีมาลดหนี้สาธารณะ และเตรียมแผนลดภาษีภายในประเทศ และข้อเสนอทางออกของสงครามการค้า ได้แก่ ลดภาษีนำเข้า ยกเลิกมาตรการกีดกันที่ไม่ใช่ภาษี หยุดแทรกแซงค่าเงิน นำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ มากขึ้น ลงทุนในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี จากการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ มี 2 แนวโน้มที่เป็นไปได้ในอนาคต คือ
แนวโน้มที่ 1 : เศรษฐกิจโตช้า (Slow Growth) GDP สหรัฐลดลงจาก 2.1% มาอยู่ที่ 1.4% ชาวอเมริกันบริโภคน้อยลง เก็บออมมากขึ้น เลื่อนการลงทุนใหม่ เงินเฟ้อพุ่งจาก 3% ไปที่ 3.7% ด้านดอกเบี้ย เฟดอาจไม่ลดดอกเบี้ยเร็ว ๆ นี้ หรือ ลดดอกเบี้ยครั้งเดียวช่วง Q4 ปี 2568 ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินกลุ่ม G7 แต่แข็งค่าไม่มากเทียบตลาดเกิดใหม่ แนวโน้มนี้มีความน่าจะเป็น 80%
แนวโน้มที่ 2 : เศรษฐกิจถดถอยเล็กน้อย (Mild Recession) GDP สหรัฐ หดตัว -0.2% จากผลกระทบของ reciprocal tariff ความไม่แน่นอนทางนโยบาย และการตอบโต้ ด้านภาคครัวเรือนชั้นกลางถึงรายได้สูง อาจลดการใช้จ่ายลง เงินเฟ้ออยู่ราว ๆ 5% ในปี 2568 Fed อาจกลับมาเพิ่มอัตราดอกเบี้ย หรืออย่างน้อยก็จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมไปถึงปี 2569 เงินดอลลาร์จะแข็งค่าอย่างมากและถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงวิกฤต การลดการพึ่งพาโลกาภิวัตน์อาจทำให้การค้าระหว่างประเทศลดลงอย่างมาก กระทบต่อ GDP ในระยะยาว แนวโน้มนี้มีความน่าจะเป็น 20%
แนะแนวทางยู่รอดในยุคความผันผวนทรัมป์
• ด้านการการลงทุน – เน้นเชิงรับ รักษาเงินต้น เช่นพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ที่มีความน่าเชื่อถือดีในอุตสาหกรรมที่เสี่ยงต่ำ เพิ่มเงินสดสำรอง กระจายลงทุนข้ามภูมิภาค
• การบริโภค – ใช้จ่ายอย่างมีสติ เก็บออมเผื่อฉุกเฉิน เลี่ยงการกู้เกินจำเป็น
• SMEs – วางแผนระยะสั้น คุมต้นทุน ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์
• ธุรกิจขนาดใหญ่ – ป้องกันความเสี่ยง ใช้ซัพพลายเชนในประเทศ ขยายสู่ตลาดอาเซียน


“ผลกระทบต่อไทย คือ การส่งออก แม้ว่าการกีดกันการค้าจากจีน จะส่งผลให้ไทยส่งออกสินค้าไปสหรัฐได้มากขึ้น แต่ไม่สามารถทดแทนสินค้าที่เราส่งออกไปจีนและในภูมิภาคได้ ด้านการลงทุน อาจมีการย้ายฐานกลับสหรัฐ หรือ นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ และด้านการท่องเที่ยวจำนวนนักท่องเที่ยวอาจชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจ ดังนั้น สิ่งที่คนไทยต้องให้ความสำคัญคือ รักษาสภาพคล่องให้ดี ดูแลควบคุมต้นทุน ลดความเสี่ยง และไม่สร้างหนี้โดยไม่จำเป็น” นายอมรเทพ กล่าว. -517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]