ส.อ.ท.ขับเคลื่อนอุตฯ สีเขียว เพื่ออนาคตไทยที่ยั่งยืน

31 มี.ค.- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสีเขียว เพื่ออนาคตไทยที่ยั่งยืน”


นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงและเจอกับความท้าทายรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ สงครามการค้า สงครามทางเทคโนโลยี หรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดังนั้น ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องรับมือและปรับตัวโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินต่อไปได้อย่างแข็งแกร่ง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) พร้อมจับมือกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา องค์กรระหว่างประเทศและภาคประชาสังคม เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ด้วยการสานต่อการดำเนินงานในวาระปี 2567-2569 ภายใต้นโยบาย “ONE FTI” (ONE Vision, ONE Team, ONE Goal) ที่มุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมเดิม (First Industries) ประกอบด้วย 47 กลุ่มอุตสาหกรรม (11 คลัสเตอร์) 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด (5 ภาค/คลัสเตอร์จังหวัด) ไปพร้อมๆ กับการยกระดับสู่อุตสาหกรรมใหม่หรืออุตสาหกรรมแห่งอนาคต (Next-GEN Industries) ที่ประกอบด้วยอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curves) การพัฒนาอุตสาหกรรมด้วยโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) หรือ BCG รวมทั้งการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศด้านสังคม เศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสร้างความร่วมมือไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมและสภาอุตสาหกรรมจังหวัด เพื่อนำไปสู่เป้าหมายเดียวกันในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมไทย เพื่อประเทศไทยที่เข้มแข็งกว่าเดิม ซึ่งถือเป็นวิสัยทัศน์ในการดำเนินงานวาระนี้

โดย ส.อ.ท. วางยุทธศาสตร์ไว้ 5 ด้าน คือ 1. Industry Collaboration ผนึกกำลังอุตสาหกรรมไทยให้เข้มแข็ง 2. First 2 Next-Gen Industry ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่อนาคต 3. Smart SMEs ยกระดับ SMEs สู่สากล 4. Smart Service Platform พัฒนาการบริการเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทย และ 5. Sustainability, Achieve ESG ส่งเสริมอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน


จากผลการดำเนินงานในรอบปี 2567 ในส่วนของ Industry Collaboration ส.อ.ท. ได้ผลักดันข้อเสนอเชิงปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรม 8 ด้าน อาทิ จัดทำข้อเสนอเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตไทย (Position paper) เพื่อมอบให้กับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นแนวทางให้รัฐบาลนำไปเป็นกรอบการทำงานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตไทย ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกลุ่มอุตสาหกรรมและสภาอุตสาหกรรมจังหวัดในลักษณะ 1 อุตสาหกรรม 1 จังหวัด อาทิ โครงการส่งเสริม Modular House โครงการศึกษาการใช้ประโยชน์หินฝุ่นจากโรงโม่ โครงการการจัดการความปลอดภัยทางอาหารตลอดซัพพลายเชน และโครงการความร่วมมือการใช้ของที่ระลึกจากกลุ่มอุตสาหกรรมหัตถกรรมสร้างสรรค์ เพื่อช่วยผู้ประกอบการเพิ่มศักยภาพในการผลิตและต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่ายิ่งขึ้น แก้ไขปัญหาอุปสรรคในการประกอบกิจการให้เกิดความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ (Ease of Doing Business) รวมถึงแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนสมาชิก อาทิ ค่าไฟฟ้า การขอลดวงเงินและขอคืนเงินประกันไฟฟ้าจากการไฟฟ้านครหลวง การแก้ไขปัญหาผลกระทบการส่งออกสินค้าไม้ท่อนไม้แปรรูปไม้ล้อมบางชนิด ตลอดจนการแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน เสริมสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่างประเทศ อาทิ การผลักดันข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจกับต่างประเทศ ผ่านการประชุมกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ ต่อยอดโครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรอัจฉริยะ หรือ Smart Agricultural Industry (SAI) เพื่อพัฒนาการเกษตรแบบครบวงจร ยกระดับการเกษตรสู่เกษตรอุตสาหกรรมให้ครอบคลุมทุกจังหวัด โดยในปี 2567 ส.อ.ท. ส่งเสริมการจัดตั้งกลุ่มอุตสาหกรรมและคลัสเตอร์อุตสาหกรรมใหม่ โดยจัดตั้งกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ลำดับที่ 47 คือ กลุ่มอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ (Aerospace Industry Club) และจัดตั้ง 4 คลัสเตอร์ใหม่ ประกอบด้วยปิโตรเคมี ยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม และวัสดุก่อสร้าง

ในส่วนของ First 2 Next-Gen Industry ส.อ.ท. ได้ยกระดับขีดความสามารถด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ผ่านโครงการอินโนเวชั่่นวัน (Innovation ONE) ซึ่่งเป็นโครงการที่่ได้รับการสนับสนุุนจากกองทุุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุุนส่งเสริม ววน.) ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เพื่่อพัฒนาธุุรกิจนวัตกรรมสตาร์ทอัพไทย และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงภาคอุตสาหกรรมรายสาขาของประเทศ โดยได้รับการสนับสนุุนในงบประมาณภายใต้วงเงิน 1,000 ล้านบาท โดย 1 ปีที่่ผ่านมา โครงการกองทุุนอินโนเวชั่่นวันได้พิจารณาการสนับสนุุนทุนให้แก่ผู้ประกอบการมากกว่า 360 ล้านบาท

ด้าน Smart SMEs ส.อ.ท. ส่งเสริมและพัฒนา SMEs ใน 4 ด้าน ได้แก่ 1. GO Digital & AI ผลักดัน SMEs ให้ปรับตัวสู่ดิจิทัล โดยการยกระดับอุุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยมีการดำเนินการภายใต้โครงการ “Digital One” (Digital One Starter Package) ซึ่งเป็นการยกระดับ SMEs ไทย ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่รวบรวมโซลูชันเพื่อสนับสนุนการทำงานและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจ 2. GO Innovation ผลักดัน SMEs ให้เป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม 3. GO Green ส่งเสริม SMEs ปรับตัวสู่ธุรกิจสีเขียว และเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการ SMEs ดำเนินงานตามแนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน หรือ ESG ส่งเสริมให้ SMEs เข้าร่วมการประเมิน SME Green Index เพื่อสามารถปรับตัวสู่ธุรกิจสีเขียว และส่งเสริมให้ SMEs ได้รับการรับรองฉลากสิ่งแวดล้อม (Eco Label) รวมทั้งหาแหล่งเงินทุนให้ SMEs เพื่อนำไปพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการพัฒนากระบวนการผลิต เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 4. GO Global ส่งเสริม SMEs เตรียมความพร้อมสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ


ในส่วนของ Smart Service Platform ส.อ.ท. ได้พัฒนาแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่่อยกระดับการให้บริการสมาชิก ส.อ.ท. อาทิ การเพิ่่มช่องทางการค้าขายออนไลน์ ด้วย FTI e-Business Platform พัฒนาแพลตฟอร์ม FTI Academy ซึ่่งเป็นแหล่งรวบรวมหลักสููตร Upskill และ Reskill ของมหาวิทยาลัยและหน่วยงานพันธมิตร มีการพัฒนาระบบรับรองสินค้า Made in Thailand (MiT) เพื่่อสร้างความเชื่่อมั่่นให้กับผู้ขึ้้นทะเบียน MiT โดยปัจจุุบันสามารถออกใบรับรองสินค้า MiT ได้ 57,622 SKU และมีบริษัทที่ลงทะเบียนในระบบจำนวน 5,577 กิจการ

ด้าน Sustainability, Achieve ESG ส.อ.ท. ได้ยกระดับโรงงานอุุตสาหกรรมด้วยระบบการรับรองมาตรฐานที่่เป็นมิตรกับสิ่่งแวดล้อม อาทิ Eco Factory และ Water Footprint ปัจจุุบันมีโรงงานที่่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Eco Factory รวม 516 ใบรับรอง โดยในปี 2567 มีโรงงานได้รับการรับรองใหม่จำนวน 95 แห่ง สำหรับการรับรอง Water Footprint มียอดสะสมรวม 400 ผลิตภัณฑ์ย่อยจาก 77 บริษัท โดยในปี 2567 ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง รวมทั้งสิ้น 16 ผลิตภัณฑ์. -517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]