ก.อุตฯ ผนึก World Bank เปิดเกมรุก “Industrial Decarbonization”

กรุงเทพฯ 31 มี.ค. – “เอกนัฏ” เปิดเวที CEO Forum ชูแนวทาง Industrial Decarbonization ภายใต้โครงการ Low Carbon City หนุนผู้ประกอบการไทยลดคาร์บอน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมประกาศเจตนารมณ์ร่วมลดก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่อุปทาน มุ่งเป้า Net Zero 2065 ผ่านนวัตกรรมและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน


นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดงานสัมมนา “CEO Forum : Industrial Decarbonization under Thailand’s Low Carbon City Program” ตอกย้ำความมุ่งมั่นขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่อุปทาน มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero 2065 ด้วยนวัตกรรมและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

นายเอกนัฏ กล่าวเปิดงานโดยเน้นย้ำว่า การดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้มีความยั่งยืน เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย และเตรียมความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและโครงสร้างการผลิต การทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างโอกาสในการพัฒนาประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน กระทรวงอุตสาหกรรมได้กำหนดนโยบาย “การปฏิรูปอุตสาหกรรม สู่เศรษฐกิจยุคใหม่ สะอาด สะดวก โปร่งใส” โดยมีกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญ 5 ประเด็น และภารกิจเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ อาทิ การจัดการปัญหากากอุตสาหกรรม การลดมลพิษทางอากาศ การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแห่งอนาคต การส่งเสริมอุตสาหกรรมสีเขียว การพัฒนาศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาล การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการยกระดับงานบริการ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นปัจจัยหลักที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมจึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้เป็นอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำที่ยั่งยืน โดยภารกิจสำคัญเร่งด่วนคือ การสนับสนุนให้อุตสาหกรรมไทยสามารถปรับตัวไปสู่เศรษฐกิจรูปแบบใหม่ ที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Transition to New Economy) โดยการจัดการตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Greening Supply Chain)ให้เป็นอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับต่ำ (Low Carbon Industry) และมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมโดยรวม


ด้านนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงฯ ตระหนักถึงบทบาทสำคัญของภาคอุตสาหกรรมในการลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยตั้งเป้า Net Zero Emissions ภายในปี 2065 โดยการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว บังคับใช้เกณฑ์ใหม่ปี 2568 ส่งเสริมการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดของเสีย และสนับสนุนเทคโนโลยีสะอาด นอกจากนี้ จะมีการประกาศใช้มาตรฐานลดก๊าซเรือนกระจก 7 มาตรฐาน พัฒนาแนวทางให้สอดคล้องสากล และสร้างกลไกให้สถานประกอบการเข้าถึงเทคโนโลยีลดคาร์บอนได้ง่ายขึ้นrพร้อมทั้งส่งเสริมพลังงานสะอาด ร่วมมือกระทรวงพลังงานแก้ไขอุปสรรค สนับสนุนพลังงานหมุนเวียน ลดพึ่งพาพลังงานฟอสซิล และส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมพัฒนามาตรฐานอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน กำหนดมาตรฐานใหม่กว่า 55 มาตรฐาน ส่งเสริมอุตสาหกรรม New S-Curve และขับเคลื่อนนโยบาย MIND (Move to Net Zero, Innovation,Digitalization) โดยมีเป้าหมายครอบคลุมเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม กระทรวงฯ เชื่อมั่นในศักยภาพและความร่วมมือของผู้ประกอบการไทยสู่การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน

ด้านนายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการ กนอ. รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กนอ. กล่าวเสริมว่า กนอ. มุ่งมั่นสนับสนุนผู้ประกอบการสู่ “อุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ” รับมือความท้าทายด้านดิจิทัล เทคโนโลยี และความยั่งยืน โดยกำหนดให้มีการวิเคราะห์ความเสี่ยง แนวทางสนับสนุนธุรกิจยั่งยืน ส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียวผ่านนิคมอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำภายใต้แนวทาง พร้อมยกระดับโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว เพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน สนับสนุนพลังงานสะอาด จัดการของเสียผ่าน “มาบตาพุด แซนด์บ็อกซ์” และพัฒนาเทคโนโลยีดักจับคาร์บอน โดย กนอ. สร้างกลไก Carbon Finance ร่วมกับ World Bank พัฒนาตลาดคาร์บอนเครดิต และตั้ง CME เป็นศูนย์กลางความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน โดย กนอ.พร้อมผลักดันอุตสาหกรรมไทยลดก๊าซเรือนกระจก สร้างเศรษฐกิจยั่งยืน และยกระดับไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนสีเขียวในภูมิภาค

ด้านนางสาวเมลินดา กูด ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำประเทศไทยและเมียนมา กล่าวว่า การลดคาร์บอนในภาคอุตสาหกรรมไม่ใช่วาระของอนาคตอีกต่อไป แต่มันกำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ และผู้ที่เป็นผู้นำจะเป็นผู้กำหนดยุคถัดไปของความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ธนาคารโลกรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นพันธมิตรในการจัด CEO Forum และสนับสนุนประเทศไทยในการสร้างอนาคตที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโต ดึงดูดการลงทุน สร้างงาน และเสริมสร้างบทบาทของประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ประเทศไทยมีองค์ประกอบที่เหมาะสมทุกประการในการเป็นผู้นำในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม และเจตนารมณ์ที่ชัดเจน โครงการเมืองคาร์บอนต่ำ (Low Carbon City Program) ที่รัฐบาลไทยและธนาคารโลกจะร่วมมือกัน จะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้อุตสาหกรรมมีเครื่องมือในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขณะเดียวกันก็รักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก นอกจากนี้ ด้วยการประชุมประจำปีของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และกลุ่มธนาคารโลก (World Bank Group) ปี 2026 ที่กำลังจะจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ประเทศไทยจะมีโอกาสอันดีเยี่ยมในการแสดงบทบาทความเป็นผู้นำด้านสภาพภูมิอากาศและความมุ่งมั่นของภาคเอกชนต่อเวทีระดับโลก


สำหรับการจัดงานสัมมนา CEO Forum : Industrial Decarbonization under Thailand’s Low Carbon City Program ในวันนี้ (31 มีนาคม 2568) มีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมไทยก้าวสู่การเป็นอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ และรับมือกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในงาน มีการเสวนาพิเศษในหัวข้อ “กลยุทธ์ ปัจจัยความสำเร็จ และโอกาสของอุตสาหกรรมไทย สู่การเป็นอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ” โดยวิทยากรกิตติมศักดิ์จากหลากหลายภาคส่วน ได้แก่ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (นายปวิช เกศววงศ์), กรรมการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ดร. สุเมธ ตั้งประเสริฐ), ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)(ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ), Head of Environmental Social Governance and Business Stakeholder Engagement, SCG (นายชูโชค ศิวะคุณากร) และ เจ้าหน้าที่อาวุโสธนาคารโลกผู้รับผิดชอบประเทศไทย (นายขวัญพัฒน์ สุทธิธรรมกิจ) และการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “Best Practices ด้าน Decarbonization ในภาคอุตสาหกรรม” โดยนายมาร์ก ฟอร์นี่ (Mr.Marc Forni) ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (Lead Disaster Risk Management Specialist, The World Bank)ซึ่งได้นำเสนอแนวทางและตัวอย่างที่ดีในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคอุตสาหกรรม. -512-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]