สมาคมประกันฯ เผยพิรุธ สกัดเคลมจัดฉากฉ้อฉลประกันภัย

กรุงเทพฯ 14 มี.ค.-สมาคมประกันวินาศภัยไทย สกัดเคลมจัดฉากฉ้อฉลประกันภัย หวังเคลมเงินประกันกว่า 14 ล้านบาท พบพิรุธทำประกันภัยซ้ำซ้อน 28 ฉบับ

ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมฉ้อฉลประกันภัย จัดฉากอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนคนเสียชีวิต และมีการแจ้งเคลมเงินประกันภัยจำนวนกว่า 14 ล้านบาท โดยเหตุเกิดที่บ้านนาบัว-เจริญศิลป์ ต.ธาตุ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจสกลนคร ได้จับกุมผู้ต้องหาที่จัดฉากฆาตกรรมอำพราง หนุ่มวัย 32 ปี ทำเป็นอุบัติเหตุรถยนต์ตกท้ายกระบะ ก่อนที่รถอีก 2 คันขับตามทับร่างเสียชีวิต บริษัทประกันภัยได้พบความผิดปกติจากพฤติกรรมที่อาจจะเข้าข่ายหรือมีสัญญาณเตือนการเกิดทุจริต หรือฉ้อฉลประกันภัยเกิดขึ้น ทั้งนี้ การจัดฉากเป็นอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน 3 คัน พบว่ารถดังกล่าวมีการทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (ประกันภัย พ.ร.บ.) และประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ รวม 28 กรมธรรม์ จากจำนวน 15 บริษัท มีวงเงินความคุ้มครองรวมกว่า 14 ล้านบาท ซึ่งปรากฏเป็นข่าวดังในสื่อต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง


สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ภาคธุรกิจประกันภัยพบประเด็นที่เป็นความผิดปกติและพฤติกรรมที่อาจจะเข้าข่ายฉ้อฉลหรือมีสัญญาณเตือนการเกิดทุจริตฉ้อฉลประกันภัย เริ่มจากเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 ได้มีบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากทายาทของผู้เสียชีวิตยื่นเอกสารขอเบิกค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหารผ่านทางบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สาขามุกดาหาร ซึ่งทำหน้าที่รับคำร้องแทนบริษัทประกันภัยต่าง ๆ และบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยรถ จำกัด สาขามุกดาหาร จึงได้ทำการตรวจสอบข้อมูลรถคันเกิดเหตุ พบว่ามีการเอาประกันภัย โดยมีกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับหลายฉบับ จึงได้ทำการบันทึกรับแจ้งเหตุ แต่ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรอเอกสารจากผู้เสียหายเพิ่มเติม เพื่อพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนต่อไป

จากนั้นได้มีการประสานกับบริษัทประกันภัยอื่น ๆ ที่มีการรับประกันภัยรถคันดังกล่าวเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบข้อมูลระหว่างกัน ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกันระหว่างบริษัทประกันภัยและบริษัทกลางฯ พบว่า พฤติกรรมดังกล่าวนั้นมีความผิดปกติและอาจเข้าข่ายฉ้อฉล เนื่องจากมีการทำประกันภัยหลายฉบับในระยะเวลาใกล้เคียงกันและก่อนวันเกิดเหตุไม่กี่วัน และมีการยื่นเคลมค่าสินไหมทดแทนหลายในหลายพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีการมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทนด้วย จึงเป็นที่มาของการตรวจสอบร่วมกัน และประสานงานไปยังสำนักงาน คปภ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ส่งผลให้เกิดกระบวนการสืบสวน สอบสวนและนำไปสู่การจับกุมผู้ร่วมกระทำความผิดจำนวนหลายรายในข้อหาร่วมกันฆาตกรรมผู้ประสบภัยซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว


จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ หากภาคธุรกิจประกันวินาศภัยไม่พบพฤติกรรมที่เข้าข่ายการฉ้อฉลประกันภัย บริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยในครั้งนี้ จะต้องมีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนของรถทั้ง 3 คันที่ทำประกันภัยจากทั้งหมด 15 บริษัท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 14,100,000 บาท โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) จำนวน 22 ฉบับ ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต 500,000 บาทต่อฉบับ รวมมูลค่า 11,000,000 บาท

2.กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ จำนวน 6 ฉบับ ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต 500,000 บาทต่อฉบับ รวมมูลค่า 3,000,000 บาท


3.การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (ร.ย.01) จำนวน 1 ฉบับ ความคุ้มครอง 100,000 บาท

และบริษัทประกันภัยจะต้องดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนจากอุบัติเหตุที่เกิดจากรถโดยเร็ว เพื่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยและทายาท โดยระยะเวลาของการจ่ายค่าสินไหมทดแทนของกรมธรรม์ประกันภัย พ.ร.บ. ต้องจ่ายภายใน 7 วัน และกรมธรรม์ประกันภัยภาคสมัครใจ ภายใน 15 วันหลังจากได้รับเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์ แต่สำหรับเหตุการณ์นี้ บริษัทประกันภัยมีการเรียกร้องเอกสารเพิ่มเติม เพื่อประกอบการพิจารณาค่าสินไหมทดแทน และคาดว่าอาจจะเข้าข่ายเป็นการทุจริตฉ้อฉลประกันภัย ซึ่งเป็นข้อยกเว้นของกรมธรรม์ประกันภัยอย่างชัดเจน จึงได้ประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีหนังสือแจ้ง คปภ. ให้มีคำสั่งชะลอการจ่ายค่าสินไหมทดแทนในกรณีนี้ออกไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม กรณีที่บริษัทประกันภัยพบว่ามีการทุจริตหรือฉ้อฉลประกันภัยเกิดขึ้น เช่น มีผู้เรียกร้องผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยโดยทุจริต หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จในการเรียกร้องเป็นการกระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 มาตรา 108/4 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ หรือมีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนโดยฉ้อฉล บริษัทไม่ต้องรับผิดสำหรับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนอันเกิดจากการฉ้อฉลหรือทุจริต ซึ่งผู้เอาประกันภัยหรือบุคคลที่ทำแทนผู้เอาประกันภัยได้กระทำเพื่อให้ได้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัย และบริษัทประกันภัยอาจใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยได้ทันที โดยไม่คืนเบี้ยประกันภัย

นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาธุรกิจประกันภัยพบกรณีการฉ้อฉลประกันภัยและมีการดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายมาแล้ว อาทิ กรณีเสี่ยตัดนิ้วเพื่อเคลมประกันที่โด่งดังในอดีต ซึ่งมีการสืบหาข้อมูลได้ว่าเจ้าตัวมีการวางแผนทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) ไว้หลายบริษัท เป็นเงินรวมนับสิบล้านบาท การจัดฉากรถชนกัน หรือการเอาน้ำร้อนลวกขาทั้งสองข้าง เพื่อสร้างเรื่องให้เป็นอุบัติเหตุหวังเงินประกัน เป็นต้น

ทั้งนี้ รวมถึงกรณีที่มีกลุ่มคนตระเวนซื้อกรมธรรม์ประกันภัยเป็นจำนวนหลายฉบับจากหลายบริษัท การกระทำในลักษณะนี้ถือว่าไม่ใช่การบริหารความเสี่ยงภัยของตัวเอง แต่เป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ซึ่งกลุ่มคนที่มีความคิดและกระทำเช่นนี้ถือว่าเป็นการกระทำทุจริตในการฉ้อฉลประกันภัย สมาคมฯ จึงขอเตือนกลุ่มคนที่กระทำการในลักษณะนี้ว่า การประกันภัยจะให้ความคุ้มครองเฉพาะผู้เอาประกันภัยที่ใช้สิทธิโดยสุจริตเท่านั้น หากพิสูจน์ได้ว่าใช้สิทธิโดยไม่สุจริตมาทำประกันภัย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและจะไม่ได้รับค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยแน่นอน

ในกรณีเช่นนี้ขอให้ผู้บริโภคตระหนักว่า “การประกันภัยนั้นเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง ไม่ใช่เครื่องมือในการใช้หาผลประโยชน์ในทางมิชอบ” ใครมีความเสี่ยงเท่าไหร่ก็ซื้อประกันภัยให้เหมาะสม ครอบคลุมกับความเสี่ยงของตัวเอง การซื้อประกันภัยจำนวนมากแล้วไปแสวงหาผลประโยชน์ในทางมิชอบถือเป็นการกระทำที่ทุจริตและเป็นการฉ้อฉลประกันภัย “หลักการประกันภัยเป็นการให้ความคุ้มครองประชาชนผู้สุจริตให้มีหลักประกันช่วยบรรเทาความสูญเสีย ความเสียหายทางการเงินเพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับค่าสินไหมทดแทน ใช้ประกันภัยเป็นเครื่องมือในการดูแลตัวเองในยามที่ประสบเคราะห์ร้ายให้สามารถดำรงชีวิตต่อได้

สมาคมประกันวินาศภัยไทยขอความร่วมมือประชาชน หากพบเห็นพฤติกรรมฉ้อฉล สามารถแจ้งไปยังสมาคมประกันวินาศภัยไทย หรือบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้อง ใช้ประกันภัยอย่างถูกต้องและสุจริต เพื่อปกป้องสิทธิของตัวท่านเองและรักษาเสถียรภาพของอุตสาหกรรมประกันภัย สมาคมฯ พร้อมเดินหน้าสร้างความโปร่งใสในอุตสาหกรรมประกันภัย และร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเฝ้าระวังพฤติกรรมฉ้อฉลประกันภัย พร้อมทั้งให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับความสำคัญของการใช้ประกันภัยอย่างถูกต้อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับระบบประกันภัยของไทย.-516.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]