“พิชัย” เร่งผลักดันลงทุนใหม่ หวังดันจีดีพีปี 68 โต 3.5%

กรุงเทพ 12 มี.ค. – “พิชัย” เร่งผลักดันลงทุนใหม่ หวังดันจีดีพีปี 68 โต 3.5% เชื่อปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ เป็นโอกาสของไทยเพราะทำเลเชื่อมต่อจาก 2 มหาสมุทร คือมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย รวมทั้งที่ตั้งของไทยล้อมรอบด้วยประชากรโลก 600-700 ล้านคน ขณะที่เลขาธิการบีโอไอ ชี้ ไทยต้องสร้างจุดแข็งในอุตสาหกรรม 5 สาขา


นายพิชัย ชุณหวิชร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถา เรื่อง “ความพร้อมประเทศไทยเพื่อการเป็นจุดหมายการลงทุนระดับโลก” ในงาน Ignite Thailand: Invest in Endless Opportunities จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ว่า ในช่วงมากกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ไทยเราอาจจะมีกิจกรรมด้านการลงทุนที่น้อยไปหน่อย โดยเฉพาะกับต่างประเทศ ฉะนั้นใน 3-6 เดือนแรกของรัฐบาลก็ใช้เวลาไปกับการทำความรู้จักกับตลาดไม่ว่าจะเป็นทางสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา หรือ ในทวีปเอเชียซึ่งประเทศเหล่านี้มีความคุ้นเคยกับไทยมายาวนานกว่า 60 ปี

นายพิชัย กล่าวว่า โดยหลังจากนั้นก็จะเห็นว่านักลงทุนต่างประเทศเหล่านั้น ก็เข้ามาลงทุนในไทย แต่เป็นอุตสาหกรรมที่เฉพาะ อาทิ ด้านอิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ ภาคการเกษตร ไบโอเทคโนโลยี รวมไปถึงด้านการท่องเที่ยวและบริการ สะท้อนจากตัวเลขในปี 2567 ที่มียอดคำขอบีโอไอสูงเป็นประวัติการณ์ รวมมูลค่า 3 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 1 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) และรถยนต์ไฮบริด และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ขณะเดียวกัน จากเรื่องปัญหาภูมิรัฐศาสตร์และการเมืองโลกในตอนนี้เป็นจังหวะ ที่หลายคนบอกว่าเป็นวิกฤต แต่ตนมองว่าเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทย


ทั้งนี้การที่จะประกาศว่าประเทศไทยพร้อมแล้วสำหรับการจะเป็นศูนย์กลางของการลงทุนในภูมิภาคเหมือนที่เคยเป็นในอดีตนั้น สิ่งแรกที่นักลงทุนถามคือ เรื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นอย่างไร ซึ่งในอดีตเมื่อ 40 ปีก่อน ไทยเคยมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูง แม้จะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น แต่ขณะนั้นเป็นช่วงที่มีฐานต่ำ และจากนั้นก็รักษาอยู่ในระดับ 4-6% ต่อปี จนมาถึงช่วงโควิดก็ลงมาต่ำประมาณ 2% ดังนั้นวันนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่เศรษฐกิจไทย จะเจริญเติบโตในระดับ 3-3.5% ซึ่งเป็นเป้าหมายของรัฐบาลในปีนี้ แต่คงไม่ใช่เป้าหมายนระยะยาว

นายพิชัย กล่าวต่อว่า สำหรับประเทศไทยมีความพร้อมที่จะเป็นจุดหมายของการลงทุน โดยเรื่องแรกคือ ทำเลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยประชากรโลก 600-700 ล้านคน เรื่องที่สอง คือ ไทยเราน่าจะเป็นประเทศเดียวที่สามารถเป็นจุดเชื่อมระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิก กับมหาสมุทรอินเดีย ที่เป็นการเชื่อมคนขายและคนซื้อทรัพยากร เพราะฉะนั้นรัฐบาลจึงเร่งทำโครงการรถไฟรางคู่เพื่อเชื่อมต่อทุกจุดให้ลื่นไหล โดยรถไฟรางคู่จากกรุงเทพเชื่อมถึงประเทศลาวจะเสร็จสิ้นในอีก 4 ข้างหน้า นอกจากนี้ไทยยังมีความสามารถในการผลิตไฟฟ้าสูง ถึงแม้เศรษฐกิจจะโตต่ำแต่ไทยก็มีการลงทุนด้านการผลิตไฟฟ้า จนทำให้เกิดการผลิตไฟฟ้าได้เกินความต้องการที่จะใช้ในประเทศแล้ว คาดว่ามากกว่า 1 หมื่นเมกะวัตต์ จึงเป็นโอกาสที่ดีในดึงดูดลงทุน เหลือแค่ว่าจะทำอย่างไรให้มีราคาไฟฟ้าที่เหมะสม และแข่งขันได้ รวมถึงการผลิตไฟฟ้าอย่างไรให้มีความเป็นสีเขียว และรัฐบาลก็เร่งสนับสนุนในเรื่องนี้ ส่วนเรื่องอินเตอร์เน็ต 5 จี ก็มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี ส่วนด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของไทยนั้น ยืนยันว่ามีเสถียรภาพทางการคลังยังคงเข้มแข็ง แม้ว่ามีจีดีพีจะเติบโตไม่สูง แต่พื้นฐานจากในอดีตทำให้ไทยมีความมั่นคงทางการคลัง และมีเม็ดเงินสำรองระหว่างประเทศในระดับ 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐอยู่เสมอ ซึ่งสูงกว่าหนี้ระยะสั้นของไทยที่มีอยู่ในต่างประเทศมากถึง 3 เท่ารวมไปถึงประเทศไทยมีสภาพคล่องที่ยังเหลืออยู่จำนวนมากซึ่งคาดว่ามีเม็ดเงิน 4 ล้านล้านบาท ที่รอไปใช้เพื่อการลงทุน ขณะเดียวกัน ภาคธุรกิจธนาคารไทยมีความแข็งแรง ที่ผ่านมานักลงทุนอาจจะรู้สึกว่าการทำงานระบบราชการช้า วันนี้รัฐบาลก็ได้เริ่มปรับปรุงในเรื่องการอำนวยความสะดวกภาคธุรกิจ โดยระยะแรกคือ การทำศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ หรือ One Stop Service และในระยะถัดไปก็จะต้องยกระดับไปสู่การอนุมัติอัตโนมัติ (automatic approval) บนดิจิทัลแพลตฟอร์ม

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการบีโอไอ กล่าวเสวนาในหัวข้อ “การขับเคลื่อนการลงทุนเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมใหม่ ว่า ไทยต้องสร้างจุดแข็งใหม่ในอุตสาหกรรม 5 สาขา คือ 1.การส่งเสริมในอุตสาหกรรม BCG ซึ่งในปี 2565-2567 มีการขอรับส่งเสริมการลงทุนจำนวน 2,523 โครงการ มูลค่าการลงทุน 5.4 แสนล้านบาท เช่น การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ SAF ในอุตสาหกรรมการบิน การผลิต Cellulosic Enzyme จากวัตถุดิบดิบธรรมชาติเป็นน้ำตาลกลูโคส การผลิตพลาสติกชีวภาพ 2.การส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ อีวี และชิ้นส่วน ในปี 2565-2567 มีการขอรับส่งเสริมการลงทุนจำนวน 644 โครงการ มูลค่าการลงทุน 2.8 แสนล้านบาท เช่น MAZDA มีแผนขยายการลงทุนเพิ่มอีก 5 พันล้านบาท NISSAN มีแผนผลิต HEV รุ่นใหม่ MITSUBISHI MOTOR มีแผนเปิดตัว HEV รุ่นใหม่ และ ISUZU จะเริ่มผลิตรถกระบะ BEV เพื่อส่งออกไปนอร์เวย์ในปีนี้ 3. การส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิคส์ขั้นสูง ในปี 2565-2567 มีการขอรับส่งเสริมการลงทุนจำนวน 406 โครงการ มูลค่าการลงทุน 6.1 แสนล้านบาท 4. การส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัลในปี 2565-2567 มีการขอรับส่งเสริมการลงทุนจำนวน 27 โครงการ มูลค่าการลงทุน 2.9 แสนล้านบาท และ 5.การส่งเสริมการลงทุนใน International Business Center


ทั้งนี้ระหว่างปี 2565-2567 มีการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนรวม 7,352 โครงการ สร้างงานให้คนไทยมากกว่า 4 แสนตำแหน่ง ใช้วัตถุดิบในประเทศมูลค่ามากกว่า 2.8 ล้านล้านบาท และมีรายได้จากการส่งออกมากกว่า 5.5 ล้านล้านบาท

ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า อว.ได้เตรียมแผนพัฒนาบุคลากรรองรับการสร้างอุตสาหกรรมอนาคต โดยมีเป้าหมายใน 5 ปี จะผลิตบุคลากรในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงจำนวน 80,000 คน อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า 150,000 คน และ AI 50,000 คน ผ่านการ Upskill / Reskill การจัดหลักสูตรพิเศษ Sandbox และการให้ทุนวิจัยและพัฒนาในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมีแพลตฟอร์มการพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูง STEM One-Stop Service ที่ร่วมกับบีโอไอในการให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนที่มีการลงทุนพัฒนาบุคคลในอุตสาหกรรมเป้าหมาย นอกจากนี้ ยังมีกลไกของกองทุนวิจัยที่สนับสนุนการพัฒนานักวิจัยเพื่อรองรับอุตสาหกรรมในอนาคต

ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานได้เตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ของโลกการลงทุน โดยเฉพาะความผันผวนด้านพลังงานของโลก โดยแผน PDP ฉบับใหม่ ได้เพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด จากร้อยละ 22.6 ในปี 2567 เป็นร้อยละ 51 ในปี 2580 หรือเพิ่มขึ้น 63,867 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ ได้เตรียมแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมสีเขียว โดยใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในการยกระดับพลังงานไทย เพื่อรองรับอุตสาหกรรมใหม่ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและดิจิทัล รวมถึงการพัฒนาระบบไฟฟ้ารูปแบบใหม่ (Grid Modernization) รองรับการบริหารจัดการระบบไฟฟ้าของไทยให้มีความมั่นคง มีราคาที่เหมาะสม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการจัดทำ Direct PPA ใน 2 รูปแบบ รูปแบบแรก คือ กลไกการจัดหาพลังงานสะอาด (Utility Green Tariff: UGT) สำหรับภาคอุตสาหกรรมผ่านการไฟฟ้า รูปแบบที่สอง เปิดให้เอกชนซื้อไฟฟ้าผ่านบุคคลที่สาม (Third Party Access: TPA) โดยมีโครงการนำร่องในการซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน จำนวน 2,000 เมกะวัตต์ให้กับธุรกิจ Data Center

ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการเติบโตบนพื้นฐานเศรษฐกิจดิจิทัล โดยตั้งเป้าหมายว่าในปี 2570 มูลค่าของเศรษฐกิจดิจิทัล จะมีสัดส่วนร้อยละ 30 ของจีดีพี และก้าวขึ้นไปอยู่ในอันดับ 30 ของประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของโลก ซึ่งในปี 2567 ไทยอยู่ในอันดับที่ 37 ของโลก และเป็นอันดับ 3 ในอาเซียน โดยปัจจัยด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของไทยอยู่ในอันดับต้น ๆ จากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก

กระทรวงดีอี พร้อมสนับสนุนความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นจุดหมายด้านการลงทุน โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลในหลาย ๆ ด้าน เช่น นโยบาย “Cloud First” เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางข้อมูลและบริการคลาวด์ของภูมิภาค การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI รวมทั้งมีการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อสนับสนุนการลงทุน เช่น การทำธุรกรรมออนไลน์ สิทธิพิเศษด้านภาษี และการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษ. -513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]