เร่งขับเคลื่อน Mega Project พัฒนาคมนาคมไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่ง

กรุงเทพ 4 ก.พ.- “มนพร” เร่งขับเคลื่อน Mega Project พัฒนาคมนาคมไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางทะเล – อากาศ หนุนท่องเที่ยว สร้างงาน – สร้างรายได้ – สร้างการเติบโตและความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน


นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวปาฐกถา หัวข้อ “Mega Project Mega Power : พลิกโฉมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” ในงาน “Go Thailand 2025 : “Women Run the World” 45 ปี ฐานเศรษฐกิจ ว่า รัฐบาลภายใต้การบริหารงานของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประกอบกับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีนโยบายในการเดินหน้าการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่ หรือ Mega Project เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยท่ามกลางความท้าทายต่าง ๆ โดยรัฐบาลต้องการเปลี่ยน “ความท้าทาย” ให้กลายเป็น “ความหวัง โอกาส และความเสมอภาคทางเศรษฐกิจ และสังคม” ของคนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม กระทรวงคมนาคมจึงได้เร่งรัดดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อสร้างโอกาสและพลิกโฉมให้กับประเทศไทยผ่านการลงทุนทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ อย่างเป็นระบบ

ประเทศไทยมีที่ตั้งอยู่ตรงกลางของภูมิภาคอาเซียน ทำให้มีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการเดินทาง หากพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมได้จะทำให้ประชาชนทั่วโลกที่จะเดินทางมาในภูมิภาคอาเซียนต้องมาประเทศไทยก่อน แล้วต่อเครื่องบินเพื่อเดินทางไปประเทศจุดหมายปลายทาง หรือสินค้าต้องขนส่งมาที่ประเทศไทยก่อนที่จะกระจายต่อไปยังประเทศต่าง ๆ โดยรอบผ่านระบบโครงข่ายคมนาคมที่ดีของไทย ปัจจุบันรายได้ส่วนใหญ่ของประเทศมาจากภาคการท่องเที่ยว จากสถิติที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยถึง 35 ล้านคน เพิ่มขึ้น 26% เทียบกับปีที่แล้ว และนำรายได้เข้าประเทศกว่า 1.67 ล้านล้านบาท สร้างการจ้างงานกว่า 7 ล้านคน หรือ 20% ของการจ้างงานทั้งหมด และในปีนี้ไทยครองตำแหน่ง “Destination of the Year 2025” จึงเป็นหนึ่งในจุดหมายที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากมาเยือน แสดงให้เห็นว่าภาคการท่องเที่ยวเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันและอนาคต กระทรวงคมนาคมจึงมุ่งขับเคลื่อนโครงข่ายคมนาคมเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยมีแผนก่อสร้างท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ ครอบคลุมทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน 3 แห่ง ได้แก่ 1) ท่าเรือสำราญบริเวณแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา 2) ท่าเรือสำราญภูเก็ต และ 3) ท่าเรือสำราญเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งจะส่งผลให้มีเรือสำราญขนาดใหญ่แวะเข้าเทียบท่ามากขึ้น สร้างเม็ดเงินและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจจากเดิมไม่น้อยกว่า 7 – 8 เท่า


นางมนพร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดการณ์ว่าในปี 2575 จะมีนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารเดินทางมาประเทศไทยทางเครื่องบินถึง 240 ล้านคน กระทรวงคมนาคมจึงมีแผนจะพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติหลักให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กำลังพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 3 โดยขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก พัฒนาอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ด้านทิศใต้ และทางวิ่งเส้นที่ 4 เพิ่มเติม ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมการพัฒนา วงเงินลงทุน 170,000 ล้านบาท ส่วนท่าอากาศยานดอนเมือง ทอท. มีแผนก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศแห่งใหม่ และปรับปรุงอาคารผู้โดยสารในประเทศหลังเดิม วงเงินลงทุน 36,830 ล้านบาท ส่วนท่าอากาศยานเชียงใหม่และท่าอากาศยานภูเก็ตที่มีสภาพแออัด มีข้อจำกัดด้านกายภาพ ทำให้ไม่สามารถขยายทางวิ่งและอาคารผู้โดยสารได้อีก กระทรวงคมนาคมจึงมีแผนการพัฒนาท่าอากาศยานแห่งใหม่ในภาคเหนือ ได้แก่ ท่าอากาศยานล้านนา ในพื้นที่จังหวัดลำพูน ซึ่งอยู่ห่างจากท่าอากาศยานเชียงใหม่เพียง 22 กิโลเมตร เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการเดินทางทางอากาศในภาคเหนือ นอกจากนี้ ยังมีแผนพัฒนาศูนย์กลางการเดินทางทางอากาศแห่งใหม่ในภาคใต้ ได้แก่ ท่าอากาศยานอันดามัน ในพื้นที่จังหวัดพังงา ซึ่งห่างจากท่าอากาศยานภูเก็ตประมาณ 23 กิโลเมตร

ในส่วนของการขนส่งสินค้าทางทะเล จากสถิติการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ในปี 2566 สัดส่วนมูลค่าการค้าของไทยกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก อยู่ที่ 573,583 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สำหรับประเทศในกลุ่มภูมิภาคอาเซียนมีมูลค่าการนำเข้าและส่งออก อยู่ที่ 115,638 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยอาศัยประเทศไทยเป็นประตูในการนำเข้าและส่งออกสินค้า เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าและเป็นประตูในการนำเข้าและส่งออกของภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง กระทรวงคมนาคมจึงเร่งดำเนินการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกที่สำคัญ ได้แก่ ท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ให้สามารถรองรับจำนวนตู้สินค้าได้มากถึง 18 ล้านตู้/ปี วงเงินลงทุน 114,030 ล้านบาท และท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุด ให้สามารถรองรับสินค้าปิโตรเลียมมากถึง 31 ล้านตัน/ปี วงเงินลงทุน 59,350 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งโครงการสำคัญของรัฐบาลนี้ คือ การพัฒนาโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งมีองค์ประกอบ ได้แก่ ท่าเรือน้ำลึกที่จังหวัดชุมพรและระนอง เชื่อมโยงท่าเรือสองแห่งด้วยรถไฟทางคู่และมอเตอร์เวย์ ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร เมื่อโครงการเกิดขึ้นจะเป็นเส้นทางขนส่งทางทะเลเส้นทางใหม่ของโลก จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 15% และลดระยะเวลาการขนส่งทางทะเลระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดียได้ 4 วัน ซึ่งจะพลิกโฉมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางทะเลแห่งใหม่ของภูมิภาคและของโลกในอนาคต

“กระทรวงคมนาคม ได้วางแผนพัฒนาระบบคมนาคม และให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และการขนส่งสินค้าทางทะเล เพื่อส่งเสริมให้เกิดการสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศ แผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางทะเลและการขนส่งทางอากาศ เป็นความตั้งใจและทุ่มเทการทำงานของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมที่จะสร้างโอกาสให้กับประเทศเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างการเติบโตและความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน รวมทั้งสร้างโอกาสให้นักลงทุนภายในและต่างประเทศ สนับสนุนการลงทุนโครงการสำคัญขนาดใหญ่ที่ทำให้เกิดการสร้างงานสร้างรายได้ สร้างโอกาสให้กับประชาชนทำให้คุณภาพชีวิตของคนไทยดีขึ้น” นางมนพร กล่าว.-513-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]