เอกชนจับตาเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐ ชี้ชะตาเศรษฐกิจไทย-เศรษฐกิจโลก

นครราชสีมา 2 พ.ย.-เอกชนจับตาเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่ว่าใครจะเป็นประธานาธิบดี ไทยก็ได้ประโยชน์จาก Trade war หากเป็น “แฮร์ริส” ทุกอย่างจะยังคงเดิม แต่หากเป็น “ทรัมป์” การกีดกันการค้าจะรุนแรงมากขึ้น แนะไทยต้องมีลอบบี้ยิสต์ ในการเจรจาและวางนโยบายที่ชัดเจน ขณะเดียวกัน ปัญหาสินค้าจีนทะลักกระทบผู้ประกอบการไทยจะรุนแรงขึ้น วอนรัฐบาลเร่งหามาตรการป้องกันแก้ไข

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ เชื่อว่าทุกฝ่ายจับตาว่าใครจะได้รับความไว้วางใจให้เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจ และเป็นอันดับหนึ่งทุกด้านของโลก ระหว่างนายโดนัล ทรัมป์ และนางกัมลา แฮร์ริส ซึ่งนโยบายของทั้งสองคนมีความแตกต่าง และไม่ว่าใครจะได้รับคัดเลือกก็ต้องส่งผลไปทั่วโลกรวมถึงไทย ในช่วงที่โดนัล ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสมัยที่หนึ่ง ก็เกิดผลกระทบเมื่อเกิด Trade war โดยที่ไม่มีใครคาดคิด ทำให้ต้องเกิดการปรับตัวขนาดใหญ่ เช่น ปี 2562 ไทยได้ดุลการค้าสหรัฐอันดับ 14 แต่ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งก็ดำเนินการเรื่อง Trade war จีนเช่นเดียวกันส่งผลให้ 9 เดือนของปี 2567 ประเทศไทยได้ดุลการค้ากับสหรัฐเพิ่มขึ้น 10% และเลื่อนขึ้นมาเป็นประเทศที่ได้ดุลการค้าสหรัฐอันดับที่ 12


ฉะนั้นหมายความว่าภายใต้ Trade war ของทั้งสองนโยบายของ 2 ผู้นำจากต่างพรรค ประเทศไทยยังได้ประโยชน์ทางด้านการค้า ทั้งสองนโยบายเหมือนกันคือเรื่อง Trade war และการมองจีนเป็นศัตรูหมายเลข1 ฉะนั้นมาตรการต่างๆก็จะเหมือนกันแต่มิติความรุนแรงจะแตกต่างกันโดยปัจจุบันทางด้านการค้าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ขึ้นภาษีรถยนต์อีวีเช่นรถยนต์อีวี ที่นำเข้าจากจีนจากเดิม 25% ขึ้นไปอีก 75% รวมเป็น 100% และจะมีการเรียกเก็บภาษีที่ผ่านมาในเดือนพฤษภาคม 18,000 ล้านเหรียญในอุตสาหกรรมนำเข้าจากจีนโดยเฉพาะพลังงานสะอาด แผงโซล่า แต่หากเป็นโดนัล ทรัมป์ จะมีความรุนแรงขึ้น คือจะมีการขึ้นภาษีจากทุกประเทศที่ได้ดุลการค้าสหรัฐ อย่างน้อย 10 ถึง 20% แต่กับจีนจะให้เป็นพิเศษคือจะเพิ่ม 60 ถึง 100% จะเห็นว่านโยบายมีความรุนแรงขึ้นซึ่งหากเป็น โดนัล ทรัมป์ ก็จะบอกว่าMake America great again ซึ่ง จะมอง เรื่อง ดุลการค้าและความมั่นคงสูงเป็นพิเศษ

ส่วนนโยบายเรื่องการลงทุนหาก นางกมลา แฮร์ริสได้รับชัยชนะก็จะดำเนินนโยบายเช่นเดียวกับ โจ ไบเดน คือเพิ่มการเก็บภาษีจากปัจจุบัน 21% เป็น 28% แต่หากเป็นทรัมป์จะส่งเสริมการลงทุนในประเทศให้กลับมา โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเทคทั้งหลายเพื่อการจ้างงาน สร้างจีดีพี โดยจะมีนโยบายลดภาษีนิติบุคคล 15% จาก


ส่วนเรื่องการกีดกันเทคโนโลยี ทรัมป์จะมีความรุนแรงกว่าโจ ไบเดน ซึ่งหาก แฮร์ริส มาก็คงดำเนินการเหมือนเดิมเช่นการออกกฏหมาย CHIPS and Science Act ซึ่งก็คือการที่จะไม่ถ่ายทอดเทคโนโลยีชั้นสูงหรือขายเทคโนโลยีเหล่านี้ไปยังประเทศที่ไม่เป็นมิตร ซึ่งหมายถึง จีน จะเห็นว่ามาตรการนี้เข้มข้น เพราะเกรงว่า จีนจะได้ชิปที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงหรือว่าขนาดเล็กตอนนี้ก็มีการกีดกันทุกอย่างกระทั่งการขอความร่วมมือจากประเทศเนเธอร์แลนด์ บริษัทASML ผู้ผลิตเครื่องผลิตชิปรายเดียวของโลก ซึ่งลูกค้ารายใหญ่ก็คือประเทศจีน เพราะว่ากลัวว่าจีนจะไปผลิตชิปชั้นสูงแข่งกับอเมริกา ส่วนทรัมป์ ก็บอกว่า จะไม่ให้จีนลงทุนในเทคโนโลยี สาธารณูปโภค รวมถึงพลังงาน

ส่วนมิติปัญหาเรื่องผลกระทบของสิ่งแวดล้อมและอุตสาหกรรม ทั้ง 2 พรรค มีความแตกต่างกัน โดย แฮร์ริสและไบเดนยังคงให้ความสำคัญในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ลดการใช้พลังงานฟอสซิล เพื่อลดโลกร้อน และสนับสนุนพลังงานสีเดียว แต่ทรัมป์ไม่สน มีหลายคนบอกว่า ทรัมป์ไม่สนใจเรื่อสนธิสัญญา Paris ที่ได้เซ็นต์กันไว้ตั้งแต่ปี 2015 แต่จะให้การสนับสนุนขุดเจาะน้ำมัน หาแหล่งน้ำมันจากฟอสซิล

เรื่องการต่างประเทศหากแฮร์ริส ได้เป็นประธานาธิบดีความตึงเครียดเรื่องสถานการณ์จีโอโพลิติกส์จะสูงและมีโอกาสที่จะเกิดสงครามได้ทุกเมื่อถ้ามีการกระทบกระทั่งกันหรือว่ามีน้ำผึ้งหยดเดียวที่ไม่ตั้งใจซึ่งจะนำไปสู่สงครามใหญ่หรือสงครามโลกได้ แต่กรณีทรัมป์ ประกาศชัดเจนเรื่องการต่างประเทศ เช้น นาโต้ ทรัมป์ ประกาศต่างคนต่างอยู่ และนาโต้อย่าหวังพึ่งสหรัฐ ทุกประเทศต้องเพิ่มงบการทหารอีก 3% ของงบป้องกันประเทศ ซึ่งตอนนี้กลุ่มประเทศนาโต้หรือกลุ่มอียูเศรษฐกิจไม่ดี เนื่องจากสงครามรัสเซียยูเครน เรื่องของไต้หวันเองทรัมป์ก็ประกาศว่าถ้าไต้หวันต้องการให้สหรัฐอเมริกาไปช่วยต้องจ่ายค่าคุ้มครองเพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้จะทำให้อุณหภูมิของสมรภูมิต่างๆน่าจะลดลง ยกเว้นสมรภูมิเดียวคือตะวันออกกลางระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล ทรัมป์ก็ยังคงสนับสนุนอิสราเอลเต็มที่


ส่วนผลที่จะเกิดกับประเทศไทย ที่ผ่านมาเราได้ตัวเลขการค้าขายมากขึ้น สิ่งที่เหมือนกันระหว่างโจ ไบเดนและทรัมป์คือเรื่อง Trade war และจีโอโพลิติกส์ ทั้ง 2 พรรคมองจีนเป็นคู่แข่งและศรัตรูอันดับหนึ่ง ฉะนั้นการขึ้นกำแพงภาษี การย้ายฐานการผลิตส่งผลดี สินค้าจากจีนจะถูกตั้งกำแพงสูง สหรัฐซื้อสินค้าจากจีนน้อยลง จะซื้อสินค้าจากประเทศอื่นรวมถึงไทยแทน ดังจะเห็นว่า 9 เดือนของปี 2567 ยอดการสั่งซื้อสินค้าจากประเทศไทยเพิ่มขึ้น ฉะนั้นถ้าหากว่าทรัมป์มาสถานการณ์ก็จะเป็นอย่างนั้นอยู่แต่อาจจะมีวิธีคิดแตกต่าง เมื่อครั้งที่ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 1 ได้ให้ความสำคัญกับประเทศที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐมาก ว่าทำไมถึงได้ดุลการค้า รวมถึงประเทศไทยซึ่งขณะนั้นเราอยู่อันดับที่ 14 ทรัมป์ได้ตั้งคำถามว่า ทำไมประเทศไทยได้ดุลการค้าเพราะเราบิดเบือนค่าเงินหรือไม่ หรือทำให้ค่าเงินอ่อนเกินไปหรือไม่ จึงได้มีมาตรการมาตรวจสอบ เพื่อลดความได้เปรียบ สิ่งเหล่านี้จะเกิดความเข้มข้นและจะเกิดการเจรจาจากพหุภาคีเดิมซึ่งเป็นประเทศพันธมิตรรวมกันเป็นทวิภาคี เจรจาเป็นรายประเทศ ส่วนตัวคิดว่าประเทศไทยจะได้ประโยชน์ เพียงแต่หากทรัมป์ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี ประเทศไทยจะต้องมีลอบบี้ยิสต์ ในการเจราและวางนโยบายที่ชัดเจน เพราะว่าหากเป็นทรัมป์จะเป็นลักษณะหมูไปไก่มา แต่หากเป็นกมลา แฮริส มาก็จะยังดำเนินการเหมือนทุกวันนี้ที่เป็นอยู่ เพราะฉะนั้นเรายังมีโอกาสได้เปรียบทางด้านการค้าแต่ทางด้านการลงทุนอุตสาหกรรม ตอนนี้ในเรื่องจีโอโพลิสติกและมีผลกระทบโดยเฉพาะการตั้งกำแพงภาษีส่งของอเมริกาที่จะสูงขึ้นแล้วรวมถึงของยุโรปที่จะตามมา วันนี้สินค้าจากจีนที่เคยผลิตและส่งไปขายทั้งในอเมริกาและยุโรปต้องเป็นหลักทะลักจากกลับมาในอาเซียนผลกระทบก็เห็นแล้วตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งปีที่แล้วตนเองได้เคยบอกว่าในกลุ่มอุตสาหกรรมของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยรวม 46 กลุ่มมี 22 กลุ่มได้รับผลกระทบในเชิงลบยอดขายตกมาก จากสินค้าของจีนเข้ามา ปี 2566 เป็นปีแรกในรอบ 16 ปี จีนไม่ได้เปรียบสหรัฐเป็นคู่ค้าอันดับ 1 เนื่องจากการขึ้นภาษีนำเข้าสกัดกั้นได้ผล จากที่จีนเคยส่งสินค้าไปยังอเมริกามูลค่า ห้าแสนกว่าล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2565 ลดลงไม่ถึง สี่แสนล้านเหนียญสหรัฐในปี 2565 ลดลงกว่า20% แต่ในขณะเดียวกันยอดเหล่านี้กลับมาโผล่ที่เอเชียตะวันออกเชียงใต้กลายเป็นว่าในปี 2566 คู่ค้าอันดับหนึ่งของจีนคืออาเซียน นั่นหมายความว่าอาเซียนรวมถึงไทยรับสินค้าจากประเทศจีนไปเต็มๆ และเมื่อดูรายประเทศจะพบว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ขาดดุลกับจีนมากที่สุดประเทศหนึ่งเราขาดดุลเพิ่มทุกปี เพียงเก้าเดือนของปี 2567 เรานำเข้าสินค้าจากจีนทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมายเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นเกือบ 20% อุตสาหกรรมของเราก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องจีโอโพลิติกส์ที่มากขึ้น แต่อุตสาหกรรมใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คือ FDI เพราะเป็นการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมที่จะเป็นยุคใหม่เรื่องของสินค้าที่เกี่ยวกับสมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์เนี่ยก็จะเป็นอานิสงส์ที่ประเทศไทยได้รับมากขึ้น

สำหรับการลงทุนเก้าเดือนของปี 2567 บีโอไอประกาศว่า FDI หรือการลงทุนทางตรงจากหลายประเทศที่ย้ายฐานมาจากจีนประเทศไทยเราเติบโตขึ้นมีโครงการที่ขอรับการส่งเสริมลงทุนเกือบ 2000 โครงการรวมมูลค่า 722,000 กว่าล้านบาทมากที่สุดในรอบ 10 ปี นี่คืออานิสงส์ที่ได้รับ ฉะนั้นก็จะมีสินค้าที่ถูกดิสรับจากสินค้าจีนที่เข้ามาจำนวนมาก ล่าในปี 2567 มีอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบอีก 3 อุตสาหกรรมรวมเป็น 25 อุตสาหกรรม หากรัฐบาลไม่มีมาตรการที่ดีพอ อุตสาหกรรมของเราอาจจะได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้นเป็น 30-35 อุตสาหกรรม

ดังนั้น ส.อ.ท. จึงเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งหามาตรการป้องกันโดยด่วน ไม่เฉพาะสินค้าที่ถูกกฎหมาย เพราะยังมีสินค้าที่ไม่ถูกกฎหมายอีกมากมายในเมืองไทย ทำลาย SMEs ไทย ซึ่งต้องเร่งปกป้องสินค้าจากจีนไม่ให้เข้ามามากเกินไปและจะต้องรีบเร่งวางแผนหาตลาดสหรัฐเพิ่มมากขึ้น

“ในช่วงที่ผ่านมา ปัญหาสงครามการค้าที่เกิดขึ้นผู้ได้รับผลประโยชน์ก็คือเซาท์อีสเอเชีย แต่ประเทศที่ได้ประโยชน์มากที่สุดคือเวียดนาม ในปี 2021-2023 เวียดนามส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอีก 2.6 แสนล้านเหรียญสหรัฐในขณะที่นำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นเป็น 1.6แสนล้านเหรียญสหรัฐเมื่อหักลบกบนี่แล้วพบว่าการส่งออกเป็นบวกถึงเกือบ 1 แสนล้านเหรียญล้านสหรัฐ แต่ของไทยเราส่งไปอเมริกาเพิ่มขึ้นได้ แต่นำเข้าเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เมื่อหักลบแล้วพบว่าขาดดุล 2 หมื่นล้ายเหรียญสหรัฐ นั่นหมายความว่าประเทศไทยยังไม่ได้ประโยชน์จากความขัดแย้งนี้อย่างเต็มประสิทธิภาพ” นายเกรียงไกร กล่าว.-517.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]