“สมอ.” แจงขอ มอก. ปลอดทุจริต ตรวจสอบได้

กรุงเทพฯ​ 20 ส.ค.​ – สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) แจงประเด็น​ข้อกล่าวหา​ การขอมาตรฐานผลิตภัณฑ์​อุตสาหกรรม​ (มอก.) ล่าช้า​และ​เกิดช่องว่าง​การทุจริต​ ยืนยัน​ใช้​ระบบยื่นคำขอใบอนุญาต มอก. ผ่าน​ e-License ใช้เวลาในการออกใบอนุญาต เฉลี่ยไม่เกิน 4 วันทำการ​ โดย สมอ. จะขอข้อมูล​หลักฐาน​เพิ่ม​จากผู้​เกี่ยว​ข้องตามที่​ถูก​พาดพิง หากพบการกระทำ​ผิด จะดำเนิ​นการ​ลงโทษ​อย่าง​เด็ดขาด


นายนนทิชัย​ ลิขิตาภรณ์ ผู้​อำนวยการ​กองตรวจการมาตรฐาน​ 1 รักษา​ราชการ​แทนเลขาธิการ​สำนักงาน​มาตรฐาน​ผลิตภัณฑ์​อุตสาหกรรม​ (สมอ.)​ กล่าว​ถึง​กรณีที่มีการกล่าวพาดพิงการทำงานของ สมอ. และเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลว่า การขออนุญาตมาตร​ฐาน​ผลิต​ภัณฑ์​อุตสาหกรรม​ (มอก.) มีขั้นตอนยุ่งยาก ใช้เวลานานจนเกิดช่องว่างในการทุจริต มีการเรียกรับสินบน จากเจ้าหน้าที่ และการเข้าตรวจโรงงานโดยไม่มีหมายค้นนั้น สมอ. ขอชี้แจงว่า ปัจจุบัน สมอ. ใช้ระบบ e-License ในการออกใบอนุญาต จะใช้ระยะเวลาเฉลี่ยในออกใบอนุญาต ไม่เกิน 4 วันทำการ เมื่อผู้ประกอบการยื่นผล การตรวจโรงงาน และผลการตรวจสอบสินค้าเข้ามาในระบบ ซึ่งผู้ขอรับใบอนุญาตและเจ้าหน้าที่ผู้พิจารณาจะไม่เจอหน้า กัน จึงสามารถป้องกันการทุจริตได้

การนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในกระบวนการทำงานตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และอำนวยความสะดวกในการให้บริการแก่ผู้ประกอบการ และประชาชน โดยเฉพาะภารกิจด้านการอนุมัติหรืออนุญาต เพื่อลดโอกาสในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่โดยตรง และปิด ช่องทางการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเรียกรับผลประโยชน์ส่วนตัว โดย สมอ. มีการพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์มาอย่าง ต่อเนื่อง ครบเต็มรูปแบบ ทุกกิจกรรม ตั้งแต่การยื่นคำขอใบอนุญาต มอก. ผ่านระบบ e-License เมื่อผู้ประกอบการ ยื่นผลการตรวจโรงงาน พร้อมผลการตรวจสอบสินค้า เข้ามาในระบบครบทั้ง 2 ส่วน ระบบจะใช้เวลาในการออกใบอนุญาต เฉลี่ยไม่เกิน 4 วันทำการ สำหรับการชำระค่าบริการของผู้ประกอบการสามารถชำระผ่านระบบ e-Payment รวมถึงการตรวจติดตามภายหลังได้รับใบอนุญาตผู้ประกอบการสามารถดำเนินการผ่านระบบ e-Surveillance ได้ ซึ่งเป็นการลด โอกาสในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ สมอ. โดยตรง


ทั้งนี้ สมอ. ยืนยันถึงความโปร่งใส่ในการทำงาน โดยมีรางวัลการประเมิน คุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity & Transparency Assessment Awards: ITA Awards) จากสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นเครื่องการันตี ซึ่ง สมอ. ได้คะแนนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของกระทรวงอุตสาหกรรม จึงเป็นสิ่งตอกย้ำว่า การดำเนินงานของ สมอ. มีความโปร่งใส และเป็นธรรม สามารถตรวจสอบได้

ทั้งนี้ ​เชื่อ​ว่า การ​ที่​ถูก​กล่าวหา​ มีความเป็​นไปได้​ว่า​ เกิด​จาก​ความ​เข้มงวดตรวจสอบ​สินค้า​ที่ไม่เป็น​ไปตามมาตรฐาน​ มอก.​ ผู้ประกอบการ​บางรายที่ถูก​ตรวจสอบ​และ​มีสินค้า​ไม่ได้มาตรฐาน​จึงกล่าว​พาดพิง สมอ.

นายนนทิชัย กล่าว​ว่า​ ตั้งแต่​เดือน​กันยายน​ 2566 ​จนถึง​ปัจจุบัน​ สมอ.​ ตรวจสอบ​พบผู้ประกอบการ​ที่​ลักลอบ​นำเข้า​สินค้า​จากต่างประเทศ​และเป็​นสินค้า​ที่ไม่มี ​มอก.​ 431​ ราย​ ในจำนวน​นี้ตรวจสอบ​เบื้องต้น​จาก​ 57​ ราย ที่โฆษณา​ผ่านแพลตฟอร์ม​อีคอมเมิร์ซ​ จากนั้น​จึงขยายผล​ตรวจสอบ​พบเพิ่ม​เติม​ นอกจากนี้​ยังพบ​ว่า​ กว่า​ 50% ผู้​ประกอบการ​เป็น​ชาวต่างชาติ​ที่มาประกอบ​กิจการ​ในประเทศ​ไทย​ นอกจาก​นี้ยังพบ​ว่า​บางรายมีใบอนุญาต​ มอก.​ แต่ต่อมา​ลักลอบ​นำเข้า​สินค้า​ชนิด​เดียวกัน​ แต่​เป็น​ผลิตภัณฑ์​ที่​ไม่ได้​มาตรฐาน​


สำหรับ​กลุ่ม​สินค้า​ที่​พบว่า​ ลักลอบ​นำเข้า​และ​ไม่ได้​มาตรฐาน​มากที่สุด​ได้แก่​ เหล็ก​ ยาง​ล้อ​ เครื่อง​ใช้​ไฟฟ้า และ​โภคภัณฑ์ สมอ. ยืนยัน​ว่า การเข้าตรวจค้นสถานประกอบการโดยไม่มีหมายค้น ขอชี้แจงว่า พ.ร.บ. มาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม พ.ศ.2511 เป็นกฎหมายเฉพาะที่ให้อำนาจกับ สมอ. ในการกำกับดูแลสินค้าที่ส่งผลต่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน โดยสามารถเข้าไปตรวจสถานที่ผลิต สถานที่เก็บ และสถานที่จำหน่ายสินค้าได้โดยไม่ต้องมี หมายค้น แต่ต้องแสดงบัตรพนักงานเจ้าหน้าที่ และมีผู้ประกอบการเจ้าของสถานที่ร่วมตรวจด้วยทุกครั้ง

อย่างไรก็ตาม สมอ. ได้ดำเนินการเพื่อหาข้อเท็จจริง โดยประสานกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อขอหลักฐานเพิ่มเติม และอยู่ระหว่างการพิจารณาตรวจสอบ เพื่อให้ปรากฏข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม หากตรวจสอบแล้วพบการกระทำ ผิดจริงตามที่ถูกพาดพิง จะดำเนินการทางวินัยขั้นเด็ดขาดกับเจ้าหน้าที่ผู้กระทำความผิดโดยไม่มีข้อยกเว้น

หากมีข้อสงสัย หรือถูกเรียกรับผลประโยชน์จากเจ้าหน้าที่ สมอ. สามารถร้องเรียนได้ทาง https://www.tisi.go.th/website/ about/tisi_corruption รวมถึงทุกช่องทางการติดต่อของ สมอ. ทั้งเว็บไซต์ www.tisi.go.th เฟสบุ๊ค https://www. facebook.com/tisiofficial และติ๊กต๊อก​www.tiktok.com/@tisiofficial หรือ โทร. 02 4306815. -512​ – สำนักข่าว​ไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]