เผย 4 วันยอดประชาชนเดินทางแตะ 10.4 ล้านคน-เที่ยว

กรุงเทพ 15 เม.ย. – “สุริยะ” เผยการเดินทางสงกรานต์ 2567 ภาพรวมขนส่งสาธารณะรวม 4 วัน ยอดประชาชนเดินทางแตะ 10.4 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 7.22% ส่วนยอดอุบัติเหตุวานนี้ (14 เม.ย.) พบลดลงกว่า 21% บาดเจ็บลดลงเกือบ 22% พร้อมสั่งทุกหน่วยงานฯ พร้อมรับประชาชนเดินทางกลับจากภูมิลำเนาวันนี้ (15 เม.ย.)


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงภาพรวมเทศกาลสงกรานต์ 2567 ประจำวันที่ 14 เมษายน 2567 พบว่า ภาพรวมการเดินทางสะสม 4 วัน (11 – 14 เมษายน 2567) มีปริมาณการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศและระหว่างประเทศ สามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ โดยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อยู่ที่ระดับ 10,478,277 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 7.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 โดยระบบการขนส่งสาธารณะภายในประเทศ ระบบทางรางมีการใช้บริการสูงสุด คิดเป็นสัดส่วน 45.16%

สำหรับระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศที่มีผู้ใช้สูงสุดในแต่ละภูมิภาค ได้แก่ 1.ภาคกลาง : ทางอากาศ (ขาออก) 172,144 คน-เที่ยว 2.ภาคใต้ : ทางถนน 124,593 คน-เที่ยว 3.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) : ทางถนน 142,074 คน-เที่ยว 4.ภาคเหนือ : ทางถนน 85,675 คน-เที่ยว และ 5.ภาคตะวันออก : ทางถนน 71,776 คน-เที่ยว ขณะที่การจราจรเข้า – ออก กรุงเทพฯ บนทางหลวงสายหลัก 10 เส้นทาง มีปริมาณ 3,983,236 คัน เพิ่มขึ้น 1.72% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านการเดินทางภายในกรุงเทพฯ บนทางด่วนมีปริมาณ 5,680,678 คัน ลดลง 2.70%


นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการเกิดอุบัติเหตุ ประจำวันที่ 14 เมษายน 2567 พบว่า เกิดอุบัติเหตุ จำนวนรวม 181 ครั้ง ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 36.11% และลดลง 21.64% จากเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2567 โดยมีจำนวนผู้บาดเจ็บรวม 208 ราย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.17% และลดลง 21.80% จากเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2567 ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตรวม 208 ราย ลดลง 36.11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 32.35% จากวันที่ 13 เมษายน 2567 ซึ่งโดยภาพรวมนั้นการสูญเสียยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง จากที่ทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อต้องการอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยของประชาชนถึงที่สุด รวมถึงมุ่งหวังให้การเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ และการเสียชีวิตลดลง โดยสาเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มาจากบนถนน ประเภทรถจักรยานยนต์ ถัดมาเป็นรถปิคอัพบรรทุก 4 ล้อ เนื่องด้วยขับขี่ยานพาหนะโดยไม่เคารพกฎหมายจราจรและขับขี่เร็วเกินกฎหมายกำหนด จึงก่อให้เกิดอุบัติเหตุและความสูญเสีย ดังนั้น หน่วยงานภาครัฐ วอนข้อความร่วมมือกับประชาชนทุกภาคส่วน ให้ขับขี่ยานพาหนะอย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ และเคารถกฎหมายจราจรเป็นที่ตั้ง หากพบผู้กระทำผิด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินผู้กระทำผิดการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด

ขณะที่ภาพรวมสะสม 4 วัน (11 – 14 เมษายน 2567) พบว่า มีอุบัติเหตุบนโครงข่ายถนนของกระทรวงคมนาคม รวม 917 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 119 คน ผู้บาดเจ็บ 996 คน มูลเหตุสันนิษฐานสูงสุด คือ ขับรถเร็วเกินอัตรากำหนด 552 ครั้ง คิดเป็น 60% ยานพาหนะที่เกิดเหตุสูงสุด คือ รถจักรยานยนต์ 497 ครั้ง บริเวณที่เกิดเหตุสูงสุด คือ ทางตรง 657 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 72% จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ นครราชสีมา 8 คน จังหวัดที่เกิดเหตุสูงสุด คือ กรุงเทพฯ 45 ครั้ง โดยสรุปเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนจำนวนอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น 4% จำนวนผู้เสียชีวิต ลดลง 4% และจำนวนผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้น 4% ส่วนโครงข่ายทางรางเกิดอุบัติเหตุ 1 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต โครงข่ายทางน้ำ และทางอากาศไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุ

ในส่วนการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะ ณ จุดตรวจ จุดพักรถ และจุดจอด 221 แห่ง มีการตรวจรถ 56,136 คัน พบบกพร่อง 8 คัน และสั่งเปลี่ยนรถ 8 คัน ตรวจผู้ปฏิบัติงาน จำนวน 56,136 คน ไม่พบแอลกอฮอล์ หรือสิ่งเสพติด สำหรับรถไฟ มีการตรวจความพร้อมผู้ปฏิบัติงาน จำนวน 295 คน ไม่พบแอลกอฮอล์ หรือสิ่งเสพติด และการตรวจความพร้อมท่าเรือ/แพ จำนวน 168 แห่ง ตรวจเรือ จำนวน 3,583 ลำ พบข้อบกพร่อง 8 ลำ และได้สั่งห้ามพร้อมทั้งเปรียบเทียบปรับทั้ง 8 ลำ และตรวจผู้ปฏิบัติงาน 5,161 คน ไม่พบแอลกอฮอล์ หรือสิ่งเสพติด


นายสุริยะ กล่าวอีกว่า คาดการณ์ว่าประชาชนจะทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่วันนี้ (15 เมษายน 2567) ตนได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ยังคงคุมเข้มมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทาง และเตรียมพร้อมระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งรถโดยสาร รถไฟ เรือ และเครื่องบิน ต้องมีเพียงพอกับปริมาณผู้โดยสาร และมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ สามารถเข้าถึงง่าย สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ไม่ล่าช้า ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง ไม่โก่งราคา และไม่ทิ้งผู้โดยสาร นอกจากนี้ ได้กำชับให้กรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) สำรวจไฟฟ้าแสงสว่าง และไฟสัญญาณจราจรให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดให้บริการประชาชนตลอดเส้นทาง เพื่อพร้อมอำนวยความสะดวกการเดินทางในช่วงขากลับให้เกิดความคล่องตัว ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินทาง และช่องทางบริการให้ข้อมูลข่าวสารและรับเรื่องร้องเรียน และจุดบริการประชาชนผ่านศูนย์ปลอดภัยคมนาคม สายด่วน 1356 ตลอด 24 ชั่วโมง

นายสุริยะ กล่าวต่ออีกว่า ได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) คงมาตรการคุมเข้มตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร และจุดจอด จุดตรวจ Checking Point และ Rest Area รวม 221 จุด ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567 เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งพนักงานขับรถทุกคนต้องมีระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจเป็นศูนย์มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์และชั่วโมงการขับรถต้องไม่เกินที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งรถโดยสารสาธารณะทุกคันต้องมีสภาพมั่นคงแข็งแรงทั้งสภาพตัวรถภายนอกและภายใน อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยต่าง ๆ ต้องพร้อมใช้งานอยู่เสมอ

ในส่วนของกรมการขนส่งทางราง (ขร.) รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2567 มีประชาชนใช้บริการระบบรางรวม 1,092,918 คน-เที่ยว สูงกว่าวันเดียวกันของปีผ่านมาจำนวน 307,847 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 39.21% (วันที่ 13 เมษายน 2566 จำนวน 785,071 คน-เที่ยว) และสูงกว่าประมาณการ 116,703 คน-เที่ยว หรือสูงกว่าประมาณการ 11.95% (ประมาณการ 976,215 คน-เที่ยว)

สำหรับการเดินทางทางอากาศ มีการบริหารจัดการเที่ยวบินและกระบวนการผู้โดยสารขาเข้าและขาออกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้เกิดความแออัด ตลอดจนดูแลด้านสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานและมีเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการเต็มขีดความสามารถ รวมถึงดูแลความปลอดภัยภายในท่าอากาศยาน รองรับการเดินทางของผู้โดยสารในช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้ได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่งท่าอากาศยาน มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเวรตรวจติดตามผ่านกล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านกรมเจ้าท่า (จท.) โดยศูนย์ปลอดภัยทางน้ำ ได้รายงานสถานการณ์ทางน้ำ เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2567 ได้แก่ บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาสามารถระบายผู้โดยสารได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง พร้อมกันนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่ประจำท่าเรือ เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยว .-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]