“สุริยะ” ระบุประชาชนใช้ขนส่งสาธารณะ 2 วัน 5.6 ล้านคน

กรุงเทพ 13 เม.ย.-“สุริยะ” เผยภาพรวมคมนาคมช่วงสงกรานต์ 2567 พบสะสม 2 วัน ประชาชนใช้ขนส่งสาธารณะรวม 5.6 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 0.99% จากปีที่แล้ว ชี้ระบบรางยังมีผู้โดยสารสูงสุดกว่า 45% ปลื้มบุคลากรทุกหน่วยงานปฏิบัติภารกิจเต็มที่ตลอด 24 ชม.

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สำหรับเทศกาลสงกรานต์ 2567 ประจำวันที่ 12 เมษายน 2567 (สะสม 2 วัน) พบว่า จากการปฏิบัติหน้าที่อย่างทุ่มเทของบุคลากรหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมนั้น ส่งผลให้ภาพรวมการคมนาคมดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เช่นเดียวกับระบบการขนส่งสาธารณะที่สามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอในทุกโหมดการเดินทาง ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง และรับ-ส่งพี่น้องประชาชนทุกคนให้ถึงที่หมายด้วยความสะดวก ปลอดภัย ในส่วนของถนนสายหลักมุ่งสู่ภูมิภาคต่าง ๆ แม้ว่ามีปริมาณรถหนาแน่น แต่จากการบริหารจัดการของกรมทางหลวง (ทล.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้สภาพการจราจรยังเคลื่อนตัวได้ดี
ทั้งนี้ จากข้อมูลระบบการเดินทางและระบบ TRAMS ในส่วนของการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศ สะสม 2 วัน สรุปข้อมูล ณ วันที่ 13 เมษายน 2567 เวลา 08.00 น. พบว่า มีจำนวนรวม 5,633,744 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 0.99% เมื่อเปรียบเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ระบบการขนส่งทางรางมีการใช้บริการสูงสุด คิดเป็นสัดส่วน 45.42% ของการเดินทางทั้งหมด ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ ด้านถนน ราง น้ำ และอากาศ มีจำนวนรวม 457,012 คน-เที่ยว ระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศที่มีผู้ใช้สูงสุดในแต่ละภูมิภาค ได้แก่ 1.ภาคกลาง : ทางอากาศ (ขาออก) 91,442 คน-เที่ยว 2.ภาคใต้ : ทางถนน 69,534 คน-เที่ยว 3.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ทางถนน 80,679 คน-เที่ยว 4.ภาคเหนือ : ทางถนน 49,728 คน-เที่ยว และ 5.ภาคตะวันออก : ทางถนน 40,671 คน-เที่ยว


ส่วนการจราจรเข้า-ออก กรุงเทพฯ บนทางหลวงสายหลัก 10 เส้นทาง มีปริมาณ 2,215,127 คัน เพิ่มขึ้น 4.71% เมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 11-12 เมษายน 2566 ของปีก่อน การเดินทางภายในกรุงเทพฯ บนทางด่วนมีปริมาณ 2,984,690 คัน ลดลง 4.62% ส่วนการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะ ณ จุดตรวจ จุดพักรถ และจุดจอด 221 แห่ง มีการตรวจรถ 28,761 คัน พบบกพร่อง 7 คัน และสั่งเปลี่ยนรถ 7 คัน ตรวจผู้ปฏิบัติงาน จำนวน 28,761 คน ไม่พบแอลกอฮอล์ หรือสิ่งเสพติด สำหรับรถไฟ มีการตรวจความพร้อมผู้ปฏิบัติงาน 86 คน ไม่พบแอลกอฮอล์ หรือสิ่งเสพติด และการตรวจความพร้อมท่าเรือ/แพ 161 แห่ง ตรวจเรือ 1,660 ลำ พบข้อบกพร่อง 1 ลำ และได้สั่งห้ามเดินเรือพร้อมทั้งเปรียบเทียบปรับ และตรวจผู้ปฏิบัติงาน 2,325 คน ไม่พบแอลกอฮอล์ หรือสิ่งเสพติด

ด้านอุบัติเหตุบนโครงข่ายถนนของกระทรวงคมนาคม รวม 467 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 53 คน บาดเจ็บ 478 คน มูลเหตุสันนิษฐานสูงสุด คือ ขับรถเร็วเกินอัตรากำหนด 271 ครั้ง คิดเป็น 58% ยานพาหนะที่เกิดเหตุสูงสุด คือ รถกระบะบรรทุก 4 ล้อ 250 ครั้ง บริเวณที่เกิดเหตุสูงสุด คือ ทางตรง 329 ครั้ง คิดเป็น 71% จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ นครราชสีมา 4 คน จังหวัดที่เกิดเหตุสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 22 ครั้ง โดยสรุปเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (วันที่ 11-12 เมษายน 2566) อุบัติเหตุเพิ่มขึ้น 11% จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 8% และจำนวนผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้น 8% ส่วนโครงข่ายทางรางเกิดอุบัติเหตุ 1 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต และโครงข่ายทางน้ำ และทางอากาศไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุ


นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กำชับสำนักงานขนส่งจังหวัด ดำเนินการจัดหารถโดยสารประจำทางและรถโดยสารไม่ประจำทางให้เพียงพอกับความต้องการเดินทางของประชาชน ทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะชั่วคราว ตลอด 24 ชั่วโมง รับเรื่องร้องเรียนและป้องกันมิให้ผู้โดยสารถูกเอาเปรียบจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร จุดจอด จุดตรวจ Checking Point และ Rest Area รวม 221 จุดทั่วประเทศ
ขณะเดียวกัน เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ให้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสาร และจุดจอดทุกแห่ง ต้องตรวจความพร้อมของรถและความพร้อมของผู้ขับรถก่อนออกเดินทางตามแบบ Checklist เช่น มีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้องตามประเภทใบอนุญาตขับรถและไม่หมดอายุ มีความพร้อมด้านร่างกาย และระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ชั่วโมงการขับรถไม่เกินกฎหมายกำหนด รถโดยสารสาธารณะทุกคันต้องมีสภาพมั่นคงแข็งแรงทั้งภายนอกและภายใน รวมทั้งอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยต่าง ๆ ต้องพร้อมใช้งานอยู่เสมอ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ ให้ความรู้แก่ผู้โดยสารกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และขอให้ผู้โดยสารทุกที่นั่งคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดการเดินทางเพื่อป้องกันการบาดเจ็บและเสียชีวิตเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ สำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยรถไฟที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์บรรยากาศเป็นไปอย่างอย่างคึกคัก โดยในช่วงเช้าของวันที่ 12 เมษายน 2567 ผู้โดยสารที่สำรองตั๋วไว้แล้วได้ทยอยเดินทางอย่างต่อเนื่อง และเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นในช่วงบ่าย ส่วนที่สถานีกรุงเทพผู้โดยสารไม่หนาแน่นมาก การเดินทางส่วนใหญ่เป็นขบวนรถระยะใกล้ เช่น ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี บ้านภาชี ตะพานหิน สุพรรณบุรี หัวหิน เป็นต้น ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ให้บริการได้อย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง และช่วงเย็น-ช่วงค่ำ ได้เพิ่มขบวนรถเสริมพิเศษอีก 4 ขบวน ในเส้นทางสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมทั้งได้พ่วงตู้โดยสารในทุกเส้นทางจนเต็มหน่วยลากจูงเพื่อรองรับผู้โดยสารที่คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการตลอดทั้งวันมากกว่า 100,000 คน
ในขณะที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือ หมอชิต 2 การเดินทางเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จัดรถโดยสารเตรียมการรองรับการเดินทางกว่า 4,000 เที่ยว และประสานผู้ประกอบการนำรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถ 30) วิ่งเสริมทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ เข้มงวดการตรวจเช็คสภาพความพร้อมของพนักงานขับรถและรถโดยสารก่อนออกเดินทาง ทุกสถานีขนส่งฯ จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือประชาชน เช่น แนะนำจุดขึ้นรถ บอกทาง ประจำตามจุดต่าง ๆ และให้ข้อมูลประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการเดินทาง ให้ไปขึ้นรถก่อนเวลารถออก 10 นาที เพื่อลดความหนาแน่นบริเวณชานชาลา โดยจัดที่พักคอยและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้รองรับผู้ใช้

ในส่วนของการเตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล ส่งผลให้มีผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวมีความต้องการเดินทาง ด้วยสายการบินเป็นจำนวนมาก จึงนำนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการจัดการท่าอากาศยานและการให้บริการด้วยความสะดวก รวดเร็ว บรรเทาความหนาแน่นของผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วน รวมถึงช่วยลดระยะเวลารอคอย ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิว สำหรับการเดินทางเข้า-ออก ทดม. ผู้โดยสารสามารถเลือกใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมต่อกับท่าอากาศยานได้หลายรูปแบบ เช่น รถไฟฟ้าสายสีแดง (RED Line SRTET) รถโดยสาร ขสมก. สาย A1, A2, A3 และ A4 รถรับจ้างสาธารณะ Grab Car และรถแท็กซี่สาธารณะเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางมาใช้บริการ
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า สถานการณ์การเดินทางทางน้ำในส่วนกลาง หรือ กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยกรมเจ้าท่า (จท.) ดำเนินการตรวจสอบและเฝ้าระวังความปลอดภัยผ่านระบบกล้อง CCTV ตามท่าเรือต่างๆ ในแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองแสนแสบ จัดเจ้าหน้าที่ประจำท่าเรืออำนวยความสะดวก ประชาสัมพันธ์ข้อมูลและเส้นทางการเดินเรือให้กับประชาชน ในขณะที่กรมการขนส่งทางราง (ขร.) บูรณาการร่วมกับผู้ให้บริการระบบราง ดำเนินการเพิ่มจำนวนเที่ยวรถขนส่งทางรางและขยายตารางเวลาเดินรถไฟฟ้า ให้สอดรับกับปริมาณความต้องการใช้บริการของประชาชน อีกทั้งได้พิจารณาจัดรถไฟฟ้าเสริมในช่วงเวลาที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น และเพิ่มตู้รถไฟไปกับขบวนรถปกติ พร้อมทั้งจัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารในวันที่ 12 เมษายน 2567 จำนวน 4 ขบวน ในเส้นทางสายเหนือ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ได้แก่ กรุงเทพอภิวัฒน์-เชียงใหม่ กรุงเทพอภิวัฒน์-ศิลาอาสน์ กรุงเทพอภิวัฒน์-อุดรธานี และกรุงเทพอภิวัฒน์-อุบลราชธานี

สำหรับเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ รัฐบาล ภาคเอกชน และประชาชน ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมภายใน กทม. เพื่อให้เทศกาลสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ไทยเป็นเทศกาลระดับโลกและเพื่อให้สอดคล้องตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กระทรวงคมนาคม จึงเข้มงวดการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการในระบบขนส่งสาธารณะมากยิ่งขึ้นเพื่อสนับสนุนให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาเฉลิมฉลองเสงกรานต์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีความสะดวกและปลอดภัยปลอดภัย.-513.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]