ร้องอธิบดี DSI เอาผิดกองทุนถึงคุกแบบวนรัชต์ ฐานผลาญเงินมนุษย์เงินเดือน LTF ไปกับหุ้น STARK

กรุงเทพฯ 13 ก.พ. – มนุษย์เงินเดือนลงทุนผ่าน LTF ไม่ทน ยื่นหนังสือ DSI ให้รับคดีกองทุนผลาญเงินไปกับหุ้น STARK เป็นคดีพิเศษ หลังจากร้องทุกข์กลต.ผ่านไปครึ่งปีเรื่องเงียบ โอดกองทุนซื้อหุ้นเจ้าปัญหายอดดอย แต่มาขายยอดหญ้าขาดทุนยับนับ 3,500 ล้านบาท ราคากองทุนติดลบหนักที่สุดกว่ารายอื่น ส่งผลขาดความเชื่อมั่น ประชาชนหวั่นผวาไม่กล้าซื้อหน่วยลงทุนประหยัดภาษี ตลอดจนขอให้กลต. ร่วมมือด้วย


เมื่อเวลา09.30 น.วันนี้(13กุมภาพันธ์)ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) กลุ่มผู้ถือหน่วยลงทุนที่เสียหายจากการลงทุนในกองทุนแห่งหนึ่งที่ได้ลงทุนในหุ้นSTARK ได้เข้าพบร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดีกรมDSI ให้รับกรณีนี้เป็นคดีพิเศษ และให้ดำเนินคดีต่อกองทุน ผู้บริหาร ผู้จัดการกองทุนฐานกระทำผิดต่อ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ มาตรา 124/1 และกฎหมายอาญามาตรา343 ฐานฉ้อโกง และมาตรา 353 ฐานยักยอกทรัพย์ มีโทษทั้งจำทั้งปรับ

ทางด้านพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรม DSI กล่าวหลังจากรับหนังสือร้องเรียนจากตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายว่า DSI ไม่ได้นิ่งนอนใจในกรณี STARK ได้รับเรื่องไว้เป็นคดีพิเศษ ดำเนินคดีอย่างจริงจังต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวานนี้เพิ่งแจ้งความดำเนินคดีและควบคุมตัวนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ เจ้าของและผู้ถือหุ้นใหญ่ควบคุมตัวไว้ในเรือนจำระหว่างการพิจารณา ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้เสียหายจากกองทุนมาร้องทุกข์ให้เป็นคดีพิเศษนั้น ในชั้นต้น DSI จะรับหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ และเริ่มตรวจสอบว่ากองทุนดังกล่าวมีพฤติการณ์ฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์ รับเงินทอน ซื้อขายหุ้นโดยทุจริตและทำให้ประชาชนผู้ถือหน่วยลงทุนเสียหาย เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ หากเข้าข่ายก็พร้อมรับเป็นคดีพิเศษต่อไป ส่วนการที่ผู้ถูกกล่าวหาถูกร้องเรียนว่ามีการกระทำผิดพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ด้วยนั้น และกลุ่มผู้เสียหายเคยไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับก.ล.ต.มาแล้วนั้น ทางDSIก็คงจะได้ประสานงานกับทางก.ล.ต.ต่อไป เนื่องจากเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่บังคับใช้กฎหมายโดยตรง แต่ DSI ก็พร้อมอำนวยความยุติธรรมในกรณีที่ก.ล.ต.จะประสานงานมาในความผิดเกี่ยวข้องกับพ.ร.บ.หลักทรัพย์


นายสิทธา (ขอสงวนนามสกุล) 1 ในตัวแทนผู้เสียหายยื่นหนังสือร้องทุกข์ ต่อกับอธิบดี DSI ระบุรายละเอียดในหนังสือว่า กลุ่มผู้เสียหายหลายหมื่นคนที่ลงทุนผ่านกองทุนประหยัดภาษี(LTF) ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมแห่งหนึ่ง เพราะเชื่อมั่นว่า มีสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของประเทศเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อหวังจะนำไปใช้ประโยชน์ในการหักลดหย่อนภาษี และออมลงทุนไว้เป็นเงินใช้จ่ายยามเกษียณต้องมาเสียหายอย่างหนักจากการกระทำผิดกฎหมายของผู้ถูกกล่าวหา โดยได้เคยรวมตัวกันไปยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 บัดนี้เวลาผ่านมาครึ่งปี เรื่องเงียบหาย แต่กลับมีเจ้าหน้าที่ของกองทุนคู่กรณีติดต่อเกลี้ยกล่อมมาทางโทรศัพท์แทน เมื่อหมดที่พึ่งจึงมาร้องทุกข์ต่ออธิบดีDSI เพราะเห็นว่ามีผลงานดำเนินคดีกรณี STARK ไม่ไว้หน้าใคร ล่าสุดออกหมายจับดำเนินคดีนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ เจ้าของผู้ถือหุ้นใหญ่STARKส่งตัวไปเรือนจำ ทำให้เกิดความหวังว่าจะได้รับความยุติธรรมบ้าง จึงมาร้องทุกข์ต่ออธิบดีDSI

ตัวแทนผู้เสียหายบรรยายในหนังสือร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีว่า ข้าพเจ้าและคณะ รวมทั้งประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อ ขอให้DSIรับเรื่องเป็นคดีพิเศษ เพราะมีความเสียหายวงกว้างต่อประชาชนนับหมื่น ความเสียหายนับหมื่นล้านบาท และกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างรุนแรง และขอให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อผู้จัดการกองทุน คณะผู้บริหาร และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมดังกล่าว(ขอสงวนชื่อในเอกสารแถลงข่าว) ในฐานความผิดต่อ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ มาตรา 124/1 เนื่องจากผู้กระทำความผิด ไม่ได้จัดการกองทุนรวมด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและระมัดระวังรักษาประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุน โดยใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ต่อผู้ถือหน่วยลงทุน และกระทำการโดยทุจริต ทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนเสียผลประโยชน์อันพึงได้รับ  ซึ่งมีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และโทษปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนั้นเป็นการกระทำผิดฐานฉ้อโกงตามกฎหมายอาญามาตรา 341 ผู้โดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปี ปรับไม่เกิน6หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา343 กระทำผิดด้วยการแสดงข้อความอั้นเป็นเท็จต่อประชาชน ระวางโทษจำคุกไม่เกิน5ปี ปรับไม่เกิน1แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


และกระทำผิดฐานยักยอกทรัพย์ตามมาตรา 353 ผู้ใดได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย กระทำผิดหน้าที่ของตนด้วยประการใดๆโดยทุจริต จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของผู้นั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปี หรือปรับไม่เกิน6หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

กับขอให้DSI เป็นตัวแทนข้าพเจ้าและประชาชนผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อในกรณีเดียวกัน หรือทำนองเดียวกันดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดให้เยียวยาชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นในทางแพ่งอีกด้วย

ทั้งนี้ข้าพเจ้า และประชาชนผู้ตกเป็นเหยื่อ ประสบผลขาดทุนในการลงทุนเฉพาะปี2566ที่เกิดเหตุลบ 21.93% ซึ่งข้าพเจ้า และประชาชน ต่างเข้าใจข้อจำกัดความเสี่ยงในการลงทุนผ่านกองทุนรวมดีว่า การลงทุนย่อมมีทั้งผลตอบแทนและความเสี่ยง แต่อย่างไรก็ตามความเสียหายดังกล่าวในกรณีนี้ ไม่ได้เป็นไปตามสภาพการลงทุนตามปกติวิสัย แต่มาจากการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว ดังต่อไปนี้

1.ข้าพเจ้าได้ตัดสินใจลงทุนหน่วยลงทุนLTFผ่านกองทุนดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ในการประหยัดภาษี และเก็บออมสำหรับวัยเกษียณอายุ เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าบลจ.นี้มีสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของประเทศ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ มีฐานะมั่นคงแข็งแกร่ง แต่การณ์กลับปรากฎว่าผลงานการลงทุนต่ำกว่ากองทุนประเภทเดียวกันอย่างชัดเจน กองทุนนี้มีผลดำเนินงานงวดรอบ 1 ปีลบ 21.93% (ค่าเฉลี่ยของกลุ่มกองทุนประเภทเดียวกัน ลบเพียง 0.49 เนื่องจากกองทุนนี้ไปลงทุนในหุ้นของบมจ.สตาร์คคอร์ปอเรชั่น- STARKไว้มาก และกระทำผิดกฎหมาย มีพฤติการณ์ส่อไปในทางไม่ได้จัดการกองทุนรวมด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและระมัดระวังรักษาประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุน โดยใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ มีการกระทำผิดในด้านความขัดแย้งทางผลประโยชน์ต่อผู้ถือหน่วยลงทุน และผิดกฎหมายอาญาฐานฉ้อโกงและยักยิกทรัพย์

2. ผู้กระทำความผิดยังบังอาจกระทำผิดกฎหมายอาญา โดยได้มีพฤติการณ์ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อข้าพเจ้า และผู้ถือหน่วยลงทุนด้วย โดยจะเห็นได้จากกองทุนนี้ได้เข้าไปลงทุนหุ้นของบมจ.STARK เอาไว้มากถึง 916 ล้านหุ้น ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2565 โดยมีราคาต้นทุนตั้งแต่3.72บาท ไปถึง5 บาท ต่อมาเมื่อเกิดปัญหา STARK ยกเลิกดีลการซื้อกิจการบริษัท LEONI ประเทศเยอรมนีในเดือนธันวาคม 2565 แล้ว กองทุนอื่นๆ ต่างพากันเทขายหุ้น STARK ออกเพราะเห็นว่าไม่เป็นไปตามแผนงาน และอาจกระทบต่อผลดำเนินงานได้ แต่กองทุนนี้กลับถือครองหุ้นเอาไว้จำนวนมาก กระทั่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้พักการซื้อขาย 4 เดือน มาเปิดให้ซื้อขาย1เดือนสุดท้าย ระหว่างวันที่ 1 ถึง 30มิถุนายน 2566 ทางผู้กระทำผิดก็ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อผู้ถือหน่วยลงทุนว่า เหลือหุ้นในมือเพียงเล็กน้อย

แต่ต่อมาผู้กระทำผิดได้แจ้งต่อสำนักงานก.ล.ต.ในวันที่ 23 และ 27 มิถุนายน 2566 ว่า ยังคงถือครองหุ้นไว้มากถึง 670 ล้านหุ้น และได้ขายออกไปหมด ก่อนจะถึงวันสุดท้ายที่ตลาดฯให้ซื้อขายได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 ซึ่งช่วงดังกล่าวราคาหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับราคา 1 ถึง 4 สตางค์ ก็จึงน่าจะเหลือมูลค่าที่ขายได้ไม่เกิน 20 ล้านบาท จากต้นทุนที่มีอยู่ราว 3,850 ล้านบาท ประมาณการณ์ว่าคงจะขาดทุนสุทธิมากกว่า 3,500ล้าน

3.ผู้กระทำผิด ไม่ได้จัดการกองทุนรวมด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและระมัดระวังรักษาประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุน โดยใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ เห็นได้จากแถลงการณ์ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2566 ว่า”..บริษัทได้ส่งทีมนักวิเคราะห์เข้าชมโรงงาน  Phelps Dodge ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ STARK เพื่อประเมินความสามารถในการดําเนินกิจการ โดยประเมินเบื้องต้นว่าบริษัทยังคงสามารถดําเนินกิจการได้ จึงไม่ได้ขายหุ้นออกไปทั้งหมด และ รอการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่ผ่านการรับรองโดยผู้สอบบัญชีในวันที่ 16 มิถุนายน 2566  เพื่อใช้ประเมินการลงทุนในหุ้น STARK ต่อไป”

ซึ่งในความเป็นจริงปรากฏว่าผู้กระทำผิด ขาดความระมัดระวังในการรักษาประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุน โดยใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ เพราะขณะที่บลจ.อื่นๆแจ้งว่าได้ขายหุ้นSTARKออกไปหมดแล้ว แต่ผู้กระทำผิดยังคงถือครองหุ้นไว้จำนวนมากถึง670ล้านหุ้น และได้ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จตามข้อ2 และยังขาดความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ เพราะยังเห็นว่ากิจการSTARKยังจะสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ จึงไม่ได้ขายหุ้นออกไปทั้งหมด และยังถือครองหุ้นไว้จำนวนมาก จนท้ายที่สุดต้องขายออกไปในราคาที่แทบจะสิ้นมูลค่าแล้ว อันเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายทุจริต ทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนเสียผลประโยชน์อันพึงได้รับ

4.ผู้กระทำผิดยังมีพฤติการณ์ที่ส่อให้เห็นว่าอาจจะมีการทุจริต โดยทำการซื้อขายหุ้นที่ไม่โปร่งใส ผิดจากวิสัยของการบริหารกองทุนโดยทั่วไป โดยทำการไล่ซื้อราคา STARK ในราคาสูง ปริมาณมาก กระจุกตัว และยังซื้อกระจุกตัวในหุ้นเครือSTARKอีกหลายตัว ที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่ในเครือเดียวกับSTARK เช่น บมจ.TOA และDPAINT เป็นต้น ซึ่งผิดจากปกติวิสัยของการลงทุน

5.นอกจากนั้นยังพบด้วยว่าผู้กระทำผิดได้มีพฤติการณ์ที่ส่อไปในทางไม่สุจริตและมีความขัดแย้งทางผลประโยนชน์ต่อผู้ถือหน่วยลงทุนหลายกรณี เช่น การเข้าไปลงทุนหุ้น SKY แบบซื้อบิ๊กล็อตราคา 30.25 บาท ตอนที่มีการไล่ราคาหุ้นขึ้นไปเพียงแค่2เดือน ทั้งที่ราคาทรงๆ ตัวอยู่เขต 10 บาทนานเป็นปี แต่ไม่ยอมลงทุนซื้อตอนราคาหุ้นถูกๆ หรือซื้อบิ๊กล็อต หุ้น ADD ตอนมีการไล่ราคาขึ้นไป30บาท แล้วมาตัดขายขาดทุนที่ 10 บาท หรือพฤติกรรมไล่ราคาซื้อหุ้นSAMART SAMTEL ในราคา 30 ถึง 45 บาท เมื่อปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนแปลงไปทางลบอย่างมีนัยยะสำคัญ ก็ไม่ปรับพอร์ตใดๆ เพิ่งจะมาขายตัดขาดทุนแถวราคา3ถึง5บาทในต้นปีนี้ ทั้งที่กิจการกำลังฟื้นตัว

อันเป็นพฤติการณ์กระทำผิด กฎหมายพรบ.หลักทรัพย์ฯ มาตรา124/1 และกฎหมายอาญามาตรา 343 และมาตรา353 ไม่ได้จัดการกองทุนรวมด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและระมัดระวังรักษาประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุน โดยใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ต่อผู้ถือหน่วยลงทุน และกระทำการโดยทุจริต ทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนเสียผลประโยชน์อันพึงได้รับ  และอาจกระทำผิดต่อมาตราอื่นๆของพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ

ข้าพเจ้าและประชาชนผู้ตกเป็นเหยื่อ เคยเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 ได้โปรดอำนวยความยุติธรรมในฐานะเป็นเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ตามกฎหมายในการคุ้มครองผู้ลงทุน ผู้ถือหน่วยลงทุนให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย และกอบกู้ฟื้นฟูความเชื่อมั่นกลับมาสู่ตลาดทุนโดยไว ด้วยการดำเนินการสืบสวนสอบสวน และเป็นตัวแทนของข้าพเจ้าและประชาชนผู้ถือหน่วยลงทุนท่านอื่นๆ ที่เป็นเหยื่อประสบความเสียหายในกรณีทำนองเดียวกัน แต่เวลาผ่านมากว่าครึ่งปีแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด สำนักงานก.ล.ต.ไม่เคยสอบถามข้อมูลใดๆจากข้าพเจ้าและผู้สียหายเพิ่มเติม ข้าพเจ้าและประชาชนผู้เสียหายจึงเกรงว่า จะไม่ได้รับความยุติธรรม จึงหวังให้ DSI รับเป็นคดีพิเศษ.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]