1 เดือน สงครามอิสราเอล-ฮามาสกระทบเศรษฐกิจโลกและไทยยังไม่มาก

นนทบุรี 7 พ.ย.-สนค.ประเมิน 1 เดือน สงครามอิสราเอล-ฮามาสกระทบเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยยังไม่มาก แต่สถานการณ์ยังคงมีความไม่แน่นอน นับเป็นความเสี่ยงใหม่ของเศรษฐกิจโลกในระยะข้างหน้าที่ต้องจับตาและประเมินผลกระทบในระยะยาว ขณะเดียวกันก็เป็นทั้งประเด็นท้าทายและอกาสของไทยด้วย


นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสชาวปาเลสไตน์ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 7 ต.ค. 66 ถือเป็นสงครามครั้งใหญ่ที่สุดของทั้ง 2 ฝ่ายในรอบ 50 ปี โดยเริ่มจากปฏิบัติการทางทหารของกลุ่มฮามาสในชื่อ Al Aqsa Flood ทำการยิงขีปนาวุธโจมตีเป้าหมายทางทหารของอิสราเอล และส่งกองกำลังติดอาวุธเข้าไปโจมตีหลายเมืองทางตอนใต้ของอิสราเอล จนทำให้อิสราเอลประกาศเข้าสู่ภาวะสงครามและเริ่มปฏิบัติการโจมตีตอบโต้อย่างรุนแรงในพื้นที่ฉนวนกาซา

สงครามดังกล่าวดำเนินมาเป็นระยะเวลากว่า 1 เดือนแล้ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลง แต่ปฏิบัติการของอิสราเอลกลับยกระดับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยขณะนี้อยู่ในขั้นที่ 2 ซึ่งเน้นปฏิบัติการภาคพื้นดิน เพื่อกวาดล้างฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสสร้างความสูญเสียด้านมนุษยธรรมไปแล้วมหาศาล จนนำไปสู่การแสดงท่าทีต่อต้านของนานาชาติ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาหรับที่สะท้อนความเปราะบางของความสัมพันธ์ของประเทศต่าง ๆ ในตะวันออกกลาง จนทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าสงครามครั้งนี้อาจลุกลามบานปลายไปเป็นความขัดแย้งในระดับภูมิภาค เพราะในเวลาเดียวกันนี้ ก็ปะทะกันบริเวณพรมแดนอิสราเอลที่ติดกับซีเรียและเลบานอนจากลุ่มติดอาวุธที่สนับสนุนโดยอิหร่านด้วย ซึ่งหากสงครามลุกลามบานปลายจริงก็ย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก รวมทั้งเศรษฐกิจไทยอย่างแน่นอน เพราะบริเวณพื้นที่ความขัดแย้งนี้ใกล้กับแหล่งพลังงาน ทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งเส้นทางการขนส่งที่สำคัญของโลกสงครามอิสราเอล-ฮามาสไม่ได้ส่งผลกระทบรวดเร็วและรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลกเหมือนกับสงครามรัสเซียยูเครนที่เกิดขึ้นเมื่อปีก่อน เป็นเพราะอิสราเอลและปาเลสไตน์ไม่ได้มีบทบาทต่อเศรษฐกิจโลกมากนัก โดยจนถึงขณะนี้ผลกระทบของความขัดแย้งต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกยังมีจำกัด ราคาน้ำมัน


โดยรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 6% ขณะที่ราคาสินค้าเกษตร โลหะส่วนใหญ่ และสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ แทบจะไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งจากการประเมินของธนาคารโลก  หากสถานการณ์ยังคงดำเนินต่อไปในลักษณะนี้ ราคาน้ำมันในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่ส่งสัญญาณยืดเยื้อทำให้หลายหน่วยงานด้านเศรษฐกิจต่างกังวลถึงกระทบในระยะต่อไป กรณีที่พันธมิตรของทั้งสองฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น 

ทั้งนี้ Bloomberg Economics  ประเมินฉากทัศน์ของสงครามในครั้งนี้ออกเป็น 3 กรณี ได้แก่ (1) สงครามจำกัดวง(Confine war) การสู้รบจำกัดอยู่ในอิสราเอลและปาเลสไตน์ ความกังวลต่อตลาดโลก อาจทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ประมาณ 3-4 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่ผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจโลกจะน้อยมาก (GDP โลกลดลงเพียง 0.1%) (2) สงครามตัวแทน (Proxy war) ความขัดแย้งลุกลามไปยังประเทศข้างเคียง คือซีเรียและเลบานอน ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนโดยอิหร่าน ทำให้ความขัดแย้งกลายเป็นสงครามตัวแทนระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มฮามาส ก่อให้เกิดความตึงเครียดทางการเมืองในหลายประเทศในภูมิภาค กรณีนี้อาจทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นประมาณ 10% หรือ 8 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล กระทบการเติบโตของเศรษฐกิจโลกให้เติบโตลดลง 0.3% และทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.2% และ (3) สงครามทางตรง (Direct war) สงครามโดยตรงระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน (ร่วมด้วยชาติอาหรับอื่น ๆ) อาจมีการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานน้ำมันในภูมิภาค การปิดช่องแคบฮอร์มุซของอิหร่าน ซึ่งเป็นช่องทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญ และอาจเกิดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ ที่สนับสนุนอิสราเอล กับจีนและรัสเซียที่พยายามสร้างความสัมพันธ์กับอิหร่าน ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่ 64 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือสูงถึงระดับ 150 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเติบโตลดลง 1% และอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น 1.2%

อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน มองว่าสงครามในครั้งนี้อาจยืดเยื้อ โดยน่าจะคาบเกี่ยวในกรณีสงครามจำกัดวงและกรณีสงครามตัวแทน แต่มีโอกาสน้อยที่จะยกระดับความรุนแรงไปจนถึงกรณีที่เกิดสงครามโดยตรงระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน เนื่องจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาแต่ละประเทศต่างก็อยู่ในภาวะอ่อนแอจากวิกฤตเศรษฐกิจต่าง ๆ ทำให้ไม่น่าจะต้องการเข้าสู่ภาวะสงคราม นอกจากนี้ ท่าทีของสหรัฐฯ และพันธมิตรในยุโรปที่แม้จะสนับสนุนอิสราเอลในการโจมตีฮามาสเพื่อป้องกันตัวเอง แต่ก็พยายามหารือผู้นำหลายชาติอาหรับที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางยุติความขัดแย้ง และให้ความสำคัญกับการคุ้มครองพลเรือนชาวปาเลสไตน์ขณะเดียวกันท่าทีของประเทศตะวันออกกลางในกลุ่มประเทศ OPEC ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันหลักของโลก ก็ไม่ได้มีแนวโน้มออกมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันไปยังประเทศที่สนับสนุนอิสราเอลเหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นในสงครามอาหรับ-อิสราเอล หรือสงครามยมคิปปูร์ในปี ค.ศ. 1973


สำหรับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยจากความขัดแย้งในครั้งนี้ต้องพิจารณาเป็นฉากทัศน์เช่นกัน ซึ่งกรณีที่สงครามไม่ขยายวงหรือไม่ยกระดับความรุนแรงจากระดับปัจจุบันมากนัก  ผลกระทบทางตรงต่อเศรษฐกิจไทยค่อนข้างจำกัด เนื่องจากการค้าระหว่างประเทศระหว่างไทยกับอิสราเอลและระหว่างไทยกับปาเลสไตน์ รวมกันอยู่ในระดับต่ำ เพียงประมาณ 0.2% ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศโดยรวมของไทย โดยขณะนี้ด้านการขนส่งสินค้าเข้า-ออกจากอิสราเอลก็ยังไม่กระทบมาก เนื่องจากท่าเรือส่วนใหญ่ของอิสราเอลยังเปิดดำเนินการตามปกติ เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวที่มีสัดส่วนเพียงประมาณ 1% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดรวมทั้งด้านการลงทุนก็ไม่มีการลงทุนโดยตรงจากทั้ง 2 ประเทศคู่ขัดแย้ง ขณะที่ผลกระทบทางอ้อมต่อการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อเงินเฟ้อ ณ ขณะนี้ ก็ยังไม่เห็นผลกระทบดังกล่าวชัดเจนเช่นกัน เพราะราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วงแรกของสงครามนั้น ก็ยังต่ำกว่าระดับสูงสุดในเดือน ก.ย. 66 

รวมทั้งค่าเงินบาทก็ผันผวนและอ่อนค่าลงในช่วงแรกตามการเพิ่มขึ้นของราคาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเงินดอลลาร์สหรัฐและทองคำ เนื่องจากปัจจัยด้านจิตวิทยาที่กังวลผลกระทบของสงครามเท่านั้น ดังนั้น จากการประเมินทิศทางสงครามและผลกระทบในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาจึงน่าจะเชื่อได้ว่า กรณีที่การสู้รบยังดำเนินต่อไปแบบจำกัดวงอยู่ในฉนวนกาซาและบริเวณพรมแดนอิสราเอลกับซีเรียและเลบานอนนั้น ก็ไม่น่าจะมีผลกระทบรุนแรงอย่างมีนัยสำคัญ หรือส่งผลกระทบสืบเนื่องจนสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจไทยโดยรวมมากนัก

อย่างไรก็ตาม ยังมีบางประเด็นที่ยังน่าเป็นห่วง คือ ประเด็นด้านแรงงาน เนื่องจากอิสราเอลเป็นประเทศที่มีแรงงานไทยไปทำงานมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 รองจากไต้หวัน โดยแรงงานจำนวนกว่า 26,000 คน  ที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลอาจได้รับผลกระทบจากสงครามและว่างงานลงอย่างฉับพลัน ซึ่งประเด็นนี้ภาครัฐอาจต้องมีมาตรการช่วยเหลือรองรับที่เหมาะสม นอกจากนี้ หากสงครามยกระดับรุนแรงในพื้นที่อิสราเอล หรือประเทศรอบ ๆ อิสราเอล จนทำให้ภาคการผลิต การขนส่งเกิดการหยุดชะงัก และนำไปสู่การชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ก็อาจทำให้การส่งออกสินค้าบางรายการที่มีอิสราเอลเป็นตลาดส่งออกสำคัญส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบอยู่บ้าง อาทิ เครื่องประดับ (เพชร) ไฟเบอร์บอร์ด ทูน่ากระป๋อง และรถยนต์รถยนต์นั่ง รวมทั้งสินค้านำเข้า อาทิ เพชร และปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ ที่ไทยนำเข้าจำนวนมากจากอิสราเอล 

ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงต้องเริ่มมองหาตลาดส่งออกหรือแหล่งนำเข้าอื่น ๆ ทดแทนให้มากขึ้น เพื่อเตรียมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น หากสงครามขยายวงไปสู่ระดับภูมิภาค ผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมน่าจะรุนแรงพอสมควร เพราะกลุ่มประเทศในตะวันออกกลางเป็นทั้งตลาดส่งออกที่มีศักยภาพ และเป็นแหล่งนำเข้าสินค้าที่สำคัญของไทยหลายรายการ ดังนั้นจึงต้องติดตามพัฒนาการของสงครามอย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้เตรียมมาตรการรองรับได้อย่างทันท่วงที

โดยสรุป ในระยะสั้นช่วง 1 เดือนหลังเกิดสงครามมานี้ เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยอาจยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่การประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนอาจต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าความขัดแย้งจะมีระยะเวลานานเพียงใด เหตุการณ์จะรุนแรงแค่ไหน จะขยายไปยังส่วนอื่น ๆ ของภูมิภาคหรือไม่ และถึงแม้ว่าสงครามจะไม่ได้ยกระดับขยายวงสู่ระดับภูมิภาค แต่สงครามที่ยืดเยื้อในพื้นที่ซึ่งมีภูมิหลังความขัดแย้งกันมายาวนาน อีกทั้งยังเป็นแหล่งพลังงานสำคัญของโลก จะยิ่งเป็นการสร้างความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์และการแบ่งขั้วเศรษฐกิจการค้าโลกให้ขยายวงกว้างขึ้น ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมภาวะเปราะบางและแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจการค้าโลกในระยะข้างหน้าด้วย

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาเมื่อเกิดความขัดแย้งของประเทศต่าง ๆ กลับเป็นโอกาสแสวงหาช่องทางการค้าและการลงทุนของไทย ในฐานะประเทศที่วางตัวเป็นกลางเหนือความขัดแย้ง เช่น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ไทยได้รับผลประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตจากสหรัฐฯ จากจีนมาไทย และยังมีโอกาสส่งออกสินค้าทดแทนเข้าไปในตลาดคู่ขัดแย้ง เช่นเดียวกับกรณีเกิดความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนที่สร้างความไม่ไม่มั่นคงทางด้านอาหารทั่วโลกก็ทำให้ไทยได้รับอานิสงส์จากความต้องการซื้อสินค้าเกษตรและอาหาร ดังนั้น เหตุความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในครั้งนี้ ที่แม้ไทยยังไม่ได้รับผลกระทบทางตรง แต่ภาพรวมของสงครามสงครามในภูมิภาคดังกล่าว ก็มีส่วนบั่นทอนความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนในภูมิภาคตะวันออกกลาง จึงถือเป็นโอกาสในการสร้างความร่วมมือทางการค้าและการลงุทน รวมทั้งผลักดันสินค้าไทย เช่น อาหารฮาลาล กับกลุ่มประเทศมุสลิมอื่น ๆ ทดแทนได้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]