ก.ล.ต.แนะลงทุนตราสารหนี้ ศึกษา-ประเมินความเสี่ยง

กรุงเทพฯ 4 ส.ค.– ก.ล.ต.แนะลงทุนตราสารหนี้ ศึกษา-ประเมินจัดและปรับพอร์ตลงทุนกระจายความเสี่ยง เผยภาพรวมตลาดตราสารหนี้เอกชนครึ่งแรกปี 66  มีมูลค่าคงค้าง 4.86 ล้านล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจาก สิ้นปี 65 ร้อยละ 6.6 ผิดนัดชำระหนี้ 3 ราย มูลค่าเงินต้น 12,278 ล้านบาท


         ฝ่ายตราสารหนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุว่า ภาพรวมตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 มีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าคงค้าง 4.86 ล้านล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2565 ร้อยละ 6.6 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือหรืออันดับเครดิตในระดับ A ขึ้นไป (คิดเป็นร้อยละ 84 ของมูลค่าคงค้างตราสารหนี้ภาคเอกชนทั้งหมด)

          ภาพรวมตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนครึ่งแรกของปี 2566 มีมูลค่าการระดมทุนทั้งตราสารหนี้ระยะสั้นและระยะยาวรวมทั้งสิ้น 1.14 ล้านล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่า 2.09 ล้านล้านบาท เนื่องจากผู้ออกตราสารหนี้ได้มีการทยอยออกและเสนอขายตราสารหนี้เพื่อจำกัดต้นทุนอัตราดอกเบี้ยในปีที่ผ่านมาแล้ว โดยส่วนใหญ่จะเป็นการออกตราสารหนี้ระยะยาวอายุเฉลี่ย 4.33 ปี ซึ่งระยะเวลาปรับลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 5.11 ปี          


          ผู้ออกตราสารหนี้รายใหญ่ยังกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ พลังงานและสาธารณูปโภค และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ชำระหนี้และใช้ในกิจการของบริษัท ทั้งนี้ สัดส่วนการเสนอขายกว่าร้อยละ 90 เป็นตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับลงทุน (investment grade) ในส่วนตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง (high-yield bond) ได้แก่ กลุ่ม non-investment grade และ unrated ส่วนใหญ่ผู้ออกตราสารหนี้จะจัดให้มีหลักประกันเพิ่มมากขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ลงทุน

          สำหรับตราสารระยะยาวของกลุ่ม investment grade และ high yield มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 3.46% เป็น 3.62% และจาก 6.25% เป็น 6.70% ตามลำดับ ตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น

          ตราสารหนี้ที่มีการเสนอขายส่วนใหญ่โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ A ขึ้นไป ยังสามารถเสนอขายได้ตามมูลค่าที่ตั้งไว้ จะมีเฉพาะบางบริษัทในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่เสนอขายได้ไม่ครบตามจำนวน เนื่องจากผู้ลงทุนมีความระมัดระวังการลงทุนมากขึ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ของบางบริษัท


          อย่างไรก็ดี ประเด็นดังกล่าวยังไม่ส่งผลกระทบต่อการออกตราสารหนี้ใหม่เพื่อทดแทนตราสารหนี้เดิมที่ครบกำหนด (rollover) เนื่องจากบริษัทส่วนใหญ่มีการตั้งเป้าหมายในการระดมทุนไว้มากกว่าจำนวนเงินที่ต้องใช้ rollover ในระดับหนึ่ง รวมถึงมีแผนสำรองในการออกหุ้นกู้รุ่นต่อไปเพิ่มเติมและใช้แหล่งเงินอื่น ๆ ได้แก่ เงินทุนหมุนเวียนของกิจการ และเงินกู้จากธนาคาร เป็นต้น

          ตราสารหนี้กลุ่ม high-yield bond ยังมีการขอขยายวันครบกำหนดอายุ โดยประมาณ 1 – 2 ปี ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ออกรายเดิมที่เคยขอขยายวันครบกำหนดอายุแล้ว และยังไม่สามารถออกตราสารหนี้ใหม่เพื่อทดแทนตราสารเดิมที่ครบกำหนดได้ และมักจะเป็นตราสารหนี้ที่ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ

          ข้อมูล ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2566 มีผู้ออกตราสารหนี้ที่ขอขยายอายุจำนวน 14 ราย (38 รุ่น) มูลค่าคงค้าง 13,395 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 0.28 ของทั้งระบบ) ซึ่งร้อยละ 63 อยู่ในกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ มูลค่าคงค้างการขยายอายุมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งอยู่ที่ 14,273 ล้านบาท เนื่องจากมีผู้ออกบางรายไถ่ถอนตราสารหนี้ที่เคยขอขยายอายุ

          ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 มีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ (downgrade) และแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนเล็กน้อย เกิดจากปัจจัยเสี่ยงเฉพาะของแต่ละบริษัท

          ตั้งแต่ต้นปี 2566 มีผู้ออกหุ้นกู้ที่มีการเสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบันหรือผู้ลงทุนรายใหญ่ที่มีการผิดนัดชำระหนี้จำนวน 3 ราย  มูลค่าเงินต้นที่ผิดนัดรวมทั้งสิ้น 12,278.29 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.25 ของตราสารหนี้ภาคเอกชนทั้งระบบ โดยทั้งหมดเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งการผิดนัดชำระหนี้ของทั้ง 3 รายดังกล่าวเป็นปัญหาเฉพาะบริษัท ยังไม่ส่งผลกระทบต่อภาวะตลาดตราสารหนี้โดยรวม

สำหรับข้อแนะนำเบื้องต้นในการลงทุนตราสารหนี้ภาคเอกชนมีดังนี้

          ลักษณะเด่นของตราสารหนี้ คือ ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอและได้รับดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากทั่วไป อย่างไรก็ดี ตราสารหนี้ที่มีอยู่ในตลาดเป็นจำนวนมาก แต่ละตัวมีลักษณะและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำซึ่งเหมาะกับผู้ลงทุนที่เน้นความมั่นคง ไปจนถึงความเสี่ยงสูงที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นซึ่งเหมาะกับนักลงทุนบางประเภทเท่านั้น ผู้ที่สนใจลงทุนจึงควรศึกษาและทำความเข้าใจในลักษณะของตราสารที่จะลงทุน รวมถึงพิจารณาความเสี่ยงที่เหมาะสมกับระดับที่ตนเองสามารถยอมรับได้ โดยมีหลักเบื้องต้นสำหรับผู้ลงทุนในการพิจารณาลงทุนตราสารหนี้ภาคเอกชน ดังนี้

          (1) ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลของตราสาร เช่น หนังสือชี้ชวน แบบสรุปข้อมูลสำคัญของตราสาร (factsheet) ข้อมูลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และงบการเงิน เพื่อให้ทราบว่าบริษัทผู้ออกเป็นใคร อยู่ในอุตสาหกรรมใด เสนอขายต่อนักลงทุนประเภทใด ตราสารหนี้มีลักษณะอย่างไร มีการค้ำประกันหรือไม่ มีลักษณะด้อยสิทธิหรือไม่ อายุและอัตราดอกเบี้ยเท่าใด เงินที่ระดมทุนได้จะนำไปใช้ทำอะไร อันดับความน่าเชื่อถือเป็นอย่างไร บริษัทมีฐานะมั่นคงพอที่จะมีเงินจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นคืนได้หรือไม่ เป็นต้น โดยสามารถศึกษาได้จากเว็บไซต์ ก.ล.ต. https://market.sec.or.th/public/idisc/th/Product/Filing หรือที่แอปพลิเคชัน “SEC Bond Check” https://www.sec.or.th/TH/Pages/Investors/SECBondCheck.aspx

          (2) ผู้ลงทุนต้องประเมินความสามารถในการรับความเสี่ยงของตนเองว่าเหมาะสมกับตราสารหนี้ที่ตนเองจะลงทุนหรือไม่ ซึ่งความเสี่ยงในการพิจารณาที่สำคัญ เช่น 

          – ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัท โดยตราสารหนี้ที่มีอันดับเครดิตตั้งแต่ระดับ BB+ ลงมา หรือไม่มีการจัดอันดับเครดิต มักจะมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้สูง จึงให้ผลตอบแทนสูงตามไปด้วยเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น และเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ในระดับสูง

          – ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องในการซื้อขายเปลี่ยนมือเพราะหุ้นกู้ในตลาดรองบางตัวอาจมีไม่มากหรือบางตัวแทบจะไม่มีสภาพคล่องเลยในตลาดรอง

          – ความเสี่ยงด้านราคา ในกรณีที่ต้องการขายหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดการไถ่ถอน อาจจะทำให้ไม่สามารถขายได้ในราคาที่ต้องการ

          (3) ผู้ลงทุนควรรู้ว่าตนเองเป็นผู้ลงทุนประเภทใด ระหว่างผู้ลงทุนรายย่อย ผู้ลงทุนรายใหญ่ ผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ หรือผู้ลงทุนสถาบัน เนื่องจากในบางครั้งการเสนอขายตราสารหนี้จะมีการจำกัดประเภทผู้ลงทุน โดยเฉพาะตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง มีความซับซ้อน ซึ่งตราสารดังกล่าวจะเหมาะกับนักลงทุนบางประเภทเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถศึกษานิยามผู้ลงทุนได้จากกฎเกณฑ์ของ ก.ล.ต. หรือขอให้ผู้ให้บริการขายตราสารหนี้ช่วยตรวจสอบคุณสมบัติตนเองได้

          (4) ผู้ลงทุนควรมีการกระจายการลงทุนที่เหมาะสม (portfolio diversification) เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน โดยไม่ควรลงทุนในสินทรัพย์และ/หรือหลักทรัพย์ประเภทเดียวกัน บริษัทเดียวกัน และบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ในลักษณะที่กระจุกตัวมากเกินไป เพราะหากเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเชิงลบต่อการลงทุน เช่น บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ผิดนัดชำระหนี้ จะส่งผลกระทบต่อเงินลงทุนทั้งหมดหรือเงินลงทุนส่วนใหญ่ของผู้ลงทุน ดังนั้น การกระจายการลงทุนจึงเป็นตัวช่วยในการบริหารจัดการความเสี่ยงของเงินลงทุน

          (5) สำหรับผู้ลงทุนมือใหม่และยังไม่มีความรู้ในด้านการลงทุนตราสารหนี้อาจเลือกลงทุนผ่านกองทุนรวมตราสารหนี้ ซึ่งผู้จัดการกองทุนจะทำหน้าที่ในการช่วยคัดเลือกตราสารที่จะลงทุนผ่านกระบวนการลงทุนต่าง ๆ และมีการกระจายการลงทุนในพอร์ตโฟลิโอ นอกจากนี้สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารที่มีความเสี่ยงสูงแต่ยังไม่มีความเชี่ยวชาญในการลงทุนตราสารหนี้โดยตรง ก็อาจพิจารณาลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอัตราผลตอบแทนสูง (High yield bond fund) ได้เช่นกัน

          ก.ล.ต. ขอให้ผู้ลงทุนหุ้นกู้ศึกษาข้อมูลและลงทุนให้เหมาะสมโดยจัดพอร์ตการลงทุนให้มีการกระจายความเสี่ยง และหมั่นติดตามข่าวสารหรือปัจจัยเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับความเสี่ยงที่ตนเองสามารถยอมรับได้

           ทั้งนี้ ก.ล.ต. ขอย้ำให้ผู้ลงทุนศึกษาด้วยความระมัดระวังและตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนในการลงทุนทุกประเภท แม้ว่าจะเป็นบริษัทหรือผู้ประกอบธุรกิจที่ ก.ล.ต. กำกับดูแลโดยการอนุญาต/ให้ใบอนุญาต/ให้ความเห็นชอบ/จดหรือขึ้นทะเบียน กับ ก.ล.ต. แล้วก็ตาม ก็เป็นเพียงเครื่องมือ/กลไกที่จะช่วยให้ผู้ลงทุนได้รับข้อมูลที่เพียงพอประกอบการตัดสินใจลงทุนหรือได้รับบริการที่มีมาตรฐานตามกฎหมายหรือตาม conduct ของผู้ประกอบวิชาชีพ และลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกให้ลงทุน ไม่ได้เป็นการรับรองหรือรับประกัน ผลการดำเนินงานของผู้ประกอบธุรกิจ หรือผลตอบแทนจากการลงทุน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]