สถาบันการเงินต้องส่งเสริมธุรกิจสีเขียวให้เติบโต

กรุงเทพฯ 25 ก.ค.-เหล่าสถาบันการเงินต้องร่วมมือส่งเสริมธุรกิจสีเขียวในกลุ่มเอสเอ็มทีไทยที่มีศักยภาพให้สามารถขับเดินหน้าต่อไปได้ โดยอยากให้สถาบันการเงินทำโปรดักต์ออกมากันมาก ๆ เพื่อช่วยเอสเอ็มอี 3.2 ล้านรายและที่มีการจ้างงานกว่า 70% ให้เติบโตอย่างยั่งยืน


ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) กล่าวในงานสัมมนา “ESG Game Changer” ว่าอยู่ในโลกที่เป็นมายาคติ เมื่อก่อนเราชอบอวดรวย ไม่ว่าจะเป็นอันดับความสามารถในการแข่งขัน อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP growth) ซึ่งการแข่งเรื่อง GDP growth นำมาซึ่งภาพลวงตา และนำมาซึ่งหายนะของทุก ๆ คนบนโลกใบนี้ อวดรวยกันมาก เมื่อก่อนถ้าอยากรู้ว่าขุนคลังเก่งแค่ไหน จะต้องดีดเศรษฐกิจขึ้นไปให้เกิน 5% ให้ได้ แต่ตอนนี้ทั้งโลกโตกันแค่ 2% และจะโตประมาณ 2% กว่า ๆ ไปอีกเป็น 10 ปี ดังนั้นเราไม่ต้องไปวัดความเก่งของขุนคลังด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจหรอก รวมถึงบริษัทต่าง ๆ ที่แข่งกัน ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเป็น Zero sum game ไม่มีใครได้อะไร และนำมาซึ่งภาวะโลกร้อน

ทั้งนี้ ตนอยากชวนทุกคน เปลี่ยนจากอวดรวยมาเป็นอวดดี โดยเริ่มจากสแกนองค์กรของตัวเอง แล้วปรับโมเดลธุรกิจรวมถึงเชื่อมโยงกับคู่ค้าที่เป็นธุรกิจสีเขียว


ดร.รักษ์ กล่าวว่า หน้าที่ของแบงก์ในวันนี้ ไม่ใช่แค่ปล่อยกู้ หรือรับเงินฝากอีกต่อไป แต่คือ การเป็นเพลย์เมกเกอร์ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ประกอบการ โดยวันนี้ทุก ๆ สถาบันการเงินเฉพาะกิจมีโปรดักท์สีเขียวออกมากันหมดแล้ว ซึ่งจะช่วยหนุนให้ธุรกิจปรับตัวไปเป็น ESG player

“คนตัวเล็กกว่า 3 ล้านราย เขารู้ว่าโลกกำลังเปลี่ยนไป เขารู้ว่าจะต้องพัฒนาตัวเองอีกมากมาย แล้วใครหล่ะที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้เขา ถ้าไม่ใช่เรกูเลเตอร์ ไม่ใช่สถาบันการเงิน หรือ ไม่ใช่ SFI อย่างพวกเรา สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นได้ในช่วงชีวิตของเรา” ดร รักษ์กล่าว

ที่ผ่านมา EXIM Bank มีโปรดักท์สีเขียวออกมามากมาย แต่ยังไม่พอ ซึ่งอยากให้ทุกสถาบันการเงินมีโปรดักท์สีเขียวออกมาอีกมาก ๆ เพื่อช่วยเอสเอ็มอี 3.2 ล้านรายสามารถปรับตัวได้ การสนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจสีเขียว อยากให้สถาบันการเงินทำโปรดักต์ออกมากันมาก ๆ เพื่อช่วยเอสเอ็มอี 3.2 ล้านราย ที่มีการจ้างงานกว่า 70%” กรรมการผู้จัดการ EXIM Bankกล่าว


นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยในงานสัมมนา  E S G : Game Changer  ESG ภายใต้หัวข้อ The Great Remake สู่โอกาสใหม่ โดยระบุว่า โลก บริโภคน้ำมันวันละ 100 ล้านบาร์เรล ขณะที่ประเทศไทย มีการบริโภคน้ำมัน อยู่ที่วันละ 1 ล้านบาร์เรล หรือ 1% ของโลก โดยปีนี้ คาดว่า โลกจะมีการบริโภคน้ำมันอยู่ที่วันละ 102 ล้านบาร์เรล เป็นการฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง ซึ่งปัจจุบัน หลายสำนักพยากรณ์ ได้คาดการณ์การใช้น้ำมันของโลก จะถึงสูงสุดราว 20 ปีข้างหน้า รวมถึงการขนส่งทางบก และการขนส่งทางน้ำ ก็จะถึงจุดสูงสุดด้วยเช่นกัน ขณะที่การขนส่งทางอากาศ และธุรกิจปิโตรเคมีคอล ยังมีโอกาสเติบโต 

ทั้งนี้ มี 2 ธุรกิจที่ยังมีโอกาสในการเข้าไปลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต และคำตอบสำหรับผู้ดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันฯ คือ การขยายการลงทุนในธุรกิจปิโตรเคมีคอล ที่มุ่งไปสู่การผลิตพลาสติกชีวภาพ ขณะเดียวกัน บางจากฯ มองยังมีอีกหนึ่งทางเลือก คือ เครื่องบิน ซึ่งจากการพยากรณ์พบว่า ในปี ค.ศ.2070 การปล่อยมลพิษจากธุรกิจการบินจะเติบโต 5 เท่า ดังนั้น โลกพยายามคิดค้นและพัฒนาเครื่องบินให้มีน้ำหนักเบามากขึ้นเพื่อลดการปล่อยมลพิษ และการใช้ AI มาวางแผนการบินเพื่อลดการบริโภคน้ำมัน แต่สุดท้ายแล้วคำตอบที่ชัดเจน คือการหาเชื้อเพลิงอื่นที่จะนำมาใช้แทนน้ำมัน ซึ่งจากปัจจุบันนี้ไปจนถึงปี ค.ศ.2050 โลก คิดว่า ไฮโดรเจน จะเป็นคำตอบ แต่ปัจจุบันเทคโนโลยียังไม่เสถียรและต้นทุนการผลิตไฮโดรเจนยังแพงกว่าน้ำมั้น 5-10 เท่า ดังนั้น ยังมีทางเลือกที่จะใช้เชื้อเพลิงไบโอแมส ซึ่งเมื่อ 15 ปีก่อน บางจากฯ มีการนำน้ำมันพืชใช้แล้วมาขายคืน เพื่อทำผลิตเป็น ไบโอดีเซล (บี100) นำไปผสมในน้ำมันเป็น ดีเซล บี5,บี7 และบี10 เป็นต้น 

โดยการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน(Sustainable Aviation Fuel) หรือ SAF ก็มีเทคโนโลยีที่ใกล้เคียงกับการผลิตไบโอดีเซล คือ การนำน้ำมันพืชใช้แล้วมาผลิต ซึ่งบางจากฯ จะเปิดรับซื้อน้ำมันพืชใช้แล้วจากประชาชนทั่วไปผ่านโครงการทอดไม่ทิ้ง ในราคาลิตรละไม่ต่ำกว่า 20 บาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานฯ กำลังการผลิต 1 ล้านลิตรต่อวัน ภายใต้งบลงทุน 10,000 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี ซึ่งปัจจุบันเที่ยวบินในประเทศไทยใช้น้ำมันเครื่องบิน ราววันละ 50 ล้านลิตร ขณะที่ประเทศในทวีปยุโรปมีการใช้มาตรการบังคับให้ผสม SAF ลงไปในน้ำมันอากาศยานทั่วไปในสัดส่วนอย่างน้อย 2% ในปี 2568 ก็จะต้องการใช้ SAF อยู่ที่วันละ 1 ล้านลิตร ซึ่งบางจากฯจะเป็นรายแรกของประเทศที่ผลิต อีกทั้งยังช่วยลดปล่อยมลพิษได้ราวปีละกว่า 80,000 ตัน 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่บางจากฯ จะต้องพัฒนาต่อ คือการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน หรือ ที่เรียกว่า Book and Claim คือสามารถเข้าไปใน Carbon Markets Club จะมีแอพพลิเคชั่นเพื่อแจ้งความต้องการใช้ SAF ในการทำการบิน ก็จะสามารถนำมาเคลมคาร์บอนเครดิตได้ ซึ่งบางจากฯ อยู่ระหว่างการพัฒนา คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 ปีข้างหน้า

นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า บางจากฯ พยายามจะสร้าง ecosystem เพื่อมุ่งสู่ป้าหมาย “Net Zero” ของประเทศไทยที่กำหนดเป้าหมายปี ค.ศ. 2065 เป็นปีที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ กลุ่มบางจากฯ ซึ่งได้ประกาศเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอนในปี ค.ศ. 2030 และ Net Zero ในปี ค.ศ. 2050 มุ่งมั่นร่วมขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำด้วย แผน BCP NET ครอบคลุม 4 แนวทาง ดังนี้

B: Breakthrough Performance

เน้นกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน ปล่อยคาร์บอนต่ำและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้เทคโนโลยีและเชื้อเพลิงที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนจากกระบวนการผลิตในโรงกลั่นน้ำมันบางจาก การเปิดสถานีบริการ Net Zero การใช้ไฟฟ้าจากระบบกักเก็บพลังงาน (แบตเตอรี่) ในธุรกิจผลิตไฟฟ้าของบีซีพีจี เป็นต้น

C: Conserving Nature and Society

สนับสนุนการสร้างสมดุลทางระบบนิเวศและเชื่อมโยงสู่สังคม คาร์บอนต่ำ ผ่านการดูดซับคาร์บอนด้วยวิถีธรรมชาติมุ่งเน้นพัฒนากิจกรรมเพิ่มพื้นที่ในการดูดซับคาร์บอนจาก 2 ระบบนิเวศ ได้แก่ 1) ระบบนิเวศจากป่า (Green Carbon) เช่นโครงการปลูกป่ากับกรมป่าไม้ โครงการอนุรักษ์ป่าชุมชนร่วมกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ และปลูกต้นไม้ในพื้นที่ปฏิบัติการทั่วประเทศ และ 2) ระบบนิเวศทางทะเล (Blue Carbon) จากแหล่งป่าชายเลนและหญ้าทะเล เช่น โครงการปลูกป้าชายเลนร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้แหล่งหญ้าทะเลเพื่อช่วยในการกักเก็บก๊าซเรือนกระจกที่เกาะหมากและเกาะกระดาด จังหวัดตราด เป็นต้น

P: Proactive Business Growth and Transition

เปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่พลังงานสะอาด มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ด้วยเทคโนโลยีเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน เพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจสีเขียว เน้นขยายการลงทุน ใหม่ ๆ ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจ ศึกษาเทคโนโลยีตอบโจทย์ธุรกิจคาร์บอนต่ำ เช่น Blue/Green Hydrogen เชื้อเพลิงทางเลือกคาร์บอนต่ำ เช่น เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนหรือ Sustainable Aviation Fuel (SAF) เทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์และการกักเก็บคาร์บอน (CCUS) และธุรกิจซื้อขายคาร์บอนเครดิต เพื่อส่งเสริมสร้างวัฒนธรรมคาร์บอนต่ำ

N: Net Zero Ecosystem

สร้างระบบนิเวศเพื่อรองรับการไปสู่เป้าหมาย Net Zero อาทิ การดำเนินธุรกิจขนส่งเชื้อเพลิงโดยบริษัท BFPL การให้บริการและจำหน่ายเชื้อเพลิงทางเลือกคาร์บอนต่ำ การจัดทำแพลตฟอร์มให้เช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Winnonie การก่อตั้ง Carbon Markets Club เพื่อส่งเสริมการซื้อขายคาร์บอนเครดิต การร่วมก่อตั้ง Syn Bio Consortium การสร้างวัฒนธรรมคาร์บอนต่ำในองค์กรผ่านโครงการรณรงค์ต่าง ๆ เช่น ‘Bangchak 100x Climate Action ทุกคนช่วยได้” ไปจนถึงโครงการรณรงค์ลดขยะกับลูกค้าและผู้บริโภค เช่น ‘แก้วเพาะกล้า’รักษ์ ปัน สุข’ แล: ‘ขยะกำพร้าสัญจร’ ฯลฯรวมถึงการให้ความสำคัญกับการให้ความรู้และสื่อสารกับผู้ที่มีส่วนได้เสียทางธุรกิจ นำไปสู่การปฏิบัติ เพื่อให้เกิดห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน

สุดท้ายในวงการพลังงาน และกลุ่มบริษัทบางจาก ควรให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างความท้าทายด้านพลังงาน 3 ประการ (Balancing the Energy Trilemma) ได้แก่ ความมั่นคงด้านพลังงาน (Energy Security) การเข้าถึงพลังงาน (Energy Affordability) และความยั่งยืนของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม (Environmental Sustainability) ก็ต้องรอดูว่า รัฐบาลชุดใหม่ของไทย จะให้ความสำคัญในเรื่องใดมากที่สุดระหว่าง 3 เรื่องนี้ 

“ปัจจุบัน พอร์ตธุรกิจของบางจากฯ 30% เป็น Carbon Neutral แล้ว และอีก 70% เป็นเรื่องที่กำลังจะปรับปรุงอยู่ ซึ่งก็มีความตั้งใจว่า อย่างน้อยสิ้นปี ค.ศ.2030 จะมี Carbon Neutral และพอร์ตของบางจากฯจะเป็นสีเขียว 50% และอีก 50%เป็นสีเทา”

นายชัยวัฒน์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดีลซื้อหุ้น บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO) ด้วยว่า ขณะนี้คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ได้แจ้งมติกลับมาแล้ว กำลังปรึกษากับผู้เกี่ยวข้องอยู่ ความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]