ธปท.จี้ทุกภาคส่วนเปลี่ยนเกมธุรกิจสู่ ESG รับมือกีดกันทางการค้า

กรุงเทพ 25 ก.ค.-ธปท.จี้ทุกภาคส่วนผนึกกำลังเปลี่ยนเกมธุรกิจสู่ ESG รับมือกีดกันทางการค้า ทางด้านโออาร์ พร้อมเปิดตัวซูเปอร์แอปพลิเคชั่น Xplore เชื่อมโยงชุมชนเข้าสู่ออนไลน์ ส่วน EXIM Bank เรียกร้องสถาบันการเงินผนึกกำลังหนุนเอสเอ็มอีปรับตัวสู่ ESG และบางจากฯ ลุยก่อสร้างโรงงานผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน SAF ปริมาณ 1 ล้านลิตรต่อวัน ใน 2 ปี ตอบโจทย์ลดโลกร้อน พร้อมนำเทคโนโลยีบล็อกเชนพัฒนา “Book and Claim” รองรับซื้อขายSAF เคลมคาร์บอนเครดิต คาดเสร็จภายใน 1-2 ปีนี้ 


นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา “ESG Game Changer” จัดโดย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า วันนี้เรารอไม่ได้ในเรื่องของโลกที่รวนขึ้นทุกวัน โดยเราอยู่ในจุดที่ต้องตั้งคำถามถึงความสำคัญของการทำธุรกิจที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเราเห็นภัยพิบัติที่หนักหน่วงมากขึ้น ทั้งอากาศที่ร้อนนานขึ้น แล้งนานขึ้น ฝนตกหนักขึ้น ขณะเดียวกัน ประเทศไทยอยู่อันดับท้าย ๆ ของการจัดอันดับขีดความสามารถในการรับมือภัยพิบัติ โดยอยู่อันดับที่39 จากการจัดอันดับทั้งหมด 48 ประเทศ ซึ่งหากไม่รีบดำเนินการอะไร ภายในปี 2050 เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบถึง 43% ของ GDP

นอกจากนี้ ยังมีแรงกดดันเรื่องมาตรการต่าง ๆ จากต่างประเทศ ตลอดจนวิธีปฏิบัติของบริษัทต่างชาติว่าด้วยการจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ประเทศไทยจะต้องปรับตัวเพื่อรับมือ โดยสหภาพยุโรปจะเก็บภาษีคาร์บอนสินค้าข้ามแดนเริ่ม 1 ตุลาคมนี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัทมากกว่า 1,000 บริษัท แล้วจะมีผลกระทบต่อมูลค่าการส่งออกถึง 18,000 ล้านบาท 


ขณะที่ประเทศญี่ปุ่นเองก็เปลี่ยนการผลิตรถจากรถสันดาปเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งต่อไปจะส่งผลกระทบต่อการผลิตชิ้นส่วนกว่า 30,000 ชิ้น จะเหลือแค่ไม่ถึง 3,000 ชิ้น แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคส่งออกของไทย ดังนั้นอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยจะอยู่ในโลกใบเก่าไม่ได้แล้ว นอกจากนี้ ภาคเกษตร ภาคการท่องเที่ยวก็ต้องปรับตัวอย่างจริงจัง

ทั้งนี้ ในส่วนของภาคการเงิน ก็คงเป็นภาคหนึ่งที่ต้องสนับสนุนการปรับตัวของภาคธุรกิจไทย โดย ธปท.ให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG มาโดยตลอด อย่างในด้านสังคมก็มีการดำเนินการในเรื่องคลินิกแก้หนี้ ด้านธรรมาภิบาลก็มีการออกเกณฑ์ของสถาบันการเงินให้ดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรม ล่าสุดก็มีแนวทางการแก้ไขหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืนออกมา

นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ กล่าวในงานสัมนา ESG : Game Changer ว่า การทำ ESG ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็น เพราะผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่เห็นได้ชัดทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นความร้อนทะลุ 45 องศาเซลเซียสในฝั่งโลกตะวันตก ฝนตกหนักผิดปกติในฝั่งตะวันออก เป็นต้น อย่างไรก็ตามการทำ ESG นั้นมีความท้าทายหลายด้านทั้งปัจจัยภายในและภายนอก อย่าง การบริหารจัดการทั้งใน-นอกองค์กรการระบาดของโควิด-19 ฯลฯ สะท้อนจากที่ประชาคมโลกพยายามลดเป้าควบคุมการเพิ่มของอุณหภูมิเฉลี่ยลงตั้งแต่2 องศา เป็น 1.5 องศา จนปัจจุบันอยู่ที่ 1 องศา ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะสามารถบรรลุเป้าได้หรือไม่แต่แม้จะท้าทายก็เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำให้ได้ เพราะอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นนี้เหมือนมนุษย์ที่เป็นไข้ อุณหภูมิเพิ่มจาก 37 องศาเซลเซียสเป็น 39 องศาเซลเซียสก็วิกฤติมากแล้ว 


สำหรับแนวทางของไทยเบฟนั้น ได้ตั้งเป้าหมายด้าน ESG เช่น ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็น 0 และคืนน้ำสู่ธรรมชาติและชุมชนให้ได้ 100% ภายในปี 2583 ขณะที่ 80% ของยอดขายเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ต้องมากจากเครื่องดื่มสุขภาพภายในปี 2573 รวมถึง 100% ของคู่ค้ากลุ่มกลยุทธ์ต้องจัดทำและบังคับใช้จรรญาบรรณสำหรับคู่ค้าของตนเอง ทั้งนี้เชื่อว่า ESG น่าจะสามารถผลักดันการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจไปพร้อมกับสร้างโลกที่น่าอยู่ได้แน่นอน

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือโออาร์ เปิดเผยระหว่างงานสัมมนา ESG Game Changer ในหัวข้อ สร้าง “ความยั่งยืน” ให้เป็นจริง ว่าต้องการอยากให้เห็นว่าโออาร์นั้น ได้ทำอะไรให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งบางคนมองว่าเป็นผู้ค้าน้ำมัน และช่วงนี้ราคาน้ำมันขึ้นอาจจะไม่ค่อยรัก แต่ในมุมของ ESG ความยั่งยืนที่ปฏิบัติ ซึ่งก็ยังดำเนินการและยังไม่ได้หยุดไปนั้น ได้ส่งเสริมและสร้างการเติบโตให้กับสังคมอย่างมากมาย พร้อมกันนี้ OR ยังให้ความสำคัญกับ 4 พันธกิจ ได้แก่ SEAMLMESS MOBILITY การพัฒนาในเรื่องของเทคโนโลยีและเชื่อมโยงที่ให้ไร้รอยต่อโดยต้องการให้เกิดการใกล้ชิด แม้ว่าพลังงานจะไปอยู่ที่ทางไหน ก็จะเชื่อมโยง เชื่อมต่อให้เข้ากับการให้บริการ ALL LIFESTYLES เราไม่ได้ทำธุรกิจขายน้ำมันเพียงอย่างเดียว แต่เรายังมีธุรกิจใหม่ด้วย และอีก 3 เดือนจะเห็นธุรกิจของเรา คือ เรื่องของความสวยความงามด้านสุขภาพ ซึ่งมองว่าเป็นธุรกิจเป้าหมายเพราะสังคมกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุซึ่งมีมากขึ้น เรามองกลุ่มธุรกิจนี้และพร้อมจะให้โอกาสของผู้ค้าของเข้ามาอยู่

ด้าน GLOBAL MARKET เราประสบความสำเร็จในกลุ่มของธุรกิจซึ่งพร้อมที่จะขยายเพื่อหาโอกาสในการทำธุรกิจในต่างประเทศซึ่งมีอยู่มากกว่า 10 ประเทศ เช่น สปป.ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ เมียนมาร์ และโอมาน เราเข้าไปอยู่ในทุก ๆแห่งโดยธุรกิจเราไม่หยุดที่จะดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเท่านั้น แต่เรามองหาโอกาสในต่างประเทศและพร้อมที่จะไขว่คว้า เพราะในประเทศไทยยังมีข้อจำกัด และผู้กำกับดูแล เราจะแสวงหาโอกาสที่ขยายธุรกิจออกไป

OR INNOVATION เรามีแนวคิดที่แตกต่าง การที่เราจะสร้างความแตกต่าง จากปัจจุบันเรามีสถานีบริการ เราจะพัฒนาไปอยู่ในออนไลน์ และจะเข้าไปในอยู่ออนไลน์ 50% โดยในเดือนสิงหาคมนี้ เราจะเปิด application ชื่อว่าXplore ซึ่งจะเป็นแอปพลิเคชั่นที่เข้าไปใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น ไม่ใช่เป็นแค่ application ของ OR แต่เป็นองกลุ่มของปตท. ซึ่งเรามีผลิตภัณฑ์มากมาย ธุรกิจ EV ยาที่เรากำลังพัฒนาอยู่ เราทำงานเป็นกลุ่มจะเป็น application ที่ใหญ่ที่สุดของ ปตท.  และแอปฯนี้จะเป็นซูเปอร์แอปฯ ของ ปตท.ที่มีความเข้มแข็งมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามแอปพลิเคชั่นนี้จะมีประโยชน์กับชุมชนและสังคม ซึ่งจะเป็น marketplace รวบรวมผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในเครือข่ายของเรา และเราจะนำขึ้นมาอยู่บนแอปพลิเคชั่น คนก็จะมีโอกาสสามารถขายของบนแอปพลิเคชั่นของเราฟรี

สำหรับชุมชนและสังคมที่ดูแลอยู่สู่ความยั่งยืน SDG เป็นภาพใหญ่ของสหประชาชาติ แต่สิ่งที่เดินหน้า การให้โอกาสคนตัวเล็กเป็นสิ่งที่ทำอยู่ การให้โอกาสทุกรูปแบบเพื่อให้วิสาหกิจชุมชน สังคม เข้ามาอยู่ในเครือข่ายของ เพราะไม่สามารถทำธุรกิจได้คนเดียวและเมื่อเขาทำธุรกิจร่วมกัน ก็ต้องเข้าไปดูแลและไม่หยุดที่จะคิด และสร้างการเติบโตไปด้วยกัน นอกจากนี้ SDG และ ESG สร้างความเชื่อมโยงกันและสอดคล้องกันด้วย ทั้งนี้ ความคิดของโออาร์เองยังไม่ได้มองเรื่องของ green เป็นต้นทุน แต่มองเป็นเรื่องของการสนับสนุน เป็นเรื่องเอาพลังงาน หากนำกลับมาใช้ก็คือการบริหารต้นทุน การใส่เงินเข้าไปให้โอกาสการทำธุรกิจให้ความยั่งยืน ไม่เคยคิดว่าเป็นต้นทุน ซึ่งเป็นแนวคิดของการวางกลยุทธ์และโปรแกรมต่าง ๆ มากมายด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]