EXIM BANK สานพลัง บสย. เปิดตัวโครงการ The S1

3 พ.ค. – EXIM BANK สานพลัง บสย. จัดสินเชื่อพร้อมค้ำประกันภายใต้โครงการ The S1 ยกระดับการบริการสนับสนุนสภาพคล่อง SMEs ไทย สู่ตลาดโลก


SMEs ถือว่าเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนและสร้างรากฐานความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศไทย และมีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจในสัดส่วน 34% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ทั้งยังสร้างการจ้างงานมากถึง 12.6 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วน 72% ของการจ้างงานทั้งระบบ ขณะที่ในภาวะปัจจุบันตลาดภายในประเทศเริ่มอิ่มตัวด้วยปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการก้าวสู่สังคมสูงวัยหรือหนี้ครัวเรือนที่สูงทำให้กำลังในการจับจ่ายใช้สอยลดลง ผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะ SMEs ซึ่งมีจำนวนถึง 99% ของผู้ประกอบการทั้งระบบ หรือกว่า 3.18 ล้านรายต้องเริ่มมองหาช่องทางในการขยายตลาดสู่ต่างประเทศเพื่อค้นหาลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ

เส้นทางสู่การเป็น “ผู้ส่งออก” อาจจะไม่ได้ง่ายนักสำหรับผู้เริ่มต้น ทั้งเรื่องความรู้ความเข้าใจในการส่งออกและปัจจัยสำคัญอย่างเงินทุนในการพัฒนาสินค้าเพื่อให้ได้มาตรฐานที่ส่งออกได้ ขณะที่การเข้าถึงแหล่งเงินทุนนับเป็นข้อจำกัดสำคัญในการดำเนินธุรกิจที่ผู้ประกอบการรายย่อยต้องเผชิญและปลดล็อกได้ยาก หากไม่มีการช่วยเหลือจากภาครัฐ การให้ผู้ประกอบการ SMEs ต่อสู้เองโดยลำพังคงยากที่จะพาเรือเล็กออกจากฝั่ง


สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 2 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จึงได้ร่วมมือกันเปิดตัวโครงการ The S1 (SMEs One) โดยใช้ความเชี่ยวชาญของทั้ง 2 องค์กรในการออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการให้พร้อมสนับสนุน SMEs ใน Supply Chain การส่งออก ให้ได้รับบริการทั้งสินเชื่อและการออกหนังสือค้ำประกันอย่างรวดเร็วและสอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจภายใต้การบริการผ่านช่องทางสาขาร่วม (Co-branch) และช่องทางออนไลน์ รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลยกระดับประสิทธิภาพการบริการแก่ลูกค้า SMEs

นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับโครงการ The S1 โดยเฉพาะ เพื่อบรรเทาภาระต้นทุนทางการเงินพร้อมทั้งให้สิทธิประโยชน์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการที่เป็นคนตัวเล็กในโลกธุรกิจให้สามารถเริ่มต้นหรือขยายกิจการได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในเวทีการค้าโลกยุคใหม่

บริการใหม่ “สินเชื่อ One SMEs” เป็นสินเชื่อหมุนเวียนทั้งก่อนและหลังการส่งออก วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 5.25% ต่อปี โดยใช้เพียงหนังสือค้ำประกัน บสย. และผู้บริหารหลักค้ำประกัน พร้อมรับสิทธิพิเศษ ส่วนลดดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี สำหรับ 6 เดือนแรก ซึ่งถ้าทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรับเพิ่มส่วนลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ต่อปี ตลอดระยะเวลา 3 ปี และยกเว้นค่าดำเนินการค้ำประกันจาก บสย. (สมัครและอนุมัติภายใน 31 ก.ค. 2566)


ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า โครงการ The S1 เกิดจากความมุ่งมั่นของ EXIM BANK และ บสย. ที่จะพัฒนาศักยภาพและยกระดับคนตัวเล็กในทุกมิติทั้ง เติมความรู้ เติมโอกาส และเติมเงินทุน เพื่อให้ SMEs แข็งแรง พร้อมเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดย EXIM BANK และ บสย. ร่วมกันพัฒนา Business Model ในการสนับสนุน SMEs ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการส่งออกภายใต้แนวคิด 1 Channel, 1 Process และ 1 Credit Scoring ตอบโจทย์ความต้องการของโลกธุรกิจยุคใหม่ที่เน้นความสะดวก รวดเร็ว สมัครเพียง 1 ครั้ง ได้ทั้งการขออนุมัติวงเงินสินเชื่อและขอออกหนังสือค้ำประกัน ช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับเงินทุนไปหมุนเวียนใช้ในกิจการรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ด้านนายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. กล่าวว่า บสย. เป็นกลไกของภาครัฐที่จะเติมเต็มด้านหลักประกันให้กับ SMEs ที่ต้องการเงินทุน โดยยกเว้นค่าดำเนินการหนังสือค้ำประกันเพื่อช่วยลดต้นทุนด้านการเงินและภายใต้ความร่วมมือของโครงการ The S1 นี้จะมีการนำระบบดิจิทัลเข้ามาช่วยลดกระบวนการ ลดเอกสารและจะร่วมกันให้บริการเป็น One Stop Service โดยมีสาขาของ บสย. 11 สาขาและ EXIM BANK 9 สาขา เป็นจุด Touchpoint ที่ SMEs สามารถยื่นขอสินเชื่อพร้อมหนังสือค้ำประกันจาก บสย. ได้ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการและเพิ่มโอกาสให้เข้าถึงเงินทุนในการพัฒนาธุรกิจได้ง่ายขึ้น

นายพิสิฏฐ์ เอี่ยมน้อย CEO บริษัท แคลเอ็กซ์โค่ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นรถยนต์ยี่ห้อ Motoc และน้ำมันหล่อลื่นเกียร์และเครื่องจักร Mitec หนึ่งในผู้ประกอบการที่สนใจขอสินเชื่อภายใต้โครงการ The S1 กล่าวว่า ได้เห็นโครงการนี้ในโซเชียลมีเดีย จึงสนใจและเดินทางมาขอเข้าร่วมโครงการ โดยบริษัทเปิดดำเนินงานมาแล้ว 4 ปี สินค้าที่จำหน่ายอยู่ในกลุ่มตลาดล่างเป็นหลัก เริ่มมีการจำหน่ายแล้วในจังหวัดชายแดน จึงอยากได้ความรู้และเงินทุนสำหรับพัฒนาสินค้าเพื่อเจาะตลาดกลุ่มพรีเมียมมากขึ้น รวมทั้งอยากขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน การได้เข้ามารับทราบรายละเอียดของโครงการ The S1 นับว่าเป็นประโยชน์มาก เพราะเป็น One Stop Service มางานเดียวได้ครบ ทั้งการสมัครเข้าร่วมโครงการ อบรมให้ความรู้เรื่องการส่งออก เงินทุน ปรึกษาเรื่องขั้นตอนการขอสินเชื่อจาก EXIM BANK โดย บสย. จะช่วยเรื่องการค้ำประกัน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการหาหลักทรัพย์ค้ำประกัน

“ผมว่าการร่วมมือกันในลักษณะนี้เป็นสิ่งที่ดี เพราะทั้ง 2 หน่วยงานจะใช้มาตรฐานเดียวกันในการพิจารณาสินเชื่อ หากไม่รวมศูนย์ก็จะต่างคนต่างทำและแต่ละแห่งจะมีวิธีการทำงานและการพิจารณาที่แตกต่างกัน โครงการ The S1 นับว่าเป็นแบบอย่างของการทำงานร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐที่สามารถสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้อย่างเป็นรูปธรรมในทุกมิติ นับเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการอย่างยิ่ง” นายพิสิฏฐ์ กล่าว

ผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการ S1 และโครงการ “คลินิก EXIM เพื่อคนตัวเล็ก” เพื่อรับคำปรึกษาแนะนำทางการเงินจากทั้ง 2 องค์กร เพื่อวางแผนทางธุรกิจ บริหารจัดการหนี้หรือบัญชีภายใน และเพิ่มสภาพคล่องทางธุรกิจได้ สอบถามศูนย์บริการลูกค้า EXIM BANK โทร. 0 2169 9999 หรือ บสย. โทร. 0 2890 9999 และในอนาคตโครงการจะขยายความร่วมมือไปยังธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ซึ่งอยู่ระหว่างร่วมกันพัฒนารูปแบบการทำงาน พัฒนานวัตกรรมทางการเงินที่ขับเคลื่อนการเติบโตของ SMEs และประเทศไทยอย่างยั่งยืน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]