“กรุงไทย​” เดิน​หน้า​พัฒนา​ดิจิทัล​แพลตฟอร์ม​-มุ่งสู่​ ESG

กรุงเทพ​ฯ​ 4 เม.ย. – ธนาคาร​กรุงไทย​ขับเคลื่อน​แผนงาน 5 ปี พ.ศ. ​2566-2570 ภายใต้​ยุทธศาสตร์​ 7​ข้อเพื่อรับภูมิทัศน์ใหม่​ทางการ​เงินจากโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว​


นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวในงาน CEO Vision : Business Strategy 2023 ที่สาธารณรัฐเอสโตเนีย ระหว่างนำคณะสื่อมวลชนศึกษาดูงานด้าน e-Governance และเทคโนโลยีภาครัฐและเอกชน

ทั้งนี้ธนาคารกรุงไทยกำหนดแผนงาน 5 ปี ระหว่างปี พ.ศ. 2566-2570 ซึ่งเป็นทิศทางการดำเนินธุรกิจธนาคารในระยะต่อไป ตามการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์ทางการเงินใหม่ที่เปิดกว้าง 3 ด้านคือ


  • Open Infrastructure การเปิดกว้างทางโครงสร้างพื้นฐาน
  • Open Data การเปิดกว้างของข้อมูล
  • Open Competition การเปิดกว้างทางการแข่งขัน

สำหรับแผนงาน  5 ปีของกรุงไทยที่กำหนดเพื่อรองรับการเปิดกว้าง 3 ด้านอยู่ภายใต้ 7 ยุทธศาสตร์หลัก ดังนี้

​1. ปลดล็อคศักยภาพในการสร้างมูลค่าจากการทำธุรกิจกับคู่ค้าของลูกค้า (X2G2X) เร่งต่อยอดยุทธศาสตร์ X2G2X ให้เกิดการเชื่อมโยงในเชิงลึกในกลุ่มลูกค้าต่างๆ ทั้ง B2B B2C G2B และ G2C และมีแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์คู่ค้าของลูกค้า ทั้งการเร่งสร้าง Economic Value จากแอปฯ เป๋าตัง และถุงเงิน เสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SME ให้แข็งแกร่ง ต่อยอดความร่วมมือที่ได้ลงทุนไปแล้วทั้งระบบ Smart Transit  ตั๋วร่วม Smart Hospital และ Digital Business Platform เป็นต้น

2. ขับเคลื่อนประสิทธิภาพองค์กรด้วยดิจิทัลและข้อมูล เร่งนำข้อมูลและเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ ปรับปรุงกระบวนการทำงานให้เป็น Process Digitalization โดยนำระบบ RPA หรือ Robotic Process Automation และการใช้ AI เข้ามาใช้ในกระบวนการทำงานภายในของธนาคารมากขึ้น ทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการใช้กระดาษ (Paperless) นำไปสู่โครงสร้างการประเมินอัตรากำลังที่เหมาะสมในการให้บริการผ่านสาขา ผสมผสานการให้บริการออนไลน์สู่ออฟไลน์ได้เต็มศักยภาพ โดยช่องทางสาขาจะถูกปรับเป็นการให้บริการทางธุรกิจ และอยู่ระหว่างการทดสอบในพื้นที่ EEC ซึ่งไม่เกิน 2-3 เดือนจะได้เห็นรูปแบบใหม่ หรือการ Modernize ของสาขาใหม่ นำร่อง 20 สาขา ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ เช่น ชลบุรี เชียงใหม่โดยจะใช้ระบบ e-Solution เปลี่ยนกระบวนการให้บริการในสาขาให้ทันสมัยตอบโจทย์ นำประสิทธิภาพของข้อมูลมาตอบสนองความต้องการของลูกค้าครบทั้งออนไลน์และออฟไลน์


เมื่อประชาชนเข้าไปใช้บริการจะเห็นถึงความแตกต่างใหม่ อาทิ การทำธุรกรรมทั้งหมด พนักงานในสาขาให้บริการด้วยแทบเล็ต ระบบเคาน์เตอร์จะลดลง ใช้ระบบสมาร์ทคิวเพื่อลดการเข้าคิว และช่วยให้ลูกค้าจบกิจกรรมได้รวดเร็ว โดยกิจกรรมสาขาบางจุดจะตอบโจทย์ SMEs ด้วย โดยเปลี่ยนช่องทางให้บริการรายย่อยเป็นช่องทางให้คำแนะนำผู้ประกอบธุรกิจและอาชีพอิสระ

การรอคิวน้อยลง คนสามารถรู้สึกว่า จุดบริการแบงก์รู้จักเขามากขึ้น ตอบโจทย์เขามากขึ้น ระหว่างที่รอเขาได้รับบริการโซลูชั่นครบถ้วนแบบที่ทันสมัย 

ทั้งนี้ ธนาคารกรุงไทยชะลอแผนการปิดสาขาออกไปชั่วคราวก่อน เพราะต้องพิจารณาเรื่องการตอบโจทย์สังคมด้วย โดยมีการสำรวจว่าแม้สาขาที่ไม่กำไร แต่ตั้งอยู่ในจุดที่ประชากรในบริเวณรัศมี 4 – 10 กิโลเมตร ไม่มีธนาคารเลย ทางกรุงไทยก็จะยังไม่รีบปิด ถือเป็นสิ่งที่เราดูแลและให้ความสำคัญให้บริการครอบคลุม โดยไม่ได้เน้นกำไรเต็มที่จนทำให้ภาคพื้นที่บางส่วนเหลื่อมล้ำขึ้นมาในการเข้าถึงบริการทางการเงิน

3. เปิดตัวแพลตฟอร์ม เพื่อสร้างการเติบโตในมิติใหม่ พัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่สามารถ      ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร ทั้ง Virtual Banking ที่ธนาคารจะร่วมกับพันธมิตร เพื่อดำเนินการ และโฟกัสไปที่ Wealth-Tech เพื่อเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและบริการทางการเงินในทุกระดับชั้น ต่อยอดสร้างศักยภาพการออม เสริมสร้างความมั่งคั่งให้คนไทย เรามีโอกาสเติบโตมาก เพราะเรามีกลุ่มลูกค้า ในเซคเมนท์เวลธ์ที่ต่างกว่าแบงก์คู่เทียบค่อนข้างเยอะ เราถึงมองเป็นโอกาส เร่งสร้างแพลทฟอร์มครอสเซลกลุ่มลูกค้า

ส่วนความคืบหน้าเรื่อง Virtual Bank หรือธนาคารเสมือนจริง (Virtual Bank) ที่ได้ลงนาม MOU กับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จํากัด (มหาชน) เพื่อร่วมลงทุนเป็นผู้ให้บริการ Virtual Bank ขณะนี้รอธนาคารแห่งประเทศไทยออกเกณฑ์ โดยธนาคารกรุงไทยกับเอไอเอสเตรียมความพร้อม รูปแบบจะเป็นการตั้งบริษัทใหม่ลงทุนร่วมกัน และตั้งใจจะเป็นหนึ่งในองค์กรที่พร้อมยื่นไลเซนส์รายแรกๆ

4. เน้นเรื่อง Sustainability การตอบโจทย์เรื่อง Climate Change สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างครอบคลุม เท่าเทียม และยั่งยืน ขับเคลื่อนธุรกิจตามแนวทาง ESG  สนับสนุนประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างทั่วถึง เท่าเทียม โปร่งใส  ลดความเหลื่อมล้ำ ลดช่องว่างการกระจายรายได้ เชื่อมโยงกลุ่มลูกค้า SME ที่มี 1.5 – 1.6 ร้านค้าทั่วประเทศ กับ Digital Economy และเร่งปรับตัวเข้าสู่กลุ่มอุตสาหกรรม New S-Curve เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน

5. พัฒนาและเสริมสร้างขีดความสามารถการทำงานแห่งอนาคต เร่งสร้างการบริหารความเสี่ยงที่ มีประสิทธิภาพ ทั้งด้านความพร้อมของระบบรองรับ PDPA & Cyber Risk เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า  ทุกกลุ่ม บริหารจัดการ NPL และ NPA เพื่อแก้ปัญหาปรับแป็นสินทรัพย์ที่สร้างคุณค่าในเวลารวดเร็วขึ้น พร้อมบูรณาการบริษัทในเครือ สร้างประโยชน์จากสินทรัพย์ให้เต็มศักยภาพ บนความร่วมมือแบบ ONE Krungthai

6. ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีหลักขององค์กร  ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT และ Digitalization อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับโครงสร้างเทคโนโลยีให้มีความทันสมัย มั่นคง ปลอดภัย มีเสถียรภาพ มีประสิทธิภาพและสามารถรองรับจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อสนับสนุนการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าด้วยต้นทุนที่เหมาะสม

7. ปฏิรูปวัฒนธรรมและปลูกฝังวิธีการทำงานแบบใหม่เพื่อขับเคลื่อนองค์กรด้วยความคล่องตัว ปรับวิธีการทำงานรูปแบบใหม่ให้เป็นไปในลักษณะ Agility มีความกระฉับกระเฉง โดยอาศัยหลักการแบบ Fail Fast Learn Fast ยกระดับพนักงานให้มีทักษะใหม่ๆ (Upskill/Reskill)  สามารถดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถในระดับประเทศและระดับโลกเข้ามาทำงานเสริมสร้างความแข็งแกร่ง เป็นองค์กรแห่งการสร้างผู้นำในอนาคต

ทั้ง 7 ยุทธศาสตร์นี้ ธนาคารกรุงไทย มุ่งหน้าสู่ปี 2027 เน้นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนอย่างเหมาะสม สร้าง Economic Value โดยโครงสร้างกำไรสุทธิต้องมาจากต้นทุนและรายได้ที่เหมาะสม หลายบริบทของธนาคารกรุงไทยไม่ได้เน้นกำไรมหาศาล (Maximize Profit) แต่เน้นสร้างมูลค่าเพิ่มหรือกำไรอย่างยั่งยืน (Optimize Profit) ตระหนักถึงคู่ค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตั้งแต่รัฐในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่และประชาชนคนไทย ทำให้เห็นว่า ธนาคารกรุงไทยเป็นกลไกหนึ่งสนับสนุนภารกิจของรัฐบาล ประชาชน ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการไทย แต่สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือ การเร่งลงทุนด้านไอทีดิจิทัลมีต้นทุน (cost) สูงขึ้น แม้การลงทุนเรื่องนี้เป็น asset แต่จะต้องวางสัดส่วนการลงทุนให้สอดประสานสมดุลกับการเติบโตของรายได้ ดังนั้นต้องไม่ให้ cost แซงรายได้ ซึ่งจะเห็นว่า เป็นความเสี่ยงบางธนาคารตอนนี้

นายผยงกล่าวต่อว่า กรุงไทยให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ประโยชน์ให้สูงสุดในองค์กร หรือ Digital Adoption ซึ่งเป็นเทรนด์โลกขณะนี้ การมาดูงานด้านดิจิทัลที่สาธารณรัฐเอสโตเนียซึ่งก้าวหน้าเรื่องของรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ e-Government ที่ได้รับการยอมรับที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ธนาคารพยายามเรียนรู้และทำความเข้าใจเมกะเทรนด์และนำมาประยุกต์ใช้ โดยพิจารณานำนวัตกรรมเทคโนโลยีที่น่าสนใจไปต่อยอดในเรื่อง ecosystem open platform open economy เพื่อเข้าสู่ New Generation โดยมีกรณีศึกษาที่น่าสนใจของเอสโตเนียในการสร้าง Digital Infrastructure ที่รัฐและเอกชนสามารถสร้างบริการทางดิจิทัลได้ถึง 3,000 บริการ โดยกรุงไทยเชื่อว่า การขับเคลื่อนเรื่อง Open platform เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทย โดยโครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ในช่วงวิกฤตโควิด-19 มีเงินหมุนเวียนในระบบถึง 6 แสนบ้านบาทในแพลทฟอร์มที่กรุงไทยพัฒนาร่วมกับพันธมิตรและสามารถตอบโจทย์ผู้คนได้ถึง 40 ล้านคน ปัจจุบันเรามีผู้ใช้งานในระบบโอเพ่นแพลตฟอร์ม 40 ล้านคน ส่วนระบบปิดมี 16 ล้านคน

ความเสี่ยงของภาคธนาคารในปี 2023 มีทั้งเรื่อง Geopolitics โลกแบ่งเป็นสองขั้วระหว่างจีน กับตะวันตก ทำให้ supply chain ถูกแบ่ง และเทคโนโลยีก็มี 2 รูปแบบ ทำให้ไทยต้องวางสมดุลเรื่องนี้ นอกจากนี้ยังมีเรื่อง Generation Shift ที่เราต้องเปลี่ยนผ่านให้ได้ เราเห็นคนรุ่นใหม่ เริ่มสร้างการผันแปรทางการเมืองค่อนข้างมาก แต่การตอบโจทย์ในแง่ธุรกิจ เรามองถึงการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่กลุ่มนี้ ไปจนถึงคุณภาพสินเชื่อที่เขาต้องการในการสร้างครอบครัวของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป อื่นๆยังเป็นความเสี่ยงเรื่องอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐอเมริกา เศรษฐกิจยุโรปผันผวน ปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง สิ่งเหล่านี้มีผลทั้งสิ้นต่อระบบธนาคารพาณิชย์ ในเรื่องโครงร้างหนี้ การเยียวยาลูกหนี้ที่ประสบปัญหาจากภัยธรรมชาติ และปัญหาทางเศรษฐกิจอื่นๆ

นอกจากนี้กรุงไทยยังคงเดินหน้ามุ่งมั่น คุม NPL ให้อยู่ต่ำกว่า 3.5 % อัตราส่วนเงินสํารองที่มีอยู่ ต่อ NPL (NPL coverage ratio) อยู่ที่ประมาณ 170 % โดยคาดหวังว่า NPLจะลดลง เท่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมการเงินที่เฉลี่ย 2.8 %

ภารกิจที่กรุงไทยกำลังให้ความสำคัญมาก คือ เรื่องการสร้างความยืดหยุ่นในองค์กร (Resilience) การเร่งการเปลี่ยนแปลงร่วมแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ สนับสนุนประเทศในการสร้างความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้ที่ผ่านมา คือการเร่งฟื้นฟูและสร้างธรรมาภิบาลองค์กร ไม่ทนต่อการทุจริต วางระบบกลไกตรวจสอบเพื่อสร้างความมั่นใจให้สาธารณชนจากที่เคยมีปัญหาเรื่องการฉ้อฉลต่างๆ ในอดีต

ส่วนเรื่อง ESG Governance Finance Exclusive ที่กรุงไทยดำเนินการที่ผ่านมา จะขับเคลื่อนต่อไป และที่จะให้ความสำคัญมากขึ้น คือ เรื่อง Climate Change ที่จะหาแนวทางให้ธนาคารกรุงไทยตอบโจทย์เรื่องนี้ได้อย่างไรบ้าง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]