นนทบุรี 8 มี.ค.-สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติผนึก ททท. กรมการท่องเที่ยว และ สคบ. ต่อสัญญา MOU อีก 3 ปี ในโครงการ Buy with Confidence ด้วยใบรับรอง GIT การันตี หลังประสบความสำเร็จสร้างความเชื่อมั่นอัญมณีและเครื่องประดับไทยจนดึงรายได้เข้าประเทศปี 65 กว่า 5.16 แสนล้านบาท พร้อมแนะเอกชนเร่งเจาะตลาด จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ตะวันออกกลาง และอาเซียนยังโตอีกมาก
นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT กล่าวภายหลังลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมกับทั้ง 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กรมการท่องเที่ยว และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)เพื่อต่ออายุบันทึกข้อตกลงไปอีกเป็นระยะเวลา 3 ปี ที่เริ่มโครงการซื้อด้วยความมั่นใจ Buy With Confidence (BWC) มาตั้งแต่ปี 2561 โดยสถาบัน GITยังคงมุ่งเน้นการสร้างมาตรฐานให้กับสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทย ที่ผ่านการตรวจสอบและออกใบรับรองสินค้าจาก GIT เป็นการตรวจโดยห้องปฏิบัติการตรวจสอบและออกใบรับรองอัญมณีและโลหะมีค่าแห่งชาติจะรับการยอมรับในระดับสากล
ทั้งนี้ ยังทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นได้ว่าสินค้าทุกชิ้นที่ได้รับใบรับรองจาก GIT เป็นสินค้าที่เชื่อถือได้ และมีคุณภาพตรงตามที่ระบุไว้ อันจะส่งผลต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับโดยรวมและเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศทั้งที่สั่งซื้อเข้ามาและเข้ามาซื้อภายในประเทศไทยในช่วงหลังโควิดเบาลงและไทยเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งจะเห็นว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเที่ยวไทยมั่นใจซื้อสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับจากไทยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะมีความเชื่อมั่นในสินค้าไทย
“สถาบัน GITได้เริ่มโครงการซื้อด้วยความมั่นใจ Buy With Confidence (BWC) ตั้งแต่ปี 2561 โดยบูรณาการความร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กรมการท่องเที่ยว และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทย ให้เติบโตแข่งขันได้ ดังนั้น เพื่อให้อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลกยิ่งขึ้น และมีความสำคัญกับประเทศไทย โดยเฉพาะในแง่ของการเป็นสินค้าส่งออกสำคัญในอันดับที่ 3 รองจาก รถยนต์ คอมพิวเตอร์ โดยในปี 65 ที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 5.16 แสนล้านบาท ทั้งยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีการสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การเจียระไน การปรับปรุงคุณภาพพลอย การออกแบบ การผลิตตัวเรือน จนถึงร้านค้าจำหน่ายสินค้า”นายสุเมธกล่าว
นอกจากนี้ ยังทำให้มีการสร้างงาน สร้างอาชีพราว 700,000 คนทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค โดยฝีมือและภูมิปัญญาของคนไทย มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้มีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยให้แข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการตอกย้ำภาพลักษณ์ของไทยในการเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญของโลก ซึ่งหลังจากทำโครงการซื้อด้วยความมั่นใจ Buy With Confidence โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT ตั้งแต่ปี 2561 ปัจจุบัน มีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นจำนวนมากกว่า 500 ราย รวมถึงมีการใช้ใบรับรองเพื่อสนับสนุนให้เกิดการซื้อ- ขาย สร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งผู้ประกอบการ และผู้บริโภค เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดมูลค่าการซื้อขายที่มากขึ้น เศรษฐกิจของประเทศก็สามารถเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม การเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการซื้อด้วยความมั่นใจ ทั้งในด้านการประชาสัมพันธ์โครงการให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง พร้อมทั้งยังร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่ร่วมโครงการให้สามารถแข่งขันได้ อย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดงานแสดงสินค้า การอบรม สัมมนา การขยายช่องทางการจำหน่ายผ่าน Platform e-Commerce ชั้นนำที่มีความร่วมมือกับสถาบัน ซึ่งนอกจากเป็นการสร้างศักยภาพให้กับร้านค้า และผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการแล้ว ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในระดับนานาชาติอีกด้วย
นายสุเมธยังกล่าวอีกว่า แนวโน้มการส่งออกในปี 2566 แม้ยังมีปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่ยังคงมีอยู่ ปัญหาราคาพลังงาน เงินเฟ้อที่หลายประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ฉุดการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยเริ่มเห็นได้ชัดตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเริ่มชัดเจนปีนี้ ที่อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (อียู) ชะลอตัวลงไปบ้าง แต่ตลาดเอเชีย ทั้งจีน ญี่ปุ่น อินเดีย และอาเซียน ยังคงเติบโตได้ดีและต่อเนื่อง ดังนั้น ทางสถาบัน GIT มองว่า
ผู้ประกอบการที่พึ่งพาตลาดหลักสหรัฐฯ และอียู จะต้องปรับตัวโดยมุ่งเน้นเจาะตลาดด้วยดีไซน์ที่ตรงใจและงานฝีมือที่เป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งใช้จุดขายการรักษ์โลก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นกระแสที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญ และต้องมองหาโอกาสจากตลาดที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างจีน ญี่ปุ่น อินเดีย ตะวันออกกลาง และอาเซียน จะเป็นอีกช่องทางให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้
ส่วนใครที่สนใจสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน โดยสถาบันฯ ยังได้รับความสนับสนุนจากผู้ประกอบการแบรนด์เครื่องประดับชั้นนำ ในโครงการซื้อด้วยความมั่นใจ Buy With Confidence ได้แก่ AR Jewelry, Ponk Jewelry และ Phya Jewelry สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ http://bwc.git.or.th หรือ โทร 02-634-4999 ต่อ 627 อีกด้วย .-สำนักข่าวไทย
