Vietnam shows off military and economic achievements ahead of Independence Day

เวียดนามโชว์ผลงานทางทหาร-เศรษฐกิจก่อนวันชาติ

ฮานอย 31 ส.ค. – เวียดนามจัดนิทรรศการแสดงความสำเร็จทางการทหารและทางเทคโนโลยีอย่างยิ่งใหญ่ในวันนี้ ก่อนที่จะมีการฉลองวันชาติที่เป็นวันประกาศเอกราชครบ 80 ปี ในวันที่ 2 กันยายนนี้ ชาวเวียดนามจำนวนมากพากันเดินทางไปยังศูนย์นิทรรศการแห่งชาติในกรุงฮานอยในวันนี้ เพื่อชมการจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์หลากหลายอย่าง มีตั้งแต่ระบบขีปนาวุธ อากาศยานไร้คนขับหรือยูเอวี (UAV) ปืนยาวซุ่มยิง ไปจนถึงหุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิด เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสได้เห็นยุทโธปกรณ์เหล่านี้ เว็บไซต์ต่วยแจออนไลน์ของเวียดนามรายงานว่า ผู้คนเดินทางมาจากทุกสารทิศตั้งแต่เช้าตรู่ ทำให้การจราจรทั้ง 2 ฝั่งของพื้นที่โดยรอบติดขัดอย่างหนัก จนแทบเป็นอัมพาตในช่วงบ่าย หลายคนตัดสินใจเดินเท้า อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่เป็นอุปสรรคต่อชาวเวียดนามที่ต้องการมาชมความสำเร็จของประเทศด้วยความภาคภูมิใจ เว็บไซต์สถานีวิทยุเวียดนาม ส่วนกระจายเสียงต่างประเทศแห่งชาติ (VOV World 5) ระบุว่า วันที่ 2 กันยายน ปี 2488 เป็นวันที่ประธานโฮจิมินห์ได้อ่านปฏิญญาเอกราชที่จัตุรัสบาดิ่งห์ ในกรุงฮานอย เป็นคำประกาศต่อโลกเกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่มีเอกราช และประชาชาติเวียดนามเป็นผู้กำหนดอนาคตของตนเอง ปฏิญญานี้เป็นการสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม ซึ่งกลายเป็นประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามในปัจจุบัน โฮจิมินห์เป็นผู้นำขบวนการต่อต้านฝรั่งเศสหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 2488 เรียกร้องการเอกราชจากฝรั่งเศสที่เป็นเจ้าอาณานิคมเวียดนามตั้งปี 2426 จนกระทั่งมีการเจรจาสงบศึกในปี 2497 เวียดนามได้เอกราชและแบ่งออกเป็นเวียดนามเหนือฝ่ายคอมมิวนิสต์ที่นำโดยโฮจิมินห์ และเวียดนามใต้ที่นำโดยนายโง […]

South Korea Foreign Minister Cho Hyun

เกาหลีใต้ชี้เป็นไปได้น้อยมากที่ “ทรัมป์-คิม” จะพบที่เอเปค

โซล 31 ส.ค.- นายโช ฮยอน รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ กล่าวว่า ณ เวลานี้มีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะมีการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐกับผู้นำเกาหลีเหนือ นอกรอบการประชุมกลุ่มเศรษฐกิจที่เกาหลีใต้ในปลายปีนี้ นายโชให้สัมภาษณ์รายการข่าวของสถานีโทรทัศน์เคบีเอส (KBS) ในวันนี้ว่า บอกได้เพียงว่า ณ เวลานี้มีความเป็นไปได้น้อยมาก ต่อกระแสข่าวเรื่องประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกับนายคิม จอง อึนของเกาหลีเหนือจะพบกันนอกรอบการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอเปค (APEC) ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึง 1 พฤศจิกายน 2568 ที่เมืองคยองจู ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 330 กิโลเมตร นอกจากนี้เกาหลีใต้ในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปคยังไม่ได้ส่งคำเชิญไปยังเกาหลีเหนือด้วย อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้กล่าวว่า หากการประชุมสุดยอดผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือเกิดขึ้นได้จริง ก็จะเปิดโอกาสให้แก่การผ่อนคลายความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี และนำมาซึ่งการปลดนิวเคลียร์เกาหลีเหนือในที่สุด ส่วนเรื่องที่ผู้นำเกาหลีเหนือจะไปจีนในสัปดาห์นี้เพื่อร่วมชมขบวนสวนสนามที่กรุงปักกิ่งในวันที่ 3 กันยายน เนื่องในวันแห่งชัยชนะ ฉลองครบ 80 ปีของการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น นายโชมองว่า เกาหลีเหนือคงจะใช้โอกาสนี้ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับจีนที่ตึงเครียดเพราะเกาหลีเหนือหันไปใกล้ชิดกับรัสเซียมากขึ้นในช่วงไม่นานมานี้ และอาจจะได้เรียนรู้ถึงข้อจำกัดของรัสเซีย รวมทั้งอาจเรียนรู้ถึงข้อจำกัดของจีนด้วย กระแสข่าวเรื่องผู้นำสหรัฐจะประชุมสุดยอดกับผู้นำเกาหลีเหนือที่เกาหลีใต้เกิดขึ้นหลังจากนายทรัมป์กล่าวกับนายอี แจ มยอง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่ไปพบที่ทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า […]

India committed to improving ties with China, direct flights resumed says Modi at meeting with Xi

ผู้นำอินเดียย้ำร่วมมือจีนจะเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ

เทียนจิน 31 ส.ค. – สื่ออินเดียรายงานว่า นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย กล่าวระหว่างนำคณะหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีสี จินผิง ของจีน ว่าความร่วมมือระหว่างอินเดียกับจีน จะปูทางไปสู่สวัสดิภาพของมวลมนุษยชาติ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทมส์ออฟอินเดีย รายงานว่า นายโมดีได้ย้ำระหว่างการหารือว่าอินเดียมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าความสัมพันธ์กับจีนบนพื้นฐานของการให้เกียรติ ความไว้วางใจ และความละเอียดอ่อนต่อความรู้สึก เขาอ้างถึงการพบกับนายสีครั้งหลังสุดที่เมืองคาซานของรัสเซียเมื่อปีก่อนว่าเป็นการหารือที่ได้ผลดียิ่ง นำมาซึ่งการดำเนินความสัมพันธ์ในทิศทางที่สร้างสรรค์ จากนั้นได้กล่าวถึงข้อตกลงของคณะผู้แทนพิเศษเรื่องการจัดการชายแดน ว่าได้ปูทางไปสู่การแก้ไขประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเส้นแบ่งเขตควบคุมตามความเป็นจริง (LAC) และขณะนี้การเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างอินเดียกับจีน ก็กลับมาเริ่มขึ้นอีกครั้ง ผู้นำอินเดียย้ำว่า ผลประโยชน์ของคน 2,800 ล้านคน ของทั้ง 2 ประเทศ โยงใยกับความร่วมมือของ 2 ฝ่าย ซึ่งจะปูทางไปสู่ความเป็นอยู่ที่ดีของมวลมนุษยชาติ พร้อมกับอวยพรให้จีนประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้หรือเอสซีโอ (SCO) และขอบคุณที่เชิญเขามาจีน ด้านประธานาธิบดีสี กล่าวว่า จีนและอินเดีย เป็น 2 ดินแดนอารยธรรมโบราณของโลกตะวันออก เป็น 2 ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก และเป็น 2 สมาชิกสำคัญของกลุ่มโลกใต้ (Global South) ที่ส่วนใหญ่เป็นประเทศกำลังพัฒนา ผู้นำจีนกล่าวว่า […]

protesters burn infrastructure in Indonesia

เหตุประท้วงบานปลาย ทำผู้นำอินโดฯ ยกเลิกไปจีน

จาการ์ตา 31 ส.ค. – ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ของอินโดนีเซีย ยกเลิกกำหนดการเดินทางไปจีน เนื่องจากเหตุประท้วงในอินโดนีเซีย บานปลาย มีรัฐสภาท้องถิ่นถูกวางเพลิงหลายแห่ง เดิมประธานาธิบดีปราโบโวมีกำหนดการเข้าร่วมชมขบวนพาเหรดเนื่องในวันชัยชนะที่จีนในวันที่ 3 กันยายน ฉลองครบ 80 ปีของการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 โฆษกประธานาธิบดีออกคลิปแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ว่า ประธานาธิบดีต้องการเฝ้าติดตามสถานการณ์ในประเทศด้วยตนเองและหาทางออกที่ดีที่สุด จึงได้ขออภัยต่อรัฐบาลจีนว่าไม่สามารถเดินทางไปตามคำเชิญได้ นอกจากนี้ประธานาธิบดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องยกเลิกกำหนดการเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 80 (UNGA80) ที่นครนิวยอร์กของสหรัฐ ในเดือนกันยายนด้วย การประท้วงในอินโดนีเซียเริ่มขึ้นในกรุงจาการ์ตา เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม โดยมีชนวนเหตุจากความไม่พอใจเรื่องการเสนอขึ้นค่าที่พักรายเดือนให้แก่สมาชิกรัฐสภา คิดเป็น 10 เท่าของค่าแรงขั้นต่ำในกรุงจาการ์ตา ซึ่งสูงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศอยู่แล้ว จากนั้นเกิดเหตุคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างออนไลน์ถูกรถหุ้มเกราะของตำรวจชนเสียชีวิต กระตุ้นให้ผู้คนออกมาชุมนุมในเมืองหลวง และบานปลายไปอีกหลายพื้นที่ เป็นบททดสอบใหญ่ครั้งแรกของรัฐบาลปราโบโวที่ขึ้นบริหารประเทศมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เมื่อเช้าวันเสาร์ผู้ประท้วงได้วางเพลิงอาคารรัฐสภาในจังหวัดนูซาเติงการาตะวันตก จังหวัดชวากลาง และจังหวัดชวาตะวันตก ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาสลายผู้ชุมนุมใน 2 จังหวัดแรก ส่วนเมื่อวันศุกร์มีการวางเพลิงอาคารรัฐสภาในจังหวัดสุลาเวสีใต้ ทำให้ผู้ติดอยู่ในอาคารเสียชีวิต 3 คน และมีคนได้รับบาดเจ็บเพราะกระโดดออกมาจากอาคาร 2 คน […]

Satellite imagery of storm Nongfa August 30, 2025

พายุหนองฟ้าขึ้นฝั่งเวียดนามวานนี้

ฮานอย 31 ส.ค.- พายุโซนร้อนหนองฟ้า (Nongfa) ได้เคลื่อนที่เข้าสู่เวียดนามช่วงเย็นวานนี้ ก่อนจะเคลื่อนเข้าสู่ภาคเหนือของ สปป.ลาว ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักจนถึงวันพรุ่งนี้ หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาของเวียดนามรายงานว่า พายุดีเปรสชัน ที่ทวีกำลังแรงขึ้นจนกลายเป็นพายุโซนร้อนหนองฟ้า ได้เคลื่อนตัวเข้าสู่จังหวัดกว๋างบิ่ญ ของเวียดนาม เมื่อช่วงเย็นวานนี้ อิทธิพลของพายุหนองฟ้า  ซึ่งเป็นชื่อทะเลสาบใน สปป.ลาว ส่งผลให้พื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ของเวียดนามเกิดฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายวานนี้จนเกิดน้ำท่วมขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดกว๋างจิ และจังหวัดห่าติ๋ญ บ้านเรือนถูกน้ำท่วมนับร้อยหลังคาเรือน ถนนหลายสายจมอยู่ใต้น้ำ คาดมีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 900 ครัวเรือน อย่างไรก็ดี พายุโซนร้อนหนองฟ้าได้อ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชัน และเคลื่อนปกคลุมพื้นที่ตอนบนของ สปป.ลาว คาดว่าจะส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศไทยมีฝนตกหนักต่อเนื่องไปจนถึงวันพรุ่งนี้ ส่วนพายุหนองฟ้าจะเคลื่อนต่อไปยังเมียนมา ผ่านนครย่างกุ้ง แล้วจึงสลายตัวประมาณวันที่ 2 กันยายน พายุหนองฟ้า นับเป็นพายุลูกที่ 6 ที่ก่อตัวขึ้นในทะเลจีนใต้ปีนี้ ขณะที่ก่อนหน้านี้ไต้ฝุ่นคาจิกิ (Kajiki) เพิ่งพัดเข้าสู่จังหวัดห่าติ๋ญของเวียเนามเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม คร่าชีวิตผู้คนแล้ว 6 ราย สูญหาย 2 คน บาดเจ็บอีก 47 […]

Ahmad Ghaleb al-Rahwi Prime minister of Yemen's Houthi government killed in Israeli strike file Aug19,2024

อิสราเอลสังหารนายกฯ และ รมต.ฮูตีในเยเมน

ซานา 31 ส.ค.- ฮูตีซึ่งปกครองเยเมน ทางตอนใต้ของคาบสมุทรอาหรับแจ้งว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหลายคนของฮูตีถูกสังหารจากการถูกอิสราเอลใช้ปฏิบัติการโจมตีในกรุงซานาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นายมาห์ดี อัลมาชัต ประธานสภาการเมืองสูงสุด ซึ่งเป็นคณะผู้ปกครองเยเมนที่กลุ่มฮูตีตั้งขึ้นในปี 2559 หลังจากบุกเข้ายึดครองกรุงซานาในปี 2557 เปิดเผยสั้น ๆ เมื่อวันเสาร์ว่า ปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอลนอกจากสังหารนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหลายคนแล้ว ยังทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคนด้วย รอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า ในกลุ่มผู้ถูกสังหารมีรัฐมนตรีพลังงาน รัฐมนตรีต่างประเทศ และรัฐมนตรีข่าวสารรวมอยู่ด้วย สำนักข่าวซาบา (Saba) ของฮูตีเผยแพร่ถ้อยแถลงของนายโมฮาเหม็ด อัลอะติฟี รัฐมนตรีกลาโหมฮูตีที่ประกาศว่า ฮูตีพร้อมเผชิญหน้าอิสราเอลในทุกระดับ หลังจากที่มีการยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีอาเหม็ด อัลราฮาวีของฮูตีถูกอิสราเอลสังหารพร้อมกับรัฐมนตรีหลายคน อิสราเอลแถลงเมื่อวันศุกร์ว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศมุ่งเป้าที่ผู้บริหาร รัฐมนตรีกลาโหม และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮูตี อิสราเอลกำลังตรวจสอบผลของปฏิบัติการอยู่ ต่อมานายอิสราเอล คัตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลแถลงเมื่อวันเสาร์ว่า การโจมตีดังกล่าวได้บดขยี้ฮูตี และเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ก่อนหน้านี้แหล่งข่าวความมั่นคงอิสราเอลเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีที่เป็นวันใช้ปฏิบัติการว่า เป้าหมายกระจายไปหลายจุด เป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮูตีรวมตัวกันชมการกล่าวสุนทรพจน์ทางโทรทัศน์ที่มีการบันทึกไว้ของนายอับดุล มาลิก อัลฮูตี วัย 46 ปี ซึ่งเป็นผู้นำฮูตีคนที่ 2 มาตั้งแต่ปี 2547.-814.-สำนักข่าวไทย

Australia says Iran behind two antisemitic attacks, to expel envoy

ออสเตรเลียพบเส้นทางการเงินโยงอิหร่านกับเหตุปองร้ายยิว

ซิดนีย์ 27 ส.ค.- ผู้นำออสเตรเลียเปิดเผยว่า หน่วยข่าวกรองเชื่อมโยงการก่อเหตุร้ายต่อต้านชาวยิวในออสเตรเลียว่าพัวพันกับอิหร่าน เนื่องจากพบเส้นทางการเงินของกลุ่มอาชญากรที่ถูกกล่าวหาว่าวางเพลิงโบสถ์ยิวในนครเมลเบิร์น นายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบาเนซี ของออสเตรเลียให้สัมภาษณ์บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงออสเตรเลียหรือเอบีซี (ABC) เมื่อวังอังคารว่า หน่วยงานข่าวกรองของออสเตรเลียมีหลักฐานแสดงให้เห็นว่า เหตุวางเพลิงร้านอาหารชาวยิวในนครซิดนีย์เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน และเหตุวางเพลิงโบสถ์ยิวในนครเมลเบิร์นเมื่อเดือนธันวาคมปีเดียวกัน เป็นไปตามคำสั่งของรัฐบาลอิหร่าน เขาจึงได้สั่งขับเอกอัครราชทูตอิหร่านออกนอกประเทศ พร้อมกับกล่าวชมเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงว่าปฏิบัติหน้าที่อย่างยอดเยี่ยมในการติดตามแหล่งเงินทุนของกลุ่มอาชญากรที่ถูกรัฐบาลอิหร่านใช้เป็นเครื่องมือ นายอัลบาเนซีแถลงต่อรัฐสภาในวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่ได้ย้อนกลับไปตรวจสอบเส้นทางการจ่ายเงินในประเทศและต่างประเทศให้แก่อาชญากรรายเล็กรายน้อย จนได้หลักฐานดังกล่าว และว่าเขาได้รับฟังรายงานสรุปจากองค์การข่าวกรองความมั่นคงออสเตรเลียเมื่อวันจันทร์ เรื่องหลักฐานที่เชื่อมโยงเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับคนในต่างประเทศกับกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน และได้สั่งการให้นักการทูตออสเตรเลียประจำอิหร่านเดินทางออกจากอิหร่านอย่างระมัดระวัง ด้านกระทรวงต่างประเทศอิหร่านแถลงปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงต่อข้อกล่าวหาของออสเตรลีย ขณะเดียวกันนายยูเนส อาลี ยูเนส วัย 20 ปี ซึ่งเป็นผู้อาศัยอยู่ในออสเตรเลียถูกนำตัวขึ้นศาลแขวงเมลเบิร์นในวันนี้ ในข้อหาขโมยรถและวางเพลิงโบสถ์ยิวเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมในขณะที่มีผู้อยู่ในโบสถ์ แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายโจวานนี เลาลู วัย 21 ปี ผู้ร่วมกระทำผิดขึ้นศาลไปเมื่อเดือนก่อนในข้อหาเดียวกัน นายโทนี เบิร์ก รัฐมนตรีหมาดไทยออสเตรเลียกล่าวว่า คนในออสเตรเลียที่ก่อเหตุร้ายเหล่านี้อาจทำไปโดยไม่รู้ว่าใครเป็นผู้เริ่มต้นสั่งการ เนื่องจากรับงานโดยผ่านคนกลางหลายคน หน่วยงานด้านความมั่นคงในอังกฤษและสวีเดนเคยเตือนเมื่อปี 2567 ว่า รัฐบาลอิหร่านกำลังใช้ตัวแทนที่เป็นอาชญากรดำเนินการก่อเหตุร้ายแรงในทั้ง 2 ประเทศนี้ รัฐบาลอังกฤษเปิดเผยว่า นับตั้งแต่ปี 2565 […]

Several villages hit by flood water in Pakistan’s Punjab province evacuate

เผยอินเดียเปิดประตูเขื่อนหลักทุกบานในแคชเมียร์

นิวเดลี 27 ส.ค.- แหล่งข่าวในรัฐบาลอินเดียเปิดเผยว่า อินเดียได้เปิดประตูเขื่อนหลักทุกบานที่กั้นแม่น้ำในแคชเมียร์ส่วนที่อยู่ภายใต้การปกครองของอินเดียแล้วในวันนี้ หลังจากที่ได้เตือนปากีสถานว่า อาจจะเกิดน้ำท่วมพื้นที่ที่อยู่ท้ายเขื่อน แหล่งข่าวอินเดียกล่าวว่า ปริมาณน้ำที่จะปล่อยน่าจะอยู่ที่ 200,000 ลูกบาศก์ฟุตต่อวินาที หรือราว 5.6 ล้านลูกบาศก์ลิตรต่อวินาที แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะปล่อยในคราวเดียวหรือทยอยปล่อยเป็นระยะ ที่ผ่านมาอินเดียได้ระบายน้ำออกจากเขื่อนอยู่เสมอเมื่อมีระดับน้ำเต็มเขื่อน และน้ำเหล่านี้จะไหลไปยังปากีสถานเนื่องจากทั้ง 2 ประเทศมีแม่น้ำหลายสายเป็นพรมแดนร่วมกัน รัฐบาลปากีสถานเปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเตือนล่วงหน้าจากรัฐบาลอินเดีย 2 ครั้งตั้งแต่วันอาทิตย์เรื่องจะปล่อยน้ำจากเขื่อน จึงได้แจ้งเตือนน้ำท่วมกับแม่น้ำ 3 สายที่ไหลมาจากอินเดีย โดยเฉพาะแคว้นปัญจาบ ทางตอนกลางค่อนไปทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงมากเป็นพิเศษที่จะเกิดน้ำท่วมจากฝนที่ตกหนักรวมกับน้ำที่อินเดียปล่อยจากเขื่อน แคว้นนี้เป็นแหล่งผลิตอาหารหลักของปากีสถานและมีคนอยู่อาศัยมากถึงครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศ 240 ล้านคน และในวันนี้ทางการปากีสถานได้ขอให้กองทัพเข้าไปช่วยเหลือประชาชนออกจากพื้นที่ในแคว้นปัญจาบที่เกิดน้ำท่วมแล้ว ขณะที่ผู้พลัดถิ่นเพราะน้ำท่วมมีมากกว่า 167,000 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมในปากีสถานที่เกิดขึ้นตั้งแต่เข้าสู่ฤดูมรสุมเมื่อปลายเดือนมิถุนายนจนถึงขณะนี้อยู่ที่ 802 คน ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม.-814.-สำนักข่าวไทย

Trump says he is prepared to impose economic sanctions on Russia

“ทรัมป์” เตรียมลงโทษเศรษฐกิจรัสเซียถ้าไม่ตกลงหยุดยิง

วอชิงตัน 27 ส.ค.- ผู้นำสหรัฐพร้อมจะใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย หากผู้นำรัสเซียไม่ยอมตกลงหยุดยิงในสงครามยูเครน โดยเตือนว่ารัสเซียจะต้องเผชิญกับความเสียหายอย่างร้ายแรงที่จะตามมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบขาวว่า เขาพร้อมที่จะใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย หากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียไม่ยอมตกลงหยุดยิงในสงครามยูเครน นายทรัมป์กล่าวว่า เขาจริงจังกับเรื่องนี้เพราะต้องการให้สงครามยูเครนจบลง และสาเหตุที่ต้องใช้มาตรการกดดันทางเศรษฐกิจกับรัสเซียเพราะไม่ต้องการทำสงครามโลก นายทรัมป์กล่าวว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็นสงครามเศรษฐกิจอันเลวร้ายและจะส่งผลเสียหายกับรัสเซียอย่างรุนแรง เขาเองไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนั้น แต่หากจำเป็นก็ต้องทำเพื่อสร้างสันติภาพ ขณะเดียวกันผู้นำสหรัฐยังคงเดินหน้าความพยายามในการยุติสงครามยูเครนระหว่างรัสเซียกับยูเครน ด้วยการผลักดันให้มีการเจรจากันโดยตรงระหว่างนายปูตินกับนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนให้เร็วที่สุด  ซึ่งนายเซเลนสกีตกลงในหลักการแล้ว แต่นายปูตินยังไม่ตกลง ทั้งนี้นายทรัมป์ประกาศตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมว่า จะทำให้สงครามยูเครนที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2565 ยุติทันที ด้านนายสตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษตะวันออกกลางและทูตพิเศษภารกิจสันติภาพของสหรัฐให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ว่า จะพบกับคณะผู้แทนยูเครนที่นครนิวยอร์กในสัปดาห์นี้ และได้หารือกับคณะผู้แทนรัสเซียอยู่ทุกวัน เขาเชื่อว่าผู้นำรัสเซียต้องการยุติสงคราม.-816(814).-สำนักข่าวไทย

Indian leather exporters

ภาษีทรัมป์เก็บอินเดีย 50% เริ่มมีผลวันนี้

เดลี 27 ส.ค.- ภาษีศุลกากรที่สหรัฐเรียกเก็บกับสินค้านำเข้าจากอินเดียสูงสุดถึงร้อยละ 50 เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกรายย่อยและการจ้างงานในอินเดีย ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเก็บภาษีสินค้านำเข้าส่วนใหญ่จากอินเดียในอัตราร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม และเก็บเพิ่มอีกร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันนี้ โดยอ้างว่าเพื่อลงโทษอินเดียที่นำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย รวมเป็นร้อยละ 50 กับสินค้าประเภทสิ่งทอ อัญมณี รองเท้า เครื่องกีฬา เฟอร์นิเจอร์ และสารเคมี สำนักงานศุลกากรและการป้องกันชายแดนของสหรัฐได้แจ้งไปยังบริษัทผู้ส่งสินค้าว่า สินค้าอินเดียที่ถูกลำเลียงขึ้นเรือและอยู่ระหว่างส่งเข้าสหรัฐก่อนเวลา 00.00 น.วันนี้ ตามเขตเวลาตะวันออกออมแสงของสหรัฐ (EDT) ซึ่งช้ากว่าไทย 11 ชั่วโมง จะยังคงเสียภาษีในอัตราเดิม โดยต้องเข้าสหรัฐก่อนเวลา 00.01 น.วันที่ 17 กันยายนตามเขตเวลาตะวันออกออมแสงของสหรัฐ ทั้งนี้ไม่ครอบคลุมถึงเหล็กและอลูมิเนียม รถยนต์นั่ง ทองแดง และสินค้าอีกหลายประเภทของอินเดียที่ถูกเก็บภาษีสูงสุดร้อยละ 50 ตามมาตรา 232 ของกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ เจ้าหน้าที่กระทรวงการค้าของอินเดียกล่าวว่า อินเดียเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 7.5 แต่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐแย้งว่า อินเดียเก็บภาษีสูงถึงร้อยละ […]

5 journalists died in Nasser Hospital in Gaza attacked by Israel

อิสราเอลอ้างเหตุถล่ม รพ. กาซาที่สื่อตาย 5 คน

เยรูซาเล็ม 27 ส.ค.- อิสราเอลอ้างสาเหตุที่โจมตีโรงพยาบาลในกาซา 2 ระลอกติดกันที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน ในจำนวนนี้เป็นสื่อ 5 คนว่า เป็นเพราะเชื่อว่ามีกล้องของกลุ่มฮามาสติดตั้งอยู่ที่โรงพยาบาลดังกล่าว ขณะที่คนในอิสราเอลชุมนุมใหญ่ทั่วประเทศเรียกร้องให้รัฐบาลทำข้อตกลงปล่อยตัวประกันและหยุดยิง กองกำลังป้องกันอิสราเอลหรือไอดีเอฟ (IDF) ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า ผลการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า กองกำลังจากกองพลน้อยโกลานีที่ปฏิบัติการในเมืองข่านยูนิส ทางตอนใต้ของกาซาได้ระบุว่า มีกล้องตัวหนึ่งที่ฮามาสติดตั้งไว้ในพื้นที่ของโรงพยาบาลนัสเซอร์ สำหรับสังเกตการณ์การเคลื่อนไหวของทหารอิสราเอลเพื่อก่อการร้ายกับทหารเหล่านี้ ไอดีเอฟซึ่งไม่ได้แสดงหลักฐานสนับสนุนการกล่าวอ้างดังกล่าวอ้างด้วยว่า สามารถสังหารผู้ก่อการร้ายได้ 6 คน พร้อมกับแสดงความเสียใจที่เกิดอันตรายกับพลเรือน และจะดำเนินการตรวจสอบต่อไปว่า เกิดความผิดพลาดใดในกระบวนการตัดสินใจโจมตี แถลงการณ์ทิ้งท้ายว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอิสราเอลได้ย้ำว่า ไอดีเอฟปฏิบัติการโดยมุ่งเป้าหมายทางทหารเท่านั้น สมาชิกฝ่ายการเมืองของฮามาสโต้แย้งว่า หากข้ออ้างของไอดีเอฟเป็นจริง ก็มีหลายวิธีที่จะจัดการกับกล้องตัวนั้นโดยไม่ต้องยิงปืนใหญ่ถล่มสถานพยาบาล ด้านองค์กรสื่อมวลชน องค์กรทางการแพทย์ และรัฐบาลหลายประเทศพากันประณามอิสราเอลที่โจมตีโรงพยาบาลนัสเซอร์ 2 ระลอกติดต่อกันเมื่อวันจันทร์ สังหารบุคลากรทางการแพทย์ ผู้สื่อข่าว และเจ้าหน้าที่กู้ภัยรวมอย่างน้อย 20 คน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ในวันเดียวกันว่า เป็นเหตุร้ายที่น่าเศร้าใจ ขณะเดียวกันผู้คนในอิสราเอลได้ร่วมกันชุมนุมใหญ่ทั่วประเทศเมื่อวันอังคาร เฉพาะในกรุงเทลอาวีฟผู้จัดงานคาดว่า มีคนเข้าร่วมการชุมนุมมากที่สุดไม่ต่ำกว่า 300,000 คน เรียกร้องให้รัฐบาลทำข้อตกลงปล่อยตัวประกันและหยุดยิงกับฮามาส.-814.-สำนักข่าวไทย

Major dust storm sweeps through Arizona State

สหรัฐเผชิญพายุทรายรุนแรง

แอริโซนา 26 ส.ค.- หลายพื้นที่ของสหรัฐกำลังเผชิญกับพายุทรายพัดกระหน่ำอย่างรุนแรงส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการจราจรและการใช้ชีวิตของประชาชน กำแพงพายุทรายขนาดใหญ่เกิดขึ้นในเทศมณฑลพินัล รัฐแอริโซนา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น สำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า พายุทรายครั้งนี้เป็นครั้งรุนแรงขอให้ผู้ขับขี่ยวดยานหยุดรถหากพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้เนื่องจากทัศวิสัยย่ำแย่ สถานการณ์พายุฝุ่นรุนแรงเช่นนี้เรียกว่า haboob มักเกิดขึ้นในช่วงมรสุมฤดูร้อนในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐ ขณะนี้พายุทรายได้พัดปกคลุมไปทั่วทั้งรัฐแอริโซนา โดยที่เมืองฟีนิกซ์มีรายงานว่า สนามบินนานาชาติสกายฮาร์เบอร์มีเที่ยวบินล่าช้ากว่า 200 เที่ยวในวันนี้ เนื่องจากองค์การบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐหรือเอฟเอเอ (FAA) มีคำสั่งให้ระงับการขึ้นลงของเครื่องบินเป็นเวลาราว 1 ชั่วโมงช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ส่วนที่เมืองเกอร์ลาชในรัฐเนวาดา ทางตะวันตกของสหรัฐพายุทรายส่งกระทบอย่างหนักต่อการจัดงานเทศกาลเบิร์นนิ่ง แมน (Burning Man) ซึ่งเป็นเทศกาลดนตรีและศิลปะกลางทะเลทราย เนื่องจากพายุทรายที่พัดถาโถมอยู่ตลอดเวลาด้วยความเร็วลม 48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วลมกระโชกสูงกว่า 72 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ไม่สามารถทำอะไรได้ โดยเฉพาะการตั้งเต็นท์พักแรม งานกำหนดมีขึ้นระหว่างวันที่ 24 สิงหาคมไปจนถึงวันที่ 1 กันยายน คาดว่าในปีนี้จะมีผู้มาร่วมงานราว 70,000 คน.-816(814).-สำนักข่าวไทย

1 6 7 8 9 10 697