U.S.Embassy's statement on fighting on the Thailand-Cambodia border with border

สถานทูตสหรัฐเตือนชาวอเมริกันที่อยู่ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – สถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทยแจ้งเตือนพลเรือนอเมริกันที่อาศัยหรือเดินทางใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ให้ปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานความมั่นคงของไทย หลังเกิดเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เว็บไซต์สถานทูตสหรัฐและสถานกงสุลในประเทศไทย แจ้งเตือนด้วยหัวเรื่อง “การสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา” ว่า สถานทูตฯ ได้รับรายงานในวันนี้ (24 กรกฎาคม 2568) เรื่องการสู้รบ ซึ่งรวมถึงการยิงจรวดและยิงปืนใหญ่ ระหว่างกองกำลังกัมพูชากับไทย ตามแนวพรมแดน มีรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และรัฐบาลไทยได้สั่งให้อพยพประชาชนในบางพื้นที่ ดังนั้น ขอให้พลเรือนอเมริกันที่อาศัยหรือเดินทางใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานความมั่นคงของไทย และขอข้อมูลล่าสุดจากทางการท้องถิ่นของไทย.-814.-สำนักข่าวไทย

South Korea's seminar on digital in Southeast Asia

เกาหลีใต้ส่งเสริมความสามารถนวัตกรรมดิจิทัลในอาเซียน

กรุงเทพฯ 24 ก.ค.-  เกาหลีใต้จัดการเสวนาส่งเสริมความสามารถด้านนวัตกรรมดิจิทัลให้แก่ประเทศสมาชิกอาเซียน ตอกย้ำพันธกิจร่วมในการสร้างระบบธรรมาภิบาลดิจิทัลที่ยั่งยืนในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมารัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีร่วมกับศูนย์ฝึกอบรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียและแปซิฟิกแห่งสหประชาชาติ (UN-APCICT) จัดเวทีเสวนาว่าด้วยการส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ผ่านนวัตกรรมภาครัฐในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านนวัตกรรมดิจิทัลและส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาค โดยมีผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียนและองค์กรระหว่างประเทศให้ความสนใจเข้าร่วมแลกเปลี่ยนยุทธศาสตร์การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เวทีเสวนาในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากนายปาร์ค ยงมิน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย, คุณหลิน หยาง รองเลขาธิการบริหารฝ่ายโครงการของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (UNESCAP) และนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ร่วมกล่าวเปิดงาน โดยเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลในการผลักดันนวัตกรรมภาครัฐและการเติบโตอย่างมีส่วนร่วม รวมถึงการยกระดับความร่วมมือภายในภูมิภาคอาเซียนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ในช่วงแรกของงานเป็นการนำเสนอเรื่องการเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก โดยผู้แทนจากบรูไน อินโดนีเซีย สปป.ลาว สาธารณรัฐเกาหลี และไทย ได้ร่วมแบ่งปันยุทธศาสตร์ระดับชาติในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อยกระดับการดำเนินงานของภาครัฐ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาบริการสาธารณะให้มีประสิทธิภาพ การมีส่วนร่วมของประชาชน และการสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ทั้งนี้ ผู้แทนแต่ละประเทศได้แลกเปลี่ยนถึงความท้าทายต่าง ๆ เช่น ความต่างด้านศักยภาพเชิงสถาบัน ความเหลื่อมล้ำระหว่างภูมิภาค และความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นของกรอบนโยบายที่ชัดเจนและความร่วมมือข้ามพรมแดนเพื่อเร่งรัดการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอย่างยั่งยืน ช่วงที่สองเป็นเวทีเสวนาภายใต้หัวข้อ “การให้บริการสาธารณะด้วย AI” โดยมีผู้แทนจากอินโดนีเซีย สปป.ลาว ไทย สาธารณรัฐเกาหลี และสำนักเลขาธิการอาเซียนร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น […]

person walks on cracked ground in Mexico Jun 2024

TNA News-Now-Next: อาหารแพงจากโลกรวน สัญญาณเตือนก่อนโลกวิกฤต

บริสตอล 23 ก.ค.- ปี 2567 ที่ผ่านมาไม่เพียงเป็นปีที่โลกร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ แต่ยังเป็นปีที่ราคาอาหารทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์เช่นกัน เสี่ยงส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของหลายประเทศ โลกร้อนขึ้น 1.5 องศาเซลเซียสจากยุคก่อนอุตสาหกรรม ไอโอพีไซเอินซ์ (IOPscience) ซึ่งเป็นบริการออนไลน์ของวารสารที่ตีพิมพ์โดยไอโอพีพับลิชชิง (IOP Publishing) สำนักพิมพ์งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่มีสำนักงานใหญ่ที่สหราชอาณาจักร ได้เผยแพร่รายงานการวิจัยฉบับใหม่เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมของนายแม็กซิมิลิอัน ค็อตซ์ และคณะ (Maximilian Kotz et al) เรื่องสภาพอากาศสุดขั้ว ราคาอาหารพุ่ง และความเสี่ยงทางสังคมในวงกว้าง ข้อมูลจากรายงานระบุว่า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกสูงขึ้น 1.5 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรม เรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) หลังจากที่ได้ทบทวนงานวิจัยจากหลายประเทศ และถือว่าใกล้ถึงขีดอันตรายที่รัฐบาลนานาชาติรับปากไว้ในข้อตกลงปารีสปี 2558 ว่า จะช่วยกันจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงขึ้น 2 องศาเซลเซียสจากยุคก่อนอุตสาหกรรม อุณหภูมิที่พุ่งสูงไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่มาพร้อมกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง ทั้งน้ำท่วมใหญ่ในยุโรป คลื่นความร้อนคร่าชีวิตผู้คนในเม็กซิโกและซาอุดีอาระเบีย ภัยแล้งในอิตาลีและอเมริกาใต้ พายุไซโคลนถล่มสหรัฐและฟิลิปปินส์อย่างต่อเนื่อง นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ภัยพิบัติธรรมชาติเหล่านี้รุนแรงและบ่อยครั้งขึ้น และหนึ่งในผลกระทบที่ประชาชนทั่วโลกสัมผัสได้ชัดเจนที่สุดคือ ราคาสินค้าอาหารที่พุ่งสูงขึ้น […]

Satellite timelapse shows Typhoon Wipha making landfall

พายุ “วิภา” เข้า สปป.ลาว

เวียงจันทน์ 23 ก.ค.- พายุโซนร้อนวิภา (Wipha) ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นและเคลื่อนตัวเข้าสู่ สปป.ลาวเมื่อช่วงก่อนรุ่งสางที่ผ่านมา หลังจากพัดขึ้นฝั่งเวียดนามเมื่อวานนี้ พายุโซนร้อนวิภาได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นเมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลาเดียวกันในไทย และเคลื่อนตัวขึ้นฝั่ง สปป.ลาวเมื่อเวลา 04.00 น.โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางที่ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้มีฝนตกหนักและกระแสลมแรงในหลายพื้นที่ทางตอนเหนือ รวมทั้งในนครหลวงเวียงจันทน์ และแขวงหลวงพระบาง คาดว่าจะมีฝนตกหนักตลอดทั้งวันในวันนี้ ขณะที่พายุกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วลม 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำต่อไป ส่วนเมื่อช่วงสายวานนี้ พายุโซนร้อนวิภาได้พัดขึ้นฝั่งทางตอนเหนือของเวียดนาม ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและกระแสลมแรง แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของเวียดนามรายงานว่า มีเรือประมงล่มนอกชายฝั่งจังหวัดกว๋างนิญ แต่ลูกเรือทั้ง 9 คนได้รับการช่วยชีวิต ล่าสุดท่าอากาศยานและท่าเรือในจังหวัดกว๋างนิญและเมืองไฮฟองที่ปิดทำการไปเมื่อวานนี้ ได้เปิดทำการแล้ว.-816(814).-สำนักข่าวไทย

cars waiting for export in China

ยานยนต์อเมริกันกังวลหลัง ‘ทรัมป์’ ลดภาษีให้ญี่ปุ่น

วอชิงตัน 23 ก.ค.- ตัวแทนบริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่ 3 แห่งในสหรัฐแสดงความกังวลเรื่องข้อตกลงการค้าสหรัฐกับญี่ปุ่นที่สหรัฐจะลดอัตราภาษีศุลกากรให้แก่สินค้านำเข้าทั้งหมดของญี่ปุ่น รวมถึงยานยนต์เหลือร้อยละ 15 สภานโยบายยานยนต์อเมริกันหรือเอเอพีซี (AAPC) ซึ่งเป็นตัวแทนของเจนเนอรัลมอเตอร์สหรือจีเอ็ม ฟอร์ดมอเตอร์ และสเตลแลนทิสที่เป็นบริษัทแม่ของไครสเลอร์เปิดเผยว่า กำลังตรวจดูข้อตกลงดังกล่าว หากยานยนต์นำเข้าจากญี่ปุ่นที่ไม่มีชิ้นส่วนใด ๆ จากสหรัฐเลยได้อัตราภาษีศุลกากรต่ำกว่ายานยนต์ผลิตในอเมริกาเหนือที่มีชิ้นส่วนจากสหรัฐในสัดส่วนสูง ย่อมเป็นข้อตกลงที่ไม่ดีสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐและคนทำงานในอุตสาหกรรมนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐประกาศผ่านทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเมื่อวานนี้ว่า บรรลุข้อตกลงครั้งใหญ่กับญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นจะลงทุนโดยตรงในสหรัฐมูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 17.7 ล้านล้านบาท) จะเปิดประเทศให้แก่การค้ารถยนต์และรถบรรทุก ข้าวและสินค้าการเกษตร และสินค้าอีกหลายอย่าง และจะจ่ายภาษีศุลกากรให้สหรัฐในอัตราร้อยละ 15 ก่อนหน้านี้นายทรัมป์ประกาศเมื่อวันที่ 26 มีนาคมว่า เก็บภาษียานยนต์นำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลกในอัตราร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน ทำให้ยานยนต์จากแคนาดาและเม็กซิโกซึ่งมีข้อตกลงการค้ากับสหรัฐถูกเรียกเก็บอัตราดังกล่าวด้วย หากไม่มีชิ้นส่วนจากสหรัฐ เอเอพีซีเคยวิจารณ์นายทรัมป์เมื่อครั้งบรรลุข้อตกลงกับอังกฤษในเดือนพฤษภาคมว่า จะเป็นอันตรายต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ จากการให้โควต้าอังกฤษส่งออกยานยนต์มาสหรัฐโดยเสียภาษีร้อยละ 10 ได้ปีละ 100,000 คัน ซึ่งเกือบเท่าจำนวนที่อังกฤษส่งออกมาสหรัฐเมื่อปีก่อนอยู่แล้ว.-814.-สำนักข่าวไทย

Trump and Marcos Jr. talk in Oval Office

“ทรัมป์” ประกาศเก็บภาษีฟิลิปปินส์ 19%

วอชิงตัน 23 ก.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ประกาศว่า สหรัฐจะเก็บภาษีศุลกากรกับฟิลิปปินส์ในอัตราร้อยละ 19 ขณะที่สินค้าอเมริกันจะเข้าฟิลิปปินส์โดยเสียภาษีร้อยละ 0 ประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขา หลังจากพบหารือกับประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอสของฟิลิปปินส์ที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า เป็นการเยือนที่งดงามและสามารถสรุปข้อตกลงการค้าที่ฟิลิปปินส์จะเปิดตลาดให้แก่สหรัฐด้วยการเก็บภาษีศุลกากรร้อยละ 0 และจะจ่ายภาษีศุลกากรให้สหรัฐร้อยละ 19 เขากล่าวด้วยว่า สหรัฐและฟิลิปปินส์ที่จะฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 80 ปีในปีหน้า จะทำงานด้านการทหารร่วมกัน แต่ไม่ได้เปิดเผยในรายละเอียด อัตราภาษีศุลกากรดังกล่าวต่ำกว่าที่ผู้นำสหรัฐส่งจดหมายถึงฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมว่า จะเก็บภาษีฟิลิปปินส์ร้อยละ 20 แต่สูงกว่าที่เขาประกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายนว่า จะเก็บร้อยละ 17 อัตราภาษีล่าสุดของฟิลิปปินส์เท่ากับอัตราที่สหรัฐตกลงเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะเรียกเก็บจากอินโดนีเซียร้อยละ 19 และต่ำกว่าเวียดนามเล็กน้อยที่ถูกสหรัฐเรียกเก็บร้อยละ 20 ผู้นำฟิลิปปินส์เป็นผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนแรกที่ไปพบนายทรัมป์ขณะเป็นผู้นำสหรัฐเป็นสมัยที่ 2 เขากล่าวกับสื่อก่อนเริ่มการหารือว่า สหรัฐเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุด ใกล้ชิดที่สุด และไว้วางใจได้มากที่สุดของฟิลิปปินส์ แต่ไม่ได้แสดงความเห็นใด ๆ หลังจากที่นายทรัมป์ประกาศอัตราภาษี ปีที่แล้วฟิลิปปินส์ได้ดุลการค้าสหรัฐเกือบ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 161,045 ล้านบาท) จากการค้าทวิภาคีมูลค่า 23,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ […]

Hun Manet in camouflage uniform

“ฮุน มาเนต” โพสต์ย้ำเตือนไทย 5 ข้อ

พนมเปญ 22 ก.ค. – ผู้นำกัมพูชากล่าวหาไทยว่ากล่าวโทษกัมพูชาในหลายเรื่อง ซึ่งไม่เป็นความจริง และได้โพสต์ย้ำเตือนไทยใน 5 ข้อด้วยกัน นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความลงในสื่อสังคมออนไลน์ในวันนี้ว่า ผู้นำทางการเมืองของไทย กองทัพ และสื่อมวลชนของไทยได้กล่าวหากัมพูชาอย่างเลื่อนลอยในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการแทรกแซงการเมืองภายในของไทย เรื่องทุ่นระเบิด และเรื่องขู่จะดำเนินมาตรการฝ่ายเดียวในพื้นที่ขัดแย้ง เช่น พื้นที่สามเหลี่ยมมรกต ปราสาทตาเมือนธม เป็นต้น   โพสต์ของนายฮุน มาเนต ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องของกัมพูชาได้ดำเนินการตอบโต้ข้อกล่าวหาของฝั่งไทยอย่างแข็งขัน เพื่อปกป้องบูรณภาพของกัมพูชา และได้เตรียมพร้อมที่จะดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพิ่มเติม เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของกัมพูชา เขาไม่ต้องการพูดให้ยืดยาว และขอส่งคำย้ำเตือนสั้นๆ 5 ข้อมายังฝ่ายไทยดังนี้ 1.ในพื้นที่หรือสถานที่ที่มีข้อพิพาทหรือยังไม่มีการกำหนดเขตแดนอย่างชัดเจน ไม่มีฝ่ายใดที่จะมีสิทธิดำเนินการหรือใช้มาตรการแต่เพียงฝ่ายเดียวได้ การดำเนินการทั้งหมดจะต้องได้รับความยินยอมจากทั้งสองฝ่ายเสียก่อน 2.ขีดจำกัด คือ ขีดจำกัด ที่ไม่สามารถล้ำเส้นได้ โปรดอย่าละเมิด 3.กัมพูชาไม่เคยละเมิดใคร แต่ก็จะไม่ยอมให้ใครมาละเมิดเช่นกัน กัมพูชามีขีดความสามารถเพียงพอและเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ในการใช้ทุกวิถีทางปกป้องตนเองและปกปักรักษาบูรณภาพแห่งดินแดนจากการละเมิด 4.วิธีการกล่าวหาหรือกล่าวโทษผู้อื่นเป็นเรื่องที่ไร้จริยธรรมและไร้ความซื่อสัตย์ จึงไม่ควรนำมาใช้หากปรารถนาอย่างแท้จริงที่จะสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน 5.กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะหาแนวทางแก้ไขประเด็นเหล่านี้ ด้วยวิธีการที่ไม่รุนแรง เพื่อให้มีการแก้ปัญหาที่รวดเร็ว ชัดเจน และยั่งยืน.-816(814).-สำนักข่าวไทย

Statue submerged from flood in Manila

น้ำท่วมทั่วฟิลิปปินส์ หลัง “วิภา” พัดหลายวันก่อน

มะนิลา 22 ก.ค. – เกิดน้ำท่วมสูงทั่วฟิลิปปินส์ รวมทั้งกรุงมะนิลา และจังหวัดใกล้เคียง ในวันนี้ อันเป็นผลจากฝนตกหนักในฤดูมรสุม และฝนตกเพิ่มเติมจากพายุวิภา (Wipha) ที่พัดกระหน่ำพื้นที่ทางเหนือของฟิลิปปินส์ เมื่อสัปดาห์ก่อน ประชาชนเดินลุยน้ำท่วมสูงที่มีตั้งแต่ระดับเข่าไปจนถึงระดับเอว ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำลำคลองต้องอพยพหนีน้ำท่วมกันกลางดึก บางบ้านน้ำท่วมสูงจนถึงชั้นสอง ทางการประกาศปิดสถานศึกษาเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ยกเลิกเที่ยวบิน และระงับการทำงานภาครัฐบางส่วน สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติรายงานว่า ประชาชนหลายพันครอบครัวยังต้องอาศัยอยู่ตามศูนย์พักพิง เนื่องจากฝนยังตกหนักอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนวิภาที่พัดผ่านตอนเหนือของประเทศเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พายุลูกนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน และสูญหายอีก 7 คน ประชาชนกว่า 8 แสนคน ได้รับผลกระทบ นักอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า จะมีฝนตกเพิ่มเติมในพื้นที่ที่มีฝนตกหนักอยู่แล้ว เนื่องจากตรวจพบหย่อมความกดอากาศต่ำใหม่ 2 แห่ง.-816(814).-สำนักข่าวไทย

US Treasury secretary

สหรัฐไม่รีบเพื่อให้ได้ข้อตกลงการค้าก่อน 1 ส.ค.

วอชิงตัน 22 ก.ค. – สหรัฐเปิดเผยว่า ให้ความสำคัญกับคุณภาพของข้อตกลงการค้า มากกว่าจะรีบบรรลุข้อตกลงให้ได้ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งเป็นเส้นตายที่สหรัฐให้ประเทศต่างๆ ทำข้อตกลงการค้าก่อนถูกเก็บภาษีอัตราสูง ด้านอียูเตรียมหามาตรการตอบโต้สหรัฐ นายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) เมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า สหรัฐจะไม่รีบทำข้อตกลง ต่อข้อถามว่าสหรัฐจะขยายเส้นตายให้แก่ประเทศที่กำลังมีการเจรจาเชิงสร้างสรรค์กับสหรัฐหรือไม่ นายเบสเซนต์ตอบว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นผู้ตัดสินใจ นายเบสเซนต์กล่าวถึงการเจรจาการค้ากับจีนว่า จะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ และน่าจะเริ่มพูดคุยกันในประเด็นอื่น เช่น เรื่องที่จีนเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ของน้ำมันอิหร่านและน้ำมันรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตร และกล่าวถึงเรื่องการเมืองภายในประเทศของญี่ปุ่นว่า สหรัฐให้ความสนใจน้อยกว่าเรื่องที่สหรัฐจะได้ข้อตกลงที่ดี ด้านแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีทรัมป์อาจจะหารือการค้ากับประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ที่ทำเนียบขาวในวันนี้ ขณะนี้รัฐบาลยังคงติดต่อกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก อาจจะมีการประกาศข้อตกลงการค้าเพิ่มเติม หรือส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีศุลกากรเพิ่มเติมอีกก่อนวันที่ 1 สิงหาคม ขณะเดียวกันนักการทูตของสหภาพยุโรปหรืออียูเปิดเผยว่า กำลังหามาตรการตอบโต้สหรัฐที่กว้างขวางมากขึ้น ส่งสัญญาณว่าความหวังที่จะบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐเริ่มเลือนราง อียูกำลังพิจารณาใช้มาตรการต่อต้านการบีบบังคับที่จะนำมาซึ่งการสกัดบริการของสหรัฐหรือจำกัดการเข้าถึงโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ในกรณีที่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างกัน.-814.-สำนักข่าวไทย

Martin Luther King, Jr.

เปิดเอกสารคดีลอบยิงมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

วอชิงตัน 22 ก.ค.- กระทรวงยุติธรรมสหรัฐเปิดเผยเอกสารมากกว่า 240,000 หน้าที่เกี่ยวข้องกับเหตุลอบสังหารมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ นักต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองคนผิวดำในสหรัฐ เอกสารดังกล่าวถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์ของสำนักงานจดหมายเหตุและบันทึกแห่งชาติของสหรัฐ https://www.archives.gov/ ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระของรัฐบาลสหรัฐ และระบุว่าจะมีการเปิดเผยเอกสารตามมาอีก นายคิงถูกลอบยิงที่เมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซีเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2511 เป็นช่วงที่เขาใช้การรณรงค์อย่างสันติเรียกร้องในประเด็นที่กว้างขวางขึ้นครอบคลุมในเรื่องเศรษฐกิจและสันติภาพ จากเดิมที่รณรงค์เรื่องสิทธิเท่าเทียมของชาวอเมริกันแอฟริกัน การเสียชีวิตของเขาเพิ่มความปั่นป่วนให้แก่สหรัฐที่ในปีนั้นเผชิญเหตุจลาจลทางสีผิว การประท้วงต่อต้านสงครามเวียดนาม และเหตุลอบสังหารนายโรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ เมื่อต้นปีนี้รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เผยแพร่เอกสารดิจิทัลหลายพันหน้าเกี่ยวกับเหตุลอบสังหารนายโรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี และเหตุลอบยิงประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี ที่เกิดขึ้นในปี 2506 นายทรัมป์รับปากในช่วงหาเสียงเลือกตั้งว่า จะสร้างความกระจ่างให้แก่เหตุลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีเคนเนดี และเมื่อรับตำแหน่งประธานาธิบดีเขาได้สั่งการให้เตรียมการเปิดเผยบันทึกที่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารนายโรเบิร์ต เอฟ เคนเนดีและนายคิงด้วย สำนักสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเก็บบันทึกเกี่ยวกับนายคิงในช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1950 และ 1960 รวมทั้งดักฟังโทรศัพท์ เนื่องจากสงสัยในเวลานั้นว่า นายคิงติดต่อกับลัทธิคอมมิวนิสต์ในช่วงสงครามเย็น เอฟบีไอยอมรับในช่วงหลายปีมานี้ว่า เป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบและเกินเลย ด้านครอบครัวของนายคิง ซึ่งรวมถึงลูกที่ยังมีชีวิตอยู่ […]

Massive dark cloud above Zhuhai city in Guangdong province as Typhoon Wipha made landfall.

ไต้ฝุ่นวิภาส่งผลกระทบหลายประเทศ

ไถซาน 21 ก.ค.- หลายประเทศในเอเชียกำลังได้รับผลกระทบจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่ขณะนี้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว ข้อมูลในเว็บไซต์แอคคิวเวเธอร์ (AccuWeather) ระบุเมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ตามเวลาไทยว่า พายุโซนร้อนวิภากำลังเคลื่อนตัวห่างจากรุงฮานอยของเวียดนามประมาณ 280 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางที่ 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีความเร็วลมกระโชกสูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไต้ฝุ่นวิภาพัดขึ้นฝั่งบริเวณเมืองไถซาน มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีนเมื่อเย็นวานนี้ ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรง โดยในขณะที่พัดขึ้นฝั่งนั้นพายุมีความเร็วลมเทียบเท่ากับเฮอริเคนระดับที่ 1 จากนั้นได้อ่อนกำลังลงระหว่างที่เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตก ก่อนเปลี่ยนทิศเคลื่อนลงสู่ทางใต้  สำนักพยากรณ์อากาศของจีนเตือนว่า พื้นที่ชายฝั่งบริเวณมณฑลกวางตุ้ง กว่างซี ไห่หนานหรือไหหลำ และฝูเจี้ยนจะมีฝนตกหนักไปจนถึงเช้าวันอังคาร อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม และลมพัดแรง พร้อมกับพยากรณ์ว่า พายุจะทวีกำลังแรงขึ้นในขณะเคลื่อนตัวผ่านอ่าวตังเกี๋ยในวันนี้ ก่อนไปขึ้นฝั่งทางเหนือของเวียดนามในเช้าวันอังคาร ด้านทางการเวียดนามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในจังหวัดชายฝั่งโดยเตือนว่า พายุโซนร้อนวิภากำลังแรงจะทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มรุนแรง นายกรัฐมนตรีฝั่ม มิงห์ จิ๋งห์ ได้ส่งข้อความด่วนไปถึงจังหวัดชายฝั่งเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ให้เรียกเรือกลับเข้าฝั่ง อพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง จัดเตรียมอาหารและอุปกรณ์กู้ภัย รวมทั้งดูแลโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารให้พร้อมใช้งาน นอกจากนี้ยังยกเลิกเที่ยวบินและปรับตารางเที่ยวบินบางส่วนทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ทั้งนี้ก่อนหน้าพัดเข้าจีน พายุวิภาได้พัดผ่านทางตอนใต้ของเกาะฮ่องกงในขณะที่เป็นไต้ฝุ่นเมื่อวานนี้ ส่งผลให้ต้นไม้หักโค่นระเนระบาด 471 ต้น […]

Torrential rain and flooding in South Korea

เกาหลีใต้เสียหายหนักจากน้ำท่วม

คาพย็อง 21 ก.ค.- เกาหลีใต้ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากสถานการณ์น้ำท่วมและฝนตกหนักที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 18 คน โดยเฉพาะที่อำเภอคาพยอง ซึ่งเป็นอำเภอตากอากาศ ชานกรุงโซล กระทรวงมหาดไทยของเกาหลีใต้แจ้งว่า ฝนที่ตกหนักมาหลายวัน ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม มีทรัพย์สินทั้งของรัฐและเอกชนเสียหายรวมกว่า 4,000 แห่ง ยอดผู้เสียชีวิตทั่วประเทศนับจนถึงเช้าวันนี้อยู่ที่ 18 คน มีผู้สูญหายอยู่ 9 คน ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยล้วนตกอยู่ในภาวะตกใจจนไม่สามารถทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้  เฉพาะที่อำเภอคาพย็อง จังหวัดคยองกี ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 62 กิโลเมตร ฝนตกหนักถึง 173 มิลลิเมตร ในช่วง 17 ชั่วโมงของวันอาทิตย์ ทำลายสถิติฝนตกหนักที่สุดในวันเดียว 156.3 มิลลิเมตรเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2541 ดินถล่มและน้ำจากแม่น้ำที่เอ่อล้นตลิ่งได้เข้าท่วมอาคารบ้านเรือนพังเสียหาย รวมถึงร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เจ้าของร้านวัย 65 ปี สิ้นเนื้อประดาตัว เธอเปิดใจทั้งน้ำตาว่า ข้าวของต่าง ๆ ในร้านถูกน้ำพัดไปจนหมด กระแสน้ำท่วมสูงจนถึงคอ โชคดีที่เธอฉวยยึดท่อเหล็กที่อยู่ใกล้ ๆ เอาไว้จึงเอารอดชีวิตมาได้   ประธานาธิบดีอี แจ มยองสั่งการหน่วยงานต่าง […]

1 16 17 18 19 20 697