ชาวกรุงวอชิงตันไม่พอใจมาตรการ ‘ทรัมป์’

วอชิงตัน 14 ส.ค. – ประชาชนในกรุงวอชิงตันของสหรัฐออกมาประท้วงที่ด่านตรวจของตำรวจและมีการรวมกลุ่มตามสองข้างถนนเนื่องจากไม่พอใจมาตรการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการปราบปรามอาชญากรรมและคนไร้บ้าน ด้วยการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงวอชิงตัน นายทรัมป์สั่งยึดอำนาจตำรวจเมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมาและส่งทหารจากกองกำลังพิทักษ์มาตูภูมิ 800 นายเข้ามาปราบปรามอาชญากรรม ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับที่เคยใช้ในนครลอสแองเจลีสเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นายทรัมป์ให้เหตุผลว่าเวลานี้กรุงวอชิงตันกำลังเผชิญปัญหาอาชญากรรมอย่างรุนแรงและมีปัญหาเรื่องคนไร้บ้านอย่างกว้างขวาง ทั้งๆ ที่ในช่วงนี้สถิติในการก่ออาชญากรรมลดลงอย่างมากหลังจากที่เคยพุ่งสูงสุดเมื่อปี 2566.-816.-สำนักข่าวไทย

ตำรวจมาลเซียมุ่งสอบสวนการตายของนักเรียนหญิงวัย 13 เป็นคดีอาญา

กัวลาลัมเปอร์ 14 ส.ค. – การสืบสวนคดีการเสียชีวิตของ ซารา ไครีนา มาหาเธร์ (Zara Qairina Mahathir) วัย 13 ปี นักเรียนระดับฟอร์มวัน หรือ เท่ากับชั้น ม.1 ของไทยจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองปาปาร์ รัฐซาบาห์ ของมาเลเซีย ซึ่งเดิมทีจัดเป็นกรณีการเสียชีวิตอย่างกะทันหัน แต่ขณะนี้จะมุ่งเน้นไปที่องค์ประกอบทางอาญาที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงประเด็นการกลั่นแกล้ง หรือ การบุลลี สำนักช่าวเบอร์นามา ของทางการมาเลเซียรายงานวันพุธว่า ดาตุก เอ็ม กุมาร ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนคดีอาญา หรือ ซีไอดี (CID) กล่าวในการแถลงข่าววันพุธว่า การสอบสวนที่จะมุ่งเน้นในแนวทางคดีอาญานี้เป็นผลจากการสืบสวนของทีมพิเศษของซีไอดีที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ 9 นาย ซึ่งถูกส่งไปยังรัฐซาบาห์เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมเพื่อสอบสวนคดีนี้ สำนักงานอัยการสูงสุด หรือ เอจีซี (AGC) ประกาศวันพุธว่าจะดำเนินการไต่สวนสวนคดีการเสียชีวิตของซารา ไครีนา หลังจากตรวจสอบรายงานการสอบสวนที่ได้รับจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซียแล้ว การไต่สวนจะดำเนินการเพื่อหาสาเหตุและพฤติการณ์ที่นำไปสู่การเสียชีวิตของเธอ กุมารกล่าวว่า การชันสูตรพลิกศพยืนยันว่า ซารา ไครีนา เสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บที่สมองอย่างรุนแรงเนื่องจากการขาดออกซิเจนและขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง […]

รัสเซียเตรียมนำเรือลาดตระเวนพลังนิวเคลียร์ทดสอบ

วลาดีวอสตอก 14 ส.ค. – สื่อท้องถิ่นของรัสเซียรายงานวานนี้ว่า แอดมิรัล นาคิมอฟ (Admiral Nakhimov) เรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ของรัสเซีย จะเริ่มการทดสอบทางทะเลในเดือนสิงหาคมหรือกันยายนนี้ สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า สื่อท้องถิ่นอ้างอิงแหล่งข่าวจากอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของรัสเซีย รายงานว่าปัจจุบันเรือลาดตระเวนลำดังกล่าวอยู่ในระยะสุดท้ายของการเตรียมพร้อมเข้าสู่การทดสอบทางทะเล โดยระบบ หน่วยต่างๆ และอุปกรณ์ทั้งหมด อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และกำลังจัดตั้งทีมลูกเรือสำหรับการส่งมอบ เมื่อเดือนกรกฎาคม อันเดรย์ คอสติน ประธานธนาคารวีทีบี (VTB) ของรัสเซีย และประธานคณะกรรมการบริหารของบริษัท ยูไนเต็ด ชิปบิลดิง คอร์ปอเรชั่น (United Shipbuilding Corporation) กล่าวว่างานซ่อมแซมเรือแอดมิรัล นาคิมอฟ เสร็จสิ้นลงแล้ว และเรือลำดังกล่าวพร้อมสำหรับการทดสอบแล้ว แอดมิรัล นาคิมอฟ ซึ่งเป็นเรือลาดตระเวนประจัญบานชั้นคิรอฟ (Kirov) เป็นเรือรบผิวน้ำขนาดใหญ่ที่สุดในกองทัพเรือรัสเซีย มีระวางขับน้ำมากกว่า 25,000 ตัน และระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ เรือลำนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำลายเป้าหมายบนผิวน้ำขนาดใหญ่ และมาพร้อมการป้องกันทางอากาศและต่อต้านเรือดำน้ำแบบบูรณาการ เรือลาดตระเวนลำนี้สร้างขึ้นช่วงปลายทศวรรษ 1980 เคยประจำการอยู่ในกองเรือตอนเหนือ ก่อนถูกส่งไปซ่อมแซมช่วงปลายทศวรรษ 1990 โดยงานยกเครื่องและปรับปรุงเรือลำนี้ให้ทันสมัยเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2013.-813.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีเหนือชี้ท่าทีสันติภาพของเกาหลีใต้เป็นแค่ความฝันลมๆ แล้งๆ

โซล 14 ส.ค. – คิม โย จอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กล่าววันนี้ว่า เกาหลีเหนือไม่เคยปลดลำโพงโฆษณาชวนเชื่อออก และจะไม่มีทางทำเช่นนั้น พร้อมทั้งเรียกความเชื่อของเกาหลีใต้ที่ว่าเกาหลีเหนือกำลังตอบรับท่าทีสันติภาพของเกาหลีใต้ว่าเป็น “ความฝันลมๆ แล้งๆ” คิม โย จอง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลเกาหลีเหนือ ยังระบุด้วยว่า การปรับเปลี่ยนแผนการซ้อมรบร่วมประจำปีของเกาหลีใต้และสหรัฐเป็นการกระทำที่ “ไร้ประโยชน์” ซึ่งไม่ได้เปลี่ยนแปลงเจตนาร้ายของชาติพันธมิตร ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา คิม ซึ่งเจ้าหน้าที่และนักวิเคราะห์เชื่อว่าเป็นกระบอกเสียงของพี่ชาย ปฏิเสธการเคลื่อนไหวของรัฐบาลสายเสรีนิยมใหม่ของเกาหลีใต้ที่มีเป้าหมายในการลดความตึงเครียดระหว่างสองเกาหลี สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานอ้างคำพูดของคิมว่า เธอมั่นใจว่านโยบายของเกาหลีใต้ที่มีต่อเกาหลีเหนือยังคงไม่เปลี่ยนแปลงและจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง กองทัพเกาหลีใต้กล่าวว่า พวกเขาตรวจพบการเคลื่อนไหวของกองทัพเกาหลีเหนือในการรื้อถอนลำโพงโฆษณาชวนเชื่อบางส่วนที่หันเข้าหาเกาหลีใต้ หลังจากที่เกาหลีใต้ดำเนินการในลักษณะเดียวกันไปก่อนหน้านี้ คณะเสนาธิการร่วมของกองทัพเกาหลีใต้กล่าวในวันนี้ว่า พวกเขายืนยันการประเมินกิจกรรมที่สังเกตเห็นในบางส่วนของชายแดน และยังคงติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ลี ซอง จุน โฆษกกองทัพเกาหลีใต้ กล่าวว่า เขาเชื่อว่าควรใช้ความระมัดระวังในการตีความคำแถลงของเกาหลีเหนือเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด และเปียงยางมักจะ “อ้างสิ่งที่ไม่เป็นความจริง” อยู่บ่อยครั้ง แต่เขาปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม ลีไม่ได้ตอบคำถามโดยตรงเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่า เกาหลีเหนือได้รื้อถอนลำโพงเพียงตัวเดียวจากหลายสิบตัวที่ติดตั้งไว้ตามแนวชายแดน ในสมัยประธานาธิบดียุน ซุกยอล ผู้นำคนก่อน […]

เมืองแองเคอเรจพร้อมจัดประชุม ‘ทรัมป์-ปูติน’

แองเคอเรจ 14 ส.ค. – ซูซานน์ ลาฟรานซ์ นายกเทศมนตรีหญิงการเมืองแองเคอเรจ ในรัฐอะแลสกาของสหรัฐ กล่าวในวันพุธว่าเมืองแองเคอเรจ รู้สึกตื่นเต้นและพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย รวมถึงการประชุมอื่นๆ ที่ผู้นำทั้งสองอาจจัดขึ้นในอนาคต นายทรัมป์กล่าวเมื่อวันพุธว่า การประชุมระหว่างเขากับนายปูตินในสัปดาห์นี้อาจตามมาด้วยการประชุมครั้งที่สองอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะมีผู้นำยูเครนเข้าร่วมหารือด้วย ลาฟรานซ์ กล่าวว่า เมืองแองเคอเรจกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับสำนักงานผู้ว่าการรัฐ ทำเนียบขาว และกองทัพ เพื่อให้แน่ใจว่ามีพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้และงานอื่นๆ ที่จะจัดขึ้นในอนาคตและเธอก็หวังว่าการประชุมครั้งนี้จะนำไปสู่สันติภาพและยุติสงครามได้ นายทรัมป์และนายปูติน มีกำหนดจะหารือกันถึงวิธีที่จะยุติความขัดแย้งในยูเครน ซึ่งดำเนินมาเป็นเวลาสามปีครึ่ง และถือเป็นความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2.-813.-สำนักข่าวไทย

ไต้ฝุ่น ‘โพดุล’ ขึ้นฝั่งครั้งที่ 2 ในมณฑลฝูเจี้ยนของจีน

ปักกิ่ง 14 ส.ค. – สำนักงานอุตุนิยมวิทยาประจำมณฑลฝูเจี้ยน ของจีนรายงานวันนี้ว่า พายุไต้ฝุ่นโพดุลได้ขึ้นฝั่งเป็นครั้งที่ 2 บริเวณชายฝั่งของเขตจางผู่ ในมณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกของจีน เมื่อช่วงหลังเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ขณะที่ขึ้นฝั่งครั้งล่าสุด พายุโพดุลถูกจัดอยู่ในกลุ่มพายุโซนร้อนกำลังแรง โดยมีลมพัดต่อเนื่องสูงสุดใกล้ศูนย์กลางพายุถึง 30 เมตรต่อวินาที พายุลูกนี้ได้ขึ้นฝั่งครั้งแรกในเขตไถตงของไต้หวันเมื่อช่วงบ่ายวันพุธ และคาดว่าจะนำมาซึ่งลมกระโชกแรงและฝนตกหนักในพื้นที่กว้างของมณฑลกวางตุ้ง กว่างซี หูหนาน และกุ้ยโจว นักอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าพายุจะอ่อนกำลังลงหลังจากขึ้นฝั่งครั้งที่ 2 ในฝูเจี้ยน ก่อนหน้าที่จะมีพายุโพดุลเข้า ระบบกล้องวงจรปิดของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเมืองจางโจว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ดูแลเขตจางผู่ ได้แสดงให้เห็นว่ามีฝนตกหนักลงมาพร้อมกับลมแรงที่พัดด้วยความเร็วเกิน 13 เมตรต่อวินาที พายุลูกนี้มีความรุนแรงขึ้นเมื่อเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งฝูเจี้ยน โดยมีความเร็วลมในเมืองเซี่ยเหมินใกล้เคียง 30 เมตรต่อวินาทีในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีทั่วทั้งเมืองเซี่ยเหมิน มีหลายเขตรายงานปริมาณน้ำฝนเกิน 50 มิลลิเมตรภายใน 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ การจ่ายกระแสไฟฟ้าในเมืองเซี่ยเหมินยังได้รับผลกระทบ โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยท้องถิ่นได้ส่งเจ้าหน้าที่กว่า 660 คน และยานพาหนะฉุกเฉินกว่า 100 คัน เพื่อเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าให้กับบ้านเรือนและธุรกิจต่าง ๆ ในเมืองสือสือ สถานที่ท่องเที่ยวชายทะเลทั้งหมดถูกสั่งปิด และมีการอพยพประชาชนกว่า 7,200 คนไปยังที่ปลอดภัยก่อนที่พายุจะมาถึง.-813.-สำนักข่าวไทย

ยุโรปเผชิญไฟป่า-คลื่นความร้อนรุนแรง

กรีซ 14 ส.ค. – คลื่นความร้อนยังคงปกคลุมยุโรปตอนใต้ ขณะที่หลายประเทศในยุโรปกำลังเผชิญกับไฟป่ารุนแรง ที่แทบจะยังไม่สามารถควบคุมได้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเกือบ 5,000 นายกำลังต่อสู้กับไฟป่าหลายจุดในกรีซ เฉพาะในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เกิดไฟป่าจุดใหม่ปะทุขึ้นทั่วกรีซมากกว่า 152 จุด ชาวบ้านหลายพันคนต้องอพยพออกจากเกาะท่องเที่ยวอย่างเกาะคีออสและเกาะแซคินธอส ขณะที่เปลวเพลิงได้โหมกระหน่ำเข้าเมืองปาตราสเมื่อคืนนี้ ทำลายบ้านเรือน ธุรกิจยานพาหนะต่างๆ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยว และพื้นที่เพาะปลูก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอย่างน้อย 13 นายบาดเจ็บระหว่างความพยายามควบคุมเพลิง มีการใช้เรือกู้ภัยได้อพยพผู้คนที่ติดอยู่บนชายหาดบนเกาะคีออสที่ไฟป่าลามหนัก เจ้าหน้าที่ได้ร้องขอเครื่องบินดับเพลิงจากประเทศอื่น ๆ ในสหภาพยุโรป เพื่อมาช่วยดับไฟป่าด้วย เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ผจญเพลิงสเปนยังคงเร่งควบคุมไฟป่าในพื้นที่จังหวัดซาโมรา ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ที่ปะทุตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วหลายพันไร่ และกำลังลุกลามเข้าใกล้จังหวัดเลอองที่อยู่ใกล้เคียง ขณะที่เมืองเล็กๆ ที่อยู่ริมชายฝั่งทะเลกำลังได้รับผลกระทบจากไฟป่าที่ลุกลามเข้าใกล้มากขึ้น ทำให้ต้องอพยพชาวบ้านในภูมิกาติลญ์และเลออง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศแล้วกว่า 5,000 คน มีอาสาสมัครดับไฟป่าเสียชีวิต 1 ราย และอีกหลายคนได้รับบาดเจ็บขณะพยายามควบคุมไฟป่าใหญ่อย่างน้อย 6 จุดที่กำลังเผาผลาญหลายภูมิภ่าคของสเปนอยู่ในขณะนี้ จนรัฐบาลสเปนยกระดับการตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินระดับชาติแล้ว ส่วนในมอนเตเนโกร ทหารเสียชีวิต 1 นาย และอีกนายบาดเจ็บสาหัสเมื่อรถบรรทุกน้ำพลิกคว่ำขณะต่อสู้กับไฟป่าบนเนินเขาทางตอนเหนือของกรุงพอดกอรีตซา เมืองหลวง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงโปรตุเกสรับมือกับไฟป่าขนาดใหญ่ […]

‘ทรัมป์’ คุยออนไลน์ ‘เซเลนสกี’-ผู้นำยุโรป ก่อนถก ‘ปูติน’

วอชิงตัน 14 ส.ค. – ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐประชุมออนไลน์กับประธานาธิบดียูเครนและบรรดาผู้นำยุโรป ยืนยันไม่คุยเรื่องดินแดนของยูเครน พร้อมผลักดันหยุดยิงในยูเครนอย่างไม่มีเงื่อนไข นายทรัมป์แถลงต่อผู้สื่อข่าววานนี้ หลังพบหารือแบบออนไลน์กับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน และบรรดาผู้นำชาติยุโรป โดยได้เตือนรัสเซียว่าจะเผชิญผลลัพธ์ที่รุนแรงมาก หากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ไม่ตกลงยุติสงครามในยูเครน ระหว่างการประชุมสุดยอดของพวกเขาในวันพรุ่งนี้ ที่รัฐอะแลสกา ท่ามกลางความกังวลว่าอาจมีผลักดันให้รัสเซียและยูเครนทำข้อตกลงต้องยอมสละดินแดนเพื่อยุติสงคราม อันเป็นความคิดที่ทั้งยูเครนและรัสเซียปฏิเสธ ส่วนบรรดาผู้นำยุโรป เรียกร้องนายทรัมป์อย่าลงนามข้อตกลงสันติภาพยูเครนฝ่ายเดียว โดยประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส กล่าวว่า นายทรัมป์ได้แจ้งต่อพวกเขาระหว่างการประชุมออนไลน์ว่า จะไม่มีการเจรจาเรื่องดินแดน ขณะที่แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ทูตยุโรป 2 คนที่เกี่ยวข้องกับการการพูดคุยของนายทรัมป์กับผู้นำยุโรป กล่าวว่า นายทรัมป์ดูเหมือนจะบอกว่า เขาจะผลักดันข้อตกลงหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไขในยูเครน และเขาเชื่อว่า การหยุดยิงจะเป็นการแสดงความปรารถนาดีจากรัสเซีย และยังกล่าวอีกว่าดินแดนของยูเครนไม่ใช่สิ่งที่เขาจะเจรจาได้ ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกว่า นายทรัมป์จะไม่ยอมรับข้อเสนอใด ๆ ของรัสเซียที่จะยึดครองดินแดนยูเครนแลกกับข้อตกลงหยุดยิง แหล่งข่าวระบุด้วยว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นเนื่องจากข้อเรียกร้องหลักจากยุโรป คือยูเครนต้องเข้าร่วมในการเจรจาเกี่ยวกับดินแดนของตน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าวว่า ไม่ได้มีความคาดหวังในระดับสูงนักสำหรับการประชุมครั้งนี้ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยุโรปรายหนึ่งกล่าวว่า พวกเขารู้สึกได้ว่าภัยคุกคามได้เริ่มขึ้นแล้วในเรื่องการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย หากการเจรจาที่กำลังจะเกิดขึ้นระหว่างทรัมป์และปูตินในอะแลสกาไม่ประสบผลสำเร็จ และกล่าวอีกว่า […]

พายุไต้ฝุ่น ‘โพดุล’ เข้าสู่ไต้หวันตอนใต้-สูญหาย 1 คน

ไทเป 13 ส.ค. – พายุไต้ฝุ่น ‘โพดุล’ พัดเข้าสู่ตอนใต้ของไต้หวันในวันนี้ด้วยความเร็วลมสูงถึง 191 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้มีผู้สูญหาย 1 คนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 33 คน ขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะได้ประกาศปิดพื้นที่และมีการยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยว สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของไต้หวันระบุว่า พายุโพดุลได้พัดขึ้นฝั่งที่เมืองไถตง (Taitung) ทางตะวันออกเฉียงใต้เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 12.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากนั้นได้เคลื่อนตัวผ่านปลายสุดทางตอนใต้ของเกาะ และเข้าสู่ช่องแคบไต้หวันในอีกประมาณ 3 ชั่วโมงต่อมา รัฐบาลรายงานว่ามีผู้สูญหาย 1 คน และบาดเจ็บ 33 คน เมืองและเทศมณฑล 9 แห่ง ประกาศระงับการทำงานและการเรียนการสอนสำหรับวันพุธ รวมถึงเมืองใหญ่ทางตอนใต้อย่างเกาสง (Kaohsiung) และไถหนาน (Tainan) ส่วนในกรุงไทเป ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดการเงินของไต้หวัน มีเพียงลมพัดแรง แต่ไม่มีผลกระทบใด ๆ รัฐบาลระบุว่ามีการอพยพประชาชนกว่า 5,500 คนก่อนที่พายุไต้ฝุ่นจะมาถึง กระทรวงคมนาคมกล่าวว่า มีการยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศทั้งหมด […]

ผู้นำเกาหลีใต้เตรียมเยือนญี่ปุ่น

โซล 13 ส.ค. – ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงวันนี้ว่า ประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ของเกาหลีใต้จะเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 23-24 สิงหาคม เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกับนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น โฆษกของประธานาธิบดีอี แถลงกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้นำทั้งสองจะหารือถึงแนวทางในการปรับปรุงสันติภาพในภูมิภาคและส่งเสริมความร่วมมือไตรภาคีกับสหรัฐ อย่างไรก็ตาม โฆษกผู้นำเกาหลีใต้ไม่ได้ระบุวันที่จะจัดการประชุมสุดยอดที่แน่นอนระหว่างการเยือนญี่ปุ่นเป็นเวลา 2 วันของประธานาธิบดีอี ก่อนหน้านี้ นายดีอีเคยวิพากษ์วิจารณ์ความพยายามของรัฐบาลเกาหลีใต้ชุดก่อน ๆ ในการปรับปรุงความสัมพันธ์กับญี่ปุ่น และเมื่อเขาได้พบกับนายอิชิบะในการประชุมสุดยอดครั้งแรกนอกรอบการประชุมผู้นำประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือ จี7 (G7) ที่แคนาดาเมื่อเดือนมิถุนายน ทั้งคู่ได้ให้คำมั่นว่าจะกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่ต่างก็เป็นพันธมิตรของสหรัฐ มักจะตึงเครียดเนื่องจากข้อพิพาททางประวัติศาสตร์ที่สืบเนื่องมาจากการที่๊ญี่ปุ่นปกครองคาบสมุทรเกาหลีในฐานะอาณานิคมในช่วงปี 1910-1945 สำหรับการประชุมสุดยอดครั้งที่สองของผู้นำทั้งสองยังมีขึ้นในขณะที่สองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของเอเชียกำลังเผชิญกับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐที่บังคับใช้โดยรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ การเดินทางเยือนญี่ปุ่นของประธานาธิบดีอีมีขึ้นก่อนหน้าที่เขาจะเดินทางเยือนสหรัฐ ซึ่งเขามีกำหนดประชุมสุดยอดกับนายทรัมป์ในวันที่ 25 สิงหาคม.-813.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้เตือนฝนตกหนักทั่วภาคกลาง

โซล 13 ส.ค. – สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของเกาหลีใต้ หรือ เคเอ็มเอ (KMA) แจ้งเตือนฝนตกหนักในบางพื้นที่ของประเทศในวันพุธ โดยคาดว่าจะมีฝนตกหนักถึง 150 มิลลิเมตรต่อชั่วโมงในเขตปริมณฑลของกรุงโซลจนถึงวันพฤหัสบดี สำนักข่าวยอนฮับ รายงานว่า ปริมาณน้ำฝนกว่า 100 มิลลิเมตรตกในเขตเมืองหลวง โดยเฉพาะที่เขตองจิน (Ongjin) ของนครอินชอน ที่มีฝนตกหนักถึง 149.2 มิลลิเมตรภายในหนึ่งชั่วโมง ซึ่งถือเป็นปริมาณฝนที่หนักที่สุดที่บันทึกสถิติได้ในฤดูร้อนนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 11.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ทางการประกาศเตือนฝนตกหนักในพื้นที่ส่วนใหญ่ของเขตปริมณฑลของกรุงโซล และบางส่วนของนครอินชอนและจังหวัดคย็องกีตอนเหนือ ขณะที่มีคำแนะนำเฝ้าระวังในบางพื้นที่ตอนในของจังหวัดคังวอน รวมถึงบางเมืองในจังหวัดคย็องกีตอนใต้และชายฝั่งตะวันตก จังหวัดคย็องกีได้ยกระดับมาตรการรับมือฉุกเฉินขึ้นหนึ่งระดับ เป็นระดับ 2 ของระบบรับมือภัยพิบัติและมาตรการความปลอดภัยส่วนกลาง ทางการประกาศให้ประชาชนอพยพในพื้นที่ใกล้แม่น้ำที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมในกรุงโซลและบางส่วนของจังหวัดคย็องกี ขณะที่ฝนที่ตกหนักในจังหวัดคย็องกีตอนเหนือทำให้ประชาชนตกค้างและต้องปิดถนนและเส้นทางรถไฟหลายสาย แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ เคเอ็มเอคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนัก 30 ถึง 50 มิลลิเมตรในพื้นที่ภาคกลางต่อเนื่องไปจนถึงเช้าวันพฤหัสบดี และสำหรับเขตเมืองหลวงจะยังมีฝนตกหนัก 50 ถึง 150 มิลลิเมตร และอาจสูงถึง […]

คาดนายกฯ อินเดียจะพบ ‘ทรัมป์’ ที่สหรัฐเดือนหน้า

นิวเดลี 13 ส.ค. (รอยเตอร์) – หนังสือพิมพ์อินเดียน เอ็กซ์เพรส (Indian Express) ของอินเดียรายงานวันนี้อ้างแหล่งข่าวว่า นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย มีแนวโน้มที่จะเข้าพบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ในระหว่างการเยือนสหรัฐในเดือนหน้า เพื่อเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ อินเดียน เอ็กซ์เพรส รายงานว่า แม้เหตุผลหลักของการเยือนครั้งนี้ของนายโมดี คือการเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติที่นครนิวยอร์ก แต่ยังมีเป้าหมายสำคัญคือการเจรจากับนายทรัมป์ เพื่อแก้ไขปัญหาการค้าและภาษีที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเริ่มตึงเครียด รายงานข่าวเรื่องความเป็นไปได้ในการเยือนสหรัฐของนายโมดีเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่นายทรัมป์ประกาศเก็บภาษีอินเดียเพิ่มเติมร้อยละ 25 เพื่อลงโทษรัฐบาลนิวเดลีที่ยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซีย การเก็บภาษีเพิ่มเติมนี้ทำให้ภาษีรวมของสินค้าอินเดียที่ส่งออกไปยังสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 50 ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงที่สุดในบรรดาคู่ค้าของสหรัฐ การเจรจาการค้าระหว่างอินเดียกับสหรัฐมีอันต้องล่มลง หลังจากเจรจากันมา 5 รอบ เนื่องจากมีความเห็นไม่ตรงกันในประเด็นการเปิดตลาดภาคการเกษตรและปศุสัตว์ขนาดใหญ่ของอินเดีย และการยุติการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย.-813.-สำนักข่าวไทย

1 24 25 26 27 28 694