Surat Boromsuk

เจนไน/เบงคลูรู 28 ก.ย. – มุขมนตรีแห่งรัฐทมิฬนาฑู เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 39 ราย และบาดเจ็บกว่า 50 ราย ในวันเสาร์ จากเหตุการณ์เหยียบกันตายที่เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมหาเสียงของนายโจเซฟ วิชัย จันทรเศขร (Joseph Vijay Chandrasekhar) หรือ วิชัย นักแสดงชาวทมิฬชื่อดัง ที่ผันตัวมาเป็นนักการเมือง ซึ่งกำลังลงสมัครรับเลือกตั้ง เอ็ม.เค. สตาลิน (M.K. Stalin) มุขมนตรีแห่งรัฐทมิฬนาฑู กล่าวกับผู้สื่อข่าวในเขตการูร์ (Karur) ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุระหว่างการปราศรัยทางการเมืองของพรรค “ทมิฬากา เวตรี กาฬากัม” (Tamilaga Vettri Kazhagam) ของวิชัย ว่านับจนถึงตอนนี้มีพบผู้เสียชีวิตแล้ว 39 ราย เป็นชาย 13 ราย หญิง 17 ราย เด็กชาย 4 ราย และเด็กหญิง 5 ราย ขณะที่มีผู้บาดเจ็บอีก […]

ฮานอย 28 ก.ย. – เวียดนามสั่งปิดสนามบินและอพยพประชาชนหลายพันคนในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบ ขณะที่ไต้ฝุ่น “บัวลอย” (Bualoi) ซึ่งกำลังทวีความรุนแรงขึ้น เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศเวียดนามในวันนี้ เพียงไม่กี่วันหลังจากที่พายุลูกนี้ได้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 10 ราย และก่อให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้างในประเทศฟิลิปปินส์ สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติของเวียดนาม ระบุว่า พายุไต้ฝุ่นซึ่งมีความเร็วลมสูงสุดถึง 133 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะขึ้นฝั่งในบริเวณตอนกลางของเวียดนามในช่วงดึกของวันอาทิตย์ ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากพายุเคลื่อนตัวด้วยความเร็วสูง สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติเวียดนามเสริมว่า บัวลอยเป็นพายุที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วคือเกือบ 2 เท่าของความเร็วเฉลี่ย และมีความรุนแรงสูง นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ผลกระทบกว้างขวาง มีศักยภาพที่จะก่อให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติหลายอย่างพร้อมกัน รวมถึงลมกระโชกแรง ฝนตกหนัก น้ำท่วม ดินโคลนถล่ม และน้ำทะเลท่วมชายฝั่ง รัฐบาลระบุว่า เจ้าหน้าที่ในจังหวัดฮาติญ (Ha Tinh) ทางตอนกลางของประเทศ เริ่มอพยพประชาชนกว่า 15,000 คนแล้ว และมีทหารหลายพันนายเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือ สำนักงานการบินพลเรือนกล่าวว่า เวียดนามสั่งระงับการดำเนินงานของสนามบินที่อยู้บริเวณชายฝั่งทะเล 4 แห่ง ตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ รวมถึงสนามบินนานาชาติดานัง และปรับเปลี่ยนเวลาออกเดินทางของเที่ยวบินหลายเที่ยวบิน รัฐบาลเวียดนามระบุว่า ปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่เมืองเว้ (Hue) และกว๋างจิ (Quang […]

ฮานอย 28 ก.ย. – พายุโซนร้อน ‘บัวลอย’ ที่มีกำลังแรงจะเคลื่อนตัวถึงเวียดนาม เที่ยงวันนี้ หลังพัดถล่มฟิลิปปินส์ ตลอด 2 วันที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 11 ราย พายุโซนร้อน ‘บัวลอย’ พัดถล่มเกาะเล็กๆ หลายแห่งในภาคกลางของฟิลิปปินส์ ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้ต้นไม้และเสาไฟหักโค่น หลังคาบ้านปลิว น้ำท่วมและดินถล่ม ชาวบ้านกว่า 400,000 คนต้องอพยพ ล่าสุดจนถึงช่วงค่ำวานนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตในฟิลิปปินส์จากพายุลูกนี้เพิ่มเป็น 11 ราย ขณะพายุเคลื่อนตัวเข้าใกล้เวียดนาม หนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายเลวร้ายที่สุด คือ เกาะบิลิรัน ซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็ก มีผู้เสียชีวิต 8 คน และสูญหาย 2 คน เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง และถนนหลายสายยังคงจมอยู่ใต้น้ำ ส่วนผู้อพยพเริ่มทยอยเดินทางกลับบ้าน เนื่องจากสภาพอากาศดีขึ้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันภัยพลเรือนฟิลิปปินส์ รายงานก่อนหน้านี้ว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 คน บนเกาะมัสบาเต และเกาะติเกา ซึ่งรวมถึง 2 คนที่ถูกต้นไม้และกำแพงล้มทับ เพราะกระแสลมแรง […]

ปักกิ่ง 28 ก.ย. – สะพานข้ามโกรกธารฮวาเจียง หรือ ‘แกรนด์แคนยอนฮวาเจียง’ ในมณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสะพานที่สูงที่สุดในโลก เตรียมเปิดใช้สัญจรอย่างเป็นทางการวันแรกในวันนี้ สะพานข้ามโกรกธารฮวาเจียง มีคลื่นหมอกเมฆขาวปกคลุมหลังจากผ่านพ้นม่านฝน ดูราวกับมังกรเหล็กยักษ์ผงาดกลางหุบเขาเขียวขจี สะพานนี้เป็นส่วนสำคัญของทางด่วนสาย ลิ่วจือ-อันหลง มีความยาว 2,890 เมตร ช่วงสะพานหลักยาว 1,420 เมตร มีความสูงเหนือแม่น้ำด้านล่าง 625 เมตร ทำให้เป็นสะพานที่สูงสุดในโลก และมีช่วงสะพานขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่สร้างบนพื้นที่ภูเขา สะพานข้ามโกรกธารฮวาเจียง หรือแกรนด์แคนยอนฮวาเจียงแห่งนี้ จะเปิดให้สัญจรอย่างเป็นทางการในวันนี้ 28 ก.ย. หลังจากก่อสร้างมานานกว่า 3 ปี ทางการท้องถิ่นมณฑลกุ้ยโจว เผยว่า โครงการก่อสร้างสะพานแห่งนี้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่หลายด้าน ทั้งการออกแบบเพื่อทนต่อแรงลมและการก่อสร้างในพื้นที่สูง โดยได้รับการรับรองสิทธิบัตร 21 รายการ และเทคนิคบางส่วนได้ถูกบรรจุเป็นมาตรฐานการก่อสร้างสะพานของจีนแล้ว ปัจจุบันมณฑลกุ้ยโจวมีสะพานที่สร้างเสร็จหรืออยู่ระหว่างการก่อสร้างกว่า 32,000 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นสะพานที่สูงที่สุดในโลก 3 แห่ง และเกือบครึ่งหนึ่งของสะพานที่สูงที่สุด 100 แห่งในโลก ตั้งอยู่ที่กุ้ยโจว ซึ่งเป็นมณฑลที่เต็มไปด้วยเทือกเขาสูงมากมาย.-815.-สำนักข่าวไทย

โบโกตา 28 ก.ย. – ประธานาธิบดีกุสตาโบ เปโตร ของโคลอมเบีย ไม่ยอมรับการตัดสินใจของสหรัฐที่เพิกถอนวีซ่าของเขาเมื่อวันเสาร์ และกล่าวหาว่าสหรัฐละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ จากกรณีที่เขาออกมาวิพากษ์วิจารณ์สงครามของอิสราเอลในฉนวนกาซา เมื่อวันศุกร์ สหรัฐแถลงว่าจะยกเลิกวีซ่าของนายเปโตร หลังจากเขาเข้าร่วมการประท้วงสนับสนุนปาเลสไตน์ บนถนนในนครนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ และได้เรียกร้องให้ทหารสหรัฐฝ่าฝืนคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นายเปโตรแสดงความเห็นผ่านโซเชียลมีเดียว่า เขาไม่มีวีซ่าเดินทางไปสหรัฐอีกต่อไป เขาไม่แคร์ เขาไม่จำเป็นต้องมีวีซ่า เนื่องจากเขาไม่ได้เป็นเพียงแค่พลเมืองโคลอมเบียเท่านั้น แต่เป็นพลเมืองยุโรปด้วย และเขาถือว่าตัวเองเป็นบุคคลที่มีอิสระในโลกอย่างแท้จริง เขายังกล่าวในโพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า การยกเลิกวีซ่าเพื่อลงโทษการประณามการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แสดงให้เห็นว่าสหรัฐไม่เคารพกฎหมายระหว่างประเทศอีกต่อไปแล้ว อิสราเอลได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จากการปฏิบัติการในกาซามาโดยตลอด และยืนยันว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตนเอง อย่างไรก็ตาม ภาพของชาวปาเลสไตน์ที่กำลังอดอยาก ซึ่งรวมถึงเด็กๆ ได้สร้างความไม่พอใจไปทั่วโลกต่อการโจมตีฉนวนกาซาของอิสราเอล ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 65,000 ราย และทำให้ประชากรทั้งหมดในพื้นที่ต้องพลัดถิ่น ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชน นักวิชาการ และคณะกรรมการสอบสวนของสหประชาชาติหลายรายกล่าวว่าการกระทำนี้ถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อิสราเอลเรียกการกระทำของตนว่าเป็นการป้องกันตนเอง หลังจากการโจมตีของกลุ่มฮามาสในเดือนตุลาคม 2023 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,200 ราย และมีตัวประกันถูกจับไปกว่า 250 คน นายเปโตรได้กล่าวปราศรัยต่อผู้ประท้วงสนับสนุนปาเลสไตน์นอกสำนักงานใหญ่สหประชาชาติในย่านแมนฮัตตัน โดยเรียกร้องให้มีกองกำลังติดอาวุธระดับโลกที่มีภารกิจสำคัญในการปลดปล่อยชาวปาเลสไตน์ และกระตุ้นให้ทหารสหรัฐฝ่าฝืนคำสั่งของนายทรัมป์ และปฏิบัติตามคำสั่งของมนุษยชาติ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า จะเพิกถอนวีซ่าของนายเปโตร เนื่องจากการกระทำที่ประมาทและยั่วยุของเขา […]

สหประชาชาติ 28 ก.ย. – องค์การสหประชาชาติกลับมาใช้คำสั่งห้ามส่งอาวุธและมาตรการคว่ำบาตรอื่นๆ ต่อประเทศอิหร่านอีกครั้งในวันเสาร์ ตามการริเริ่มของกลุ่มประเทศมหาอำนาจหลักในยุโรป ซึ่งเป็นสิ่งที่อิหร่านเตือนว่าจะต้องเผชิญกับการตอบโต้ที่รุนแรง อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ได้ร่วมกันผลักดันให้มาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านกลับมาบังคับใช้ต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดบกล่าวหาว่าอิหร่านละเมิดข้อตกลงปี 2015 ที่มีเป้าหมายเพื่อยับยั้งการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศ แม้ว่าอิหร่านจะปฏิเสธว่าไม่ได้แสวงหาอาวุธนิวเคลียร์ไว้ครอบครองก็ตาม การสิ้นสุดลงของข้อตกลงนิวเคลียร์ที่มีอายุยาวนานทศวรรษ ซึ่งเดิมได้มีการลงนามร่วมกันระหว่างอิหร่าน อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส สหรัฐ รัสเซีย และจีน มีแนวโน้มที่จะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลาง หลังจากที่อิสราเอลและสหรัฐ ได้ทิ้งระเบิดใส่สถานที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่านเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติที่เคยกำหนดโดยมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในช่วงปี 2006 ถึง 2010 ได้กลับมามีผลบังคับใช้ในเวลา 20.00 น. ของวันเสาร์ (ตามเขตเวลาตะวันออกของสหรัฐฯ) หรือ 07.00 น. ของวันอาทิตย์ (ตามเวลาประเทศไทย) ความพยายามที่จะชะลอการกลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดต่ออิหร่านไม่ประสบความสำเร็จในการประชุมสมัชชาใหญ่ของสหประชาชาติประจำปีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังพ้นกำหนดเส้นตายในการประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตร รัฐมนตรีต่างประเทศของฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมนี ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน โดยระบุว่า ขอเรียกร้องให้อิหร่านและทุกรัฐปฏิบัติตามมติเหล่านี้อย่างครบถ้วน อิหร่าน ได้เตือนถึงการตอบโต้ที่รุนแรง แต่ประธานาธิบดี มาซูด เปเซชเคียนกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า […]

มะนิลา 26 ก.ย. – พายุโซนร้อน ‘บัวลอย’ ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในวันนี้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 4 คน คาดว่าพายุจะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ในคืนนี้และอาจจะทวีกำลังแรงขึ้นได้ เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยพลเรือนของฟิลิปปินส์กล่าวว่าพายุโซนร้อนบัวลอยซึ่งมีกำลังแรงได้พัดผ่านเกาะลูซอนทางภาคเหนือในวันนี้ ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักกระแสลมแรง สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนและสถานประกอบการต่างๆ ต้นไม้ใหญ่ เสาไฟฟ้า และป้ายโฆษณาหักโค่น ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 คน ซึ่ง 1 ในจำนวนนี้เสียชีวิตจากการถูกต้นไม้ล้มทับ และอีกคนหนึ่งถูกกำแพงถล่มทับ ตามท้องถนนเต็มไปด้วยเศษซากความเสียหายที่เกิดจากพายุ นอกจากนี้ประชาชนหลายล้านคนยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ก่อนที่พายุบัวลอยจะพัดขึ้นฝั่งชาวฟิลิปปินส์หลายแสนคนได้พากันอพยพไปอยู่ตามศูนย์พักพิงชั่วคราว ในกรุงมะนิลาซึ่งมีประชาชนจากชุมชนชายฝั่งทะเล และผู้ที่มีบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำอพยพมาอยู่ในศูนย์ เพราะมีความเสี่ยงว่าบ้านเรือนจะถูกน้ำท่วมฉับพลันหรือเกิดดินถล่ม หลังจากที่ฟิลิปปินส์เพิ่งถูกซูเปอร์ไต้ฝุ่น “รากาซา” พัดถล่มพื้นที่ทางตอนเหนือไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน คาดว่าพายุโซนร้อนบัวลอยจะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ในเวลาหลังเที่ยงคืนวันนี้ และในระหว่างนั้นพายุอาจจะทวีกำลังแรงขึ้นก่อนที่จะพัดขึ้นฝั่งทางภาคกลางเวียดนามในวันเสาร์นี้ จากนั้นจะเคลื่อนตัวลงสู่อ่าวตังเกี๋ยต่อไปในวันอาทิตย์-816.-สำนักข่าวไทย

โซล/โตเกียว, 26 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐยืนกรานว่า เกาหลีใต้จะต้องจัดหาเงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อจ่ายให้สหรัฐเป็นเงิน “ล่วงหน้า” แม้ว่าเกาหลีใต้จะโต้แย้งว่า หากต้องทำตามข้อเรียกร้องของสหรัฐโดยไม่มีมาตรการป้องกัน เศรษฐกิจของประเทศอาจเผชิญกับวิกฤตการเงินได้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาหลีใต้รายหนึ่งเปิดเผยกับรอยเตอร์โดยขอไม่เปิดเผยชื่อว่า ความเห็นของนายทรัมป์นั้น ขัดแย้งกับความเข้าใจของเกาหลีใต้ เกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐ เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้กล่าวเสริมว่า เกาหลีใต้ไม่เคยคิดที่จะทำการลงทุนแบบเหมาจ่ายเป็นก้อนใหญ่ครั้งเดียว (lump sum) พร้อมระบุว่า ทั้งเกาหลีใต้และญี่ปุ่นตั้งใจที่จะจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการต่าง ๆ ก็ต่อเมื่อสหรัฐมีการ “เรียกขอเงินทุน” (capital call) เท่านั้น เกาหลีใต้ ซึ่งให้คำมั่นว่าจะลงทุนในโครงการของสหรัฐเป็นมูลค่า 350,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องของสหรัฐที่ต้องการควบคุมเงินทุนดังกล่าว และเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้กล่าวว่า การเจรจาเพื่อจัดทำข้อตกลงการค้าให้เป็นทางการนั้นกำลังติดอยู่ในทางตัน นายทรัมป์ดำเนินการเรื่้องข้อตกลงทางการค้ากับญี่ปุ่นลุล่วงเป็นทางการในเดือนนี้ โดยมีการลดภาษีนำเข้ารถยนต์และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของญี่ปุ่น แลกกับการที่ญี่ปุ่นลงทุนในโครงการของสหรัฐเป็นมูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์ และเจ้าหน้าที่สหรัฐก็ได้เร่งเร้าให้ทางการเกาหลีใต้ทำตามแนวทางนี้เช่นกัน นายทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่เมื่อวันพฤหัสบดีว่า สหรัฐมีเงินจากญี่ปุ่น 550,000 ล้านดอลลาร์ จากเกาหลีใต้ 350,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการจ่ายล่วงหน้า ความเห็นของนายทรัมป์มีขึ้นในขณะที่ความไม่แน่ใจทางการเมืองกำลังส่งผลกระทบต่อการเจรจาการค้ากับเกาหลีใต้มากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เกิดความกังวลในหมู่นักลงทุนว่า […]

ปักกิ่ง 26 ก.ย. — ธนาคารประชาชนจีน (PBOC) หรือธนาคารกลางของจีน เผยวันพฤหัสบดีว่าศูนย์ปฏิบัติการเงินหยวนดิจิทัลนานาชาติของจีน เริ่มดำเนินงานอย่างเป็นทางการแล้วในนครเซี่ยงไฮ้ ศูนย์กลางทางการเงินของประเทศ โดยโครงการริเริ่มดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ 8 มาตรการใหม่ที่พาน กงเซิ่ง ผู้ว่าการธนาคารฯ ประกาศไว้ในการประชุมลู่เจียจุ่ยเมื่อเดือนมิถุนายนว่าจะนำไปใช้ในเซี่ยงไฮ้ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายพานกล่าวว่าศูนย์แห่งนี้มีหน้าที่ส่งเสริมการใช้เงินหยวนดิจิทัลสู่ระดับสากล และพัฒนาบริการทางการเงิน หนุนการพัฒนาบริการตลาดการเงิน ควบคู่กับการสนับสนุนนวัตกรรมการเงินดิจิทัล นอกจากการเปิดตัวศูนย์ดังกล่าวแล้ว ศูนย์ฯ ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มหลัก 3 แห่ง ได้แก่ แพลตฟอร์มการชำระเงินดิจิทัลข้ามพรมแดน แพลตฟอร์มบริการบล็อกเชน และแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล เถียน เซวียน ประธานสถาบันวิจัยการเงินแห่งชาติ สังกัดมหาวิทยาลัยชิงหัว กล่าวว่าการเปิดตัวศูนย์แห่งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเงินหยวนดิจิทัล ซึ่งจะช่วยยกระดับอิทธิพลของจีนในระบบการเงินโลก และมอบโซลูชันแบบเปิดกว้าง ครอบคลุม และสร้างสรรค์สำหรับจีนในการปรับปรุงระบบการชำระเงินข้ามพรมแดนในระดับสากล.-813.-สำนักข่าวไทย

มะนิลา 26 ก.ย. – ประชาชนในกรุงมะนิลา นครหลวงของฟิลิปปินส์เตรียมพร้อมด้วยการเคลื่อนย้ายไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่พายุโซนร้อนกำลังแรง “บัวลอย” (Bualoi) ซึ่งฟิลิปปินส์เรียกพายุลูกนี้ว่า “โอปง” (Opong) เคลื่อนตัวเข้าใกล้ฟิลิปปินส์ สำนักอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์ระบุว่า ศูนย์กลางของพายุอยู่ใกล้กับเมืองซานอิซิโดร ในจังหวัดซามาร์เหนือ (Northern Samar) โดยมีความเร็วลมสูงสุดต่อเนื่องที่ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีลมกระโชกแรงถึง 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำนักอุตุนิยมวิทยารายงานว่า เขตเมโทรมะนิลา (Metro Manila) และพื้นที่ใกล้เคียง อาจประสบกับฝนตกหนัก พร้อมความเป็นไปได้ที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน หรือดินถล่ม โดยเฉพาะในชุมชนเสี่ยงที่ตั้งอยู่ตามริมแม่น้ำและพื้นที่ชายฝั่ง สำนักอุตุนิยมวิทยากล่าวเสริมว่า ขณะที่พายุโอปงเคลื่อนผ่านหมู่เกาะต่างๆ นั้น คาดว่าน่าจะยังคงความแรงในระดับพายุโซนร้อนกำลังแรง และมีแนวโน้มสูงที่จะกลับมาทวีกำลังขึ้นอีกครั้ง เมื่อพายุเคลื่อนตัวออกจากฝั่งและเข้าสู่ทะเลจีนใต้.-813.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 26 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เปิดเผยมาตรการจัดเก็บภาษีนำเข้าครั้งใหม่ในวันพฤหัสบดี โดยกำหนดภาษีในอัตราที่สูงต่อสินค้าหลากหลายประเภท ซึ่งรวมถึงภาษี 100% สำหรับยาที่มีเครื่องหมายการค้าและภาษี 25% สำหรับรถบรรทุกหนัก โดยจะมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์หน้า การประกาศดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม “ทรูธโซเชียล” (Truth Social) ของเขา แต่ไม่มีการระบุรายละเอียดว่า ภาษีใหม่เหล่านี้จะถูกนำไปใช้ร่วมกับภาษีเดิมหรือไม่ หรือเศรษฐกิจที่มีข้อตกลงการค้า เช่น สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น จะได้รับการยกเว้นหรือไม่ ซึ่งทางญี่ปุ่นระบุว่ากำลังวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการใหม่นี้ นายทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า เขาจะเริ่มเก็บภาษี 50% สำหรับตู้ครัวและตู้ห้องน้ำ และภาษี 30% สำหรับเฟอร์นิเจอร์บุผ้า โดยภาษีใหม่ทั้งหมดจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป นายทรัมป์กล่าวว่า เหตุผลที่ต้องมีการเรียกเก็บภาษีเพื่อเป็นการลงโทษครั้งนี้เป็นผลมาจากการ ‘ท่วมทะลัก’ ของผลิตภัณฑ์เหล่านี้จำนวนมหาศาลเข้าสู่สหรัฐจากประเทศต่างๆ หุ้นของบริษัทยาในเอเชียปรับตัวลดลงทันที หลังจากนักลงทุนรับทราบข่าวดังกล่าว นายทรัมป์ ระบุว่า ภาษีใหม่ 100% สำหรับยาที่มีเครื่องหมายการค้าหรือยาที่ได้รับการจดสิทธิบัตร จะถูกบังคับใช้กับการนำเข้าทั้งหมด เว้นแต่ว่าบริษัทนั้นๆ ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตในสหรัฐแล้ว นายทรัมป์กล่าวว่า การเก็บภาษีรถบรรทุกหนักใหม่มีจุดประสงค์เพื่อปกป้องผู้ผลิตจากการ “แข่งขันที่ไม่เป็นธรรมจากภายนอก” […]

โคเปนเฮเกน 26 ก.ย. – เดนมาร์กยังคงประสบปัญหาโดรนปริศนาป่วนสนามบินอย่างต่อเนื่อง ด้านผู้นำชี้เป็นการโจมตีแบบลูกผสม พร้อมร่วมมือกับชาติพันธมิตรในการต่อต้านโดรนก่อกวน ไฟลท์เรดาร์24 (FlightRadar24) ซึ่งเป็นบริการติดตามเที่ยวบินทั่วโลก รายงานว่ามีการพบเห็นโดรนที่เมืองออลบอร์กของเดนมาร์กเมื่อคืนนี้ ทางการต้องปิดน่านฟ้าเหนือสนามบินออลบอร์กส่งผลให้เที่ยวบินหนึ่งต้องบินกลับไปยังกรุงอัมสเตอร์ดัม ขณะที่อีกเที่ยวบินหนึ่งจากกรุงโคเปนเฮเกนต้องถูกยกเลิก ตำรวจเปิดเผยว่าการปิดน่านฟ้าเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 23.40 น. ของคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น หลังต้องสงสัยว่าพบโดรนบินอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว แต่ยังไม่มีการยืนยันการพบเห็นโดรน ต่อมาเมื่อเวลาเที่ยงคืน 35 นาทีซึ่งล่วงเข้าสู่วันศุกร์จึงมีการเปิดน่านฟ้าอีกครั้ง เหตุการณ์ปิดน่านฟ้าครั้งนี้มีขึ้นเป็นคืนที่สองติดต่อกันหลังจากเมื่อคืนวันพุธมีการพบโดรนปริศนาทำให้ต้องปิดสนามบินหลายแห่งในเดนมาร์ก และก่อนหน้านั้นเมื่อคืนวันจันทร์ก็เพิ่งเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเมตเต เฟรเดอริกเซน ของเดนมาร์ก แถลงเมื่อวานนี้บอกว่าเดนมาร์กกำลังเผชิญกับการโจมตีแบบลูกผสมจากโดรนปริศนาที่เข้ามาก่อกวนต่อเป้าหมายทางทหารและพลเรือน ซึ่งขณะนี้ทางการได้ยกระดับการเตือนภัยโดยเตรียมส่งกำลังตำรวจและกองกำลังติดอาวุธที่ มีขีดความสามารถในการต่อต้านโดรนเข้าประจำการโดยรอบโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ นอกจากนี้ยังจะร่วมมือกับชาติพันธมิตรทั้งในกรอบของนาโตและสหภาพยุโรปเพื่อขอความช่วยเหลือในการป้องกันน่านฟ้าของเดนมาร์กด้วย.-816.-สำนักข่าวไทย