สุรินทร์จัดชุดไล่ล่า “โดรนปริศนา” บินว่อนหลายจุด

สุรินทร์ 3 ส.ค.- ผู้ว่าฯ สุรินทร์ จัดชุดไล่ล่า “โดรนปริศนา” โผล่เหนือน่านฟ้าหลายจุด ยอมรับบินวนในพื้นที่มาแล้ว 3 วัน เร่งพิสูจน์ทราบ หากพบยิงตกได้ทันที ทีมข่าวสำนักข่าวไทยลงพื้นที่อำเภอแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะ พบประชาชนซึ่งไม่ได้อพยพออกจากพื้นที่ตั้งแต่วันแรก ที่มีลูกระเบิดตกลงในหมู่บ้าน กำลังก่อสร้างต่อเติมบ้านเพื่อความปลอดภัยหากในอนาคตเกิดการปะทะอีก โดยชาวบ้านคนดังกล่าวเล่าให้ฟังว่า เช้าวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ระเบิดลูกแรกตกในหมู่บ้านห่างจากบ้านตนเอง เพียง 100 เมตร ได้ยินเสียงและเห็นเหตุการณ์ แทบเป็นลม วิ่งมาหลบในบ้านกับลูกชาย ซึ่งเป็นผู้พิการไม่สามารถอพยพได้ อีกทั้งยังเป็นห่วงทรัพย์สินรวมไปถึงวัวที่ตนเองเลี้ยงไว้จำนวน 3 ตัว ขณะนี้ยังหวาดระแวง แต่ด้วยข้อจำกัดของชีวิต ต้องทนอยู่ไป จึงได้การทำต่อเติมบ้านเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน อย่างไรก็ตามอยากให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เนื่องจากตนลำบากมาก ไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อไป จากนั้นทีมข่าวได้เข้าสำรวจในหมู่บ้านแห่งนี้ พบว่ามีระเบิดตกลงในหมู่บ้านกว่า 40 ลูก ขณะนี้เก็บกู้ไปเรียบร้อย ชาวบ้านกว่า 90% ได้เดินทางกลับมาในพื้นที่เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินภายในบ้าน รวมไปถึงสัตว์เลี้ยง ช่วงดึกที่ผ่านมา ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ติดตามเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษของจังหวัดสุรินทร์ ในการเฝ้าสังเกตการณ์ต่อต้านโดรนหรืออากาศยานไร้คนขับที่บินอยู่ภายในเมือง พบหลายลำในช่วงหัวค่ำจนถึงช่วงกลางดึก รวมไปถึงอำเภอรอบนอกของตัวเมืองจังหวัดสุรินทร์ […]

เฝ้าระวังตลอดคืน พบโดรนปริศนาบินล้ำเขตแดนอรัญฯ

สระแก้ว 3 ส.ค.- พบโดรนปริศนาไม่ทราบฝ่ายบินล้ำแดนจากกัมพูชาเข้ามาในไทย ชาวบ้าน-ชรบ.ในพื้นที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เฝ้าระวังตลอดทั้งคืน คืนที่ผ่านมา เวลา 21.00 น. ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยจุดที่ทีมข่าวเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ห่างจากแนวชายแดนเพียง 2 กิโลเมตร บรรยากาศในพื้นที่ขณะนั้นมีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ออกมาคอยเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง หลังได้รับแจ้งว่าอาจมีโดรนปริศนาเข้ามาในพื้นที่ ระหว่างที่ทีมข่าวกำลังสัมภาษณ์พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ พบโดรนลำหนึ่งบินเข้ามาจากเขตชายแดนฝั่งกัมพูชา ล้ำเข้ามาในอาณาเขตประเทศไทยลึกประมาณ 2 กิโลเมตร ขณะที่โดรนลำนั้นลอยอยู่เหนือพื้นที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ใช้ไฟสปอร์ตไลต์กำลังแรงสูงร่วมกับแสงเลเซอร์จากอุปกรณ์ของทหาร ส่องไปยังโดรนปริศนาอย่างชัดเจน ทำให้เห็นลำตัวของโดรนแม้อยู่ในความมืด สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่มีการเปิดเผยว่าโดรนลำนั้นมีเป้าหมายใดหรือเป็นของฝ่ายใด ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงยังคงเพิ่มมาตรการตรวจตราและเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดคิดหรือภัยคุกคามความมั่นคงในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

ชาวเชียงใหม่ร่วมจุดเทียนสดุดี 15 วีรบุรุษชายแดน

3 ส.ค.- ชาวเชียงใหม่ ร่วมกันจุดเทียน แสดงความไว้อาลัย สดุดี 15 วีรบุรุษทหารที่พลีชีพปกป้องแผ่นดินไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บริเวณ หน้าลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ตัวเมืองเชียงใหม่ ประชาชนได้รวมตัวทำกิจกรรมร้องเพลง เขียนข้อความ พร้อมโบกธงชาติไทย เพื่อส่งกำลังใจให้กับทหารที่อยู่แนวหน้า ชายแดนไทย-กัมพูชา และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย เพื่อเป็นการสดุดีทหาร 15 นายที่พลีชีพในการสู้รบปกป้องอธิปไตย อีกทั้งอ่านรายชื่อทหาร วางพวงหรีดและจุดเทียน แสดงความไว้อาลัยพร้อมทั้งยืนสงบนิ่ง อธิฐานขอให้เจ้าหน้าที่ที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ปลอดภัยทุกนาย นอกจากนี้ บริเวณย่านถนนท่าแพ หน้าอาคารพุทธสถานเชียงใหม่ มีการนำภาพทหารที่เสียชีวิตทั้ง 15 นายติดไว้ริมถนนและมีการตั้งโต๊ะเพื่อให้ประชาชน มาวางดอกไม้ แสดงความอาลัย -สำนักข่าวไทย

พระราชทาน​เพลิงศพ 7 พลเรือน เหตุชายแดนไทย-กัมพูชา

ศรีสะเกษ 3 ส.ค.- วัดมหาพุทธาราม จ.ศรีสะเกษ จัดพิธีบำเพ็ญกุศลออกเมรุ พระราชทานเพลิงศพ 7 พลเรือนจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พระวชิรสิทธิธาดา เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ วัดมหาพุทธาราม พร้อมพระสงฆ์สมณศักดิ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ ถวายพระธรรมเทศนา ในพิธีบำเพ็ญกุศลพระราชทานเพลิงศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการบำเพ็ญกุศลออกเมรุพระราชทานเพลิงศพ ผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวม 7 ราย ที่วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง ตำบลเมืองเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีนายธาตรี สิริรุ่งวนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานในพิธี และมีญาติ ครอบครัวของผู้เสียชีวิต เพื่อนนักเรียน เพื่อนร่วมงาน รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ร่วมพิธี บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 7 ราย ได้แก่ นางสาวรุ่งรัศ, เด็กหญิงทักษพร, เด็กชายพงศภัค, เด็กชายกิตติศักดิ์, นางสาวสาวิตรี, นางอรุณรัตน์ และนายสมศรี โดยมี 5 ราย […]

“เพื่อไทย” สดุดีทหารกล้า-อาลัยพลเรือน ผลักดันสู่โต๊ะเจรจา

พรรคเพื่อไทย 3 ส.ค.- “เพื่อไทย” สดุดีทหารกล้า-อาลัยพลเรือน ย้ำ ชีวิตคนไม่อาจประเมินค่าได้ ยัน ไม่ละทิ้งประชาชน พร้อมผลักดันความขัดแย้งสู่โต๊ะเจรจา น.ส. ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า จากสถานการณ์ความตึงเครียด และการปะทะบริเวณพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อปกป้องอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์จะคลี่คลายลง จากความพยายามในการเจรจาเพื่อยุติการปะทะของรัฐบาลไทย จากการปะทะที่เกิดขึ้น ได้นำไปสู่ความสูญเสีย ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 มีพลเรือน เสียชีวิต 17 ราย บาดเจ็บสาหัส 12 ราย บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 13 ราย รวมทั้งสิ้น 55 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 15 นาย บาดเจ็บ 196 นาย รวมทั้งสิ้น 211 นาย […]

รองโฆษก พท. ยันปมยึดคืนเขากระโดง รักษาผลประโยชน์ประเทศ

พรรคเพื่อไทย 3 ส.ค.- รองโฆษกเพื่อไทย ยัน มหาดไทยยึดคืนที่ดินเขากระโดง ไม่ใช่การใช้กลไกรัฐทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามหรือการเลือกปฏิบัติ แต่รักษาผลประโยชน์ของประเทศ ตามหลักกฎหมาย นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงมหาดไทยเดินหน้ายึดคืนที่ดินเขากระโดง จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากพรรคการเมืองบางพรรค ว่าเป็นเกมการเมืองว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันต่อสังคมว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามหรือการเลือกปฏิบัติ แต่เป็นการดำเนินการเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ บนหลักของกฎหมาย ความยุติธรรมและความโปร่งใส การดำเนินงานในกรณีนี้เกิดจากกระบวนการทางกฎหมายและการตรวจสอบที่ถูกต้องตามหลักนิติธรรม มีการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ย้อนหลังการวินิจฉัยของศาล และการบังคับตามกฏหมายของหน่วยงานรัฐ ยืนยันว่าทุกขั้นตอนไม่มีการเลือกปฏิบัติ ไม่ใช่การใช้กลไกรัฐที่จะต้องเล่นงานบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่ใช้เป็นเป็นการทวงคืนสิ่งที่เป็นของประชาชนทุกคน หากละเลยในกรณีที่มีการรุกล้ำที่ดินของรัฐหรือถือครองโดยไม่ชอบเพียงหนึ่งกรณีอาจเป็นบรรทัดฐานที่บั่นทอนความยุติธรรมในประเทศ “พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าเราจะไม่ปล่อยให้ทรัพยากรของชาติเป็นเครื่องมือของผลประโยชน์ส่วนตัวไม่ว่าผู้กระทำจะเป็นใครหรืออยู่ฝั่งใดทางการเมืองก็ตาม” รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยยังคงมุ่งมั่นทำงานด้วยความรอบคอบ จริงใจ และโปร่งใส เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ และประชาชนเป็นสำคัญทุกความเคลื่อนไหว ทุกการตัดสินใจล้วนผ่านการคิดวิเคราะห์และฟังเสียงจากหลายภาคส่วนอย่างรอบด้าน .-316 -สำนักข่าวไทย

เพื่อไทยขอทุกฝ่ายไม่สร้างชนวนขัดแย้งทางการเมือง

พรรคเพื่อไทย 3 ส.ค.- เพื่อไทย ย้ำกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยนัดชุมนุมสิทธิขั้นพื้นฐาน ขอ ทุกฝ่ายตระหนักไม่สร้างชนวนขัดแย้งทางการเมือง-ซ้ำเติมสถานการณ์เปราะบาง น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการนัดชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ว่า พรรคเพื่อไทยขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่าสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการชุมนุมโดยสงบนั้นเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกคนในระบอบประชาธิปไตย และพรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะปกป้องหลักการดังกล่าวอย่างเต็มที่ แต่ขณะนี้ประเทศของเรากำลังเผชิญกับสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สังคมไทยต้องการความร่วมมือ ความเข้าใจ และความเป็นเอกภาพจากทุกภาคส่วน พรรคเพื่อไทยจึงขอความร่วมมือจากทุกกลุ่มทุกฝ่ายให้ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการแสดงออกทางการเมือง โดยเฉพาะการแสดงออกที่เป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ หรือขยายความขัดแย้งของสังคมในช่วงเวลาที่เปราะบางนี้ “พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาลพร้อมฟังเสียงจากประชาชนทุกกลุ่ม แต่ขอให้ความเคลื่อนไหวตั้งอยู่บนฐานของความรับผิดชอบต่อส่วนรวม และไม่กลายเป็นชนวนของความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศ ในช่วงเวลาที่ประเทศต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างสูงสุด” น.ส.ขัตติยา ระบุ .-316 -สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ประชุม 20 ผู้ว่าฯ อีสาน เข้มโดรน-จับตาสถานที่สำคัญ

3 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ประชุม 20 ผู้ว่าฯ จังหวัดอีสาน เข้มมาตรการกำจัดโดรน สั่งจับตาสถานที่สำคัญ ศาลากลางจังหวัด-คลังอาวุธ-สถานีขนส่ง บูรณาการตำรวจจับผู้ก่อเหตุ ดำเนินคดีข้อหาหนัก “ก่อการร้าย-ไส้ศึก” เมื่อวันที่ 3 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า วานนี้ (2 ส.ค.) ได้มีการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 20 จังหวัดภาคอีสาน ผ่านระบบ VTC เรื่องมาตรการกำจัดโดรน โดยให้ผู้ว่าแต่ละจังหวัด ในฐานะ ผอ.กอ.รมน.จังหวัด ให้แต่ละหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและภาคเอกชน ประชาชน จัดหาเครื่องแอนตี้โดรน ป้องกันจังหวัดของตัวเอง โดยเฉพาะเพ่งเล็งในพื้นที่สำคัญ อาทิ ศาลากลางจังหวัด สนามกีฬา คลังอาวุธ สถานีตำรวจ สถานีขนส่ง และสนามบิน นอกจากนี้ให้มีการจัดชุดลาดตระเวนพิสูจน์ทราบบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ หากสามารถควบคุมตัวได้ให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดในทุกประเด็น เช่น ก่อการร้าย ไส้ศึก โดยโทษหนักสุดถึงขั้นประหารชีวิต คงต้องไปดูข้อกฎหมาย ทั้งนี้ได้กำชับห้ามปล่อยตัวง่ายๆ ต้องตรวจสอบไปถึงต้นตอ […]

พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายโดรน บินเหนือน่านฟ้าสุรินทร์

สุรินทร์ 3 ส.ค. – พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายโดรน บินเหนือน่านฟ้าเมืองสุรินทร์ ชาวบ้านกังวลเรื่องความปลอดภัย ขณะที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัดว่าเป็นโดรนหรือเครื่องบินขนาดเล็ก เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีรายงานว่าพบวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายโดรน บินเหนือหลายพื้นที่ในจังหวัดสุรินทร์เป็นจำนวนมาก โดยยังไม่มีคำชี้แจงอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานราชการ ว่าวัตถุดังกล่าวเป็นโดรนจริง หรือเป็นอากาศยานชนิดใดกันแน่ ชาวบ้านในพื้นที่ได้โพสต์และแชร์ภาพวัตถุปริศนา บินอยู่เหนือเขตเมืองและพื้นที่ชายแดน ซึ่งถือเป็นพื้นที่หวงห้ามตามคำสั่งของกองทัพ ห้ามอากาศยานไร้คนขับบินโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนสามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ทีมข่าวลงพื้นที่และสามารถบันทึกภาพวิดีโอไว้ได้ โดยพบวัตถุลักษณะคล้ายโดรนบินจากรอบนอกเมืองเข้าสู่เขตชั้นในของตัวเมืองสุรินทร์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่าเป็นโดรนหรือเครื่องบินขนาดเล็ก ล่าสุดเช้าวันนี้ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ยังจุดที่ชาวบ้านแจ้งว่าพบเห็นวัตถุดังกล่าว โดยมีการนำภาพถ่ายที่บันทึกไว้ตั้งแต่ช่วงเย็นขณะที่ท้องฟ้ายังสว่างให้ทีมข่าวดู ภาพปรากฏวัตถุคล้ายเครื่องบินขนาดเล็ก หรือโดรนที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัด ชาวบ้านบางส่วนแสดงความวิตก ว่า วัตถุดังกล่าวอาจมีลักษณะคล้ายโดรนพลีชีพหรืออาจบรรทุกวัตถุระเบิด ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกและกังวลในชุมชน จึงอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ หรือหน่วยงานความมั่นคง ออกมาชี้แจงโดยเร็ว เพื่อความสบายใจของประชาชนในพื้นที่ . – 716 – สำนักข่าวไทย

ค้น 2 สถานบันเทิงย่านบางรัก มั่วสุมเสพยา-เปิดเกินเวลา

กทม. 3 ส.ค.- เปิดปฏิบัติกวาดล้างยาเสพติด “NO Drugs NO Dealers” ตรวจค้น 2 สถานบันเทิงย่านบางรัก มั่วสุมเสพยา-เปิดเกินเวลา ตำรวจ สน.บางรัก ร่วมกับสืบนครบาล 6 และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กรุงเทพฯ เปิดปฏิบัติกวาดล้างยาเสพติด “NO Drugs NO Dealers” เข้าปิดล้อม ตรวจค้นสถานบันเทิง 2 แห่งย่านบางรัก แหล่งมั่วสุมของแรงงานชาวเมียนมา หลังพบเบาะแส เปิดเกินเวลา ปล่อยให้แรงงานต่างด้าวและนักเที่ยว เข้าไปมั่วสุมเสพยาเสพติด ขณะเข้าตรวจค้นพบนักท่องเที่ยวกำลังดื่มกินและเต้นกันอย่างสนุกสนาน เจ้าหน้าที่ขอให้หยุดทุกกิจกรรม ผลตรวจพบสารเสพติด นักเที่ยวรวม 27 คน อยู่เกินกำหนด 4 คน ไม่แจ้งสถานที่ทำงาน 13 คน ยึดบุหรี่ไฟฟ้า 24 แท่ง กัญชา15 มวน ใบยาสูบพม่า 8 มวน พร้อมดำเนินคดีกับเจ้าของร้านหลายข้อหา ทั้งเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และเปิดเกินเวลา […]

ยันไทยปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม-กม.ระหว่างประเทศ

ทำเนียบ 3 ส.ค.- รองโฆษกรัฐบาล ยันไทยปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม-กฎหมายระหว่างประเทศเคร่งครัด หลังกัมพูชาปล่อยข่าวปลอม ปม “ทหารไทยหวังปลุกปั่น-สร้างความปั่นป่วนในสังคม” นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพและข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ กล่าวหาทหารไทยว่ากระทำการโหดร้ายกับทหารกัมพูชา โดยเฉพาะการอ้างว่ามีการ “ตัดศีรษะ” และ “เหยียบย่ำศพ” นั้น ขอยืนยันว่าเป็น “ข่าวปลอม” ที่ไม่มีมูลความจริง และเป็นความพยายามบิดเบือนข้อมูลเพื่อปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชัง สร้างความตึงเครียดระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ รัฐบาลไทยขอชี้แจงว่า การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารไทยเป็นไปตามหลักมนุษยธรรม กฎหมายระหว่างประเทศ และระเบียบข้อบังคับของกองทัพอย่างเคร่งครัด ทหารกัมพูชาที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะบริเวณชายแดน ได้รับการดูแลรักษาพยาบาลจากฝ่ายไทยอย่างเหมาะสม ก่อนส่งตัวกลับประเทศผ่านจุดผ่านแดนช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ ด้วยกระบวนการที่เปิดเผย โปร่งใส และให้เกียรติ ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้เผยแพร่รายชื่อ 10 อันดับข่าวปลอมที่ถูกแชร์มากที่สุดในรอบสัปดาห์ ซึ่งล้วนเป็นข่าวบิดเบือนที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ได้แก่: ข่าวปลอมทั้งหมดนี้ ถูกตรวจสอบแล้วว่าเป็นการบิดเบือนข้อมูล โดยใช้ภาพเก่าหรือภาพจากต่างประเทศมาใส่คำบรรยายเท็จ เพื่อปลุกปั่นให้เกิดความเข้าใจผิดในวงกว้าง ซึ่งอาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ “รัฐบาลขอความร่วมมือประชาชนทุกคนร่วมกันหยุดวงจรข่าวปลอม อย่าแชร์ต่อหากไม่แน่ใจ ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากแหล่งข้อมูลทางการเท่านั้น หากพบข้อมูลน่าสงสัยหรืออาจเป็นข่าวปลอม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1111 หรือ Line ID: […]

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดGDPไทย68 โต 1.5%หลังจบดีลภาษีสหรัฐ

กรุงเทพฯ 3 ส.ค. – ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินไทยบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ ได้รับอัตราภาษีฯ ดีขึ้นที่ 19% หนุนมุมมองเศรษฐกิจไทยปี 68 โต 1.5% ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุ1 ส.ค.68 สหรัฐฯ ประกาศอัตราภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariff) ใหม่ต่อไทย ในอัตราที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากระดับ 36% มาอยู่ที่ 19% ใกล้เคียงกับภูมิภาคอาเซียน และดีกว่าเวียดนาม ส่งผลให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับมุมมองการส่งออกไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ดีขึ้นกว่าเดิม ภายใต้ข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ ไทยต้องยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ราว 90% ของสินค้าทั้งหมด รวมถึงลดมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีลงนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การเปิดตลาดนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ อาจไม่ทำให้สินค้าสหรัฐฯ ไหลบ่าเข้ามาในไทยมากอย่างที่กังวล ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2568 คาดส่งออกจะช่วยหนุนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตดีขึ้นเล็กน้อยที่ 1.5% จากเดิม 1.4% ท่ามกลางท่องเที่ยวโตต่ำกว่าคาด ประกอบกับปัจจัยกดดันจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณที่อาจต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้  ส่วนเรื่องส่งออกมอเตอร์ไซค์ไทยภาษีศุลกากรตอบแทน (Reciprocal Tariff) 19% คาดกระทบต่อการส่งออกมอเตอร์ไซค์ไปสหรัฐฯ เป็นบางรุ่น โดยรุ่นที่อาจเผชิญการแข่งขันมากขึ้น คือ […]

1 94 95 96 97 98 1,402