กมธ.ทหาร เรียกกองทัพบกแจงปมน้ำมันหาย

รัฐสภา 27 ส.ค.- กมธ.ทหาร เรียกกองทัพบกแจงกรณีน้ำมันหายที่สระบุรี-นนทบุรี ด้าน “เชตวัน” งง น้ำมันหาย แต่ซื้อคืน ไม่เท่ากับทุจริต มองคืบหน้าล่าช้า อาจรอปรับเลื่อนตำแหน่ง นายเชตวัน เตือประโคน สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน ในฐานะคณะกรรมาธิการการทหารสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง กรณีน้ำมันดีเซลที่หายไป จากมณฑลทหารบกที่ 18 จังหวัดสระบุรี ซึ่งจากการติดตามความคืบหน้าที่หายไป 215,000 ลิตร เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2565 ได้มีการรายงานให้ผู้บัญชาการทหารบกทราบในอีกหนึ่งปีต่อมา ซึ่งกองทัพบกได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งน้ำมันหายออกไปหนึ่งปีเต็ม แต่จากการตรวจสอบตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 จนถึง 12 ตุลาคม 2566 ก็ไม่มีคำตอบ จากนั้นจึงได้ทำหนังสือไปกระทรวงกลาโหม ก็ยังไม่มีคำตอบ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 ก็ได้ส่งหนังสือไปยังกองทัพบกและกระทรวงกลาโหม ให้ชี้แจงกลับมา ก็ได้แจ้งว่ายังอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จ และคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงได้ขอขยายเวลาไปจนถึง 29 พฤศจิกายน 2566 แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีหนังสือ ชี้แจงใดๆออกมา […]

สั่งให้เอาออกแล้ว เขมรทำคอนเทนต์ปักธงบ้านหนองจาน

27 ส.ค.- กกล.บูรพา แจงปมชาวเขมรปักธงกัมพูชาที่บ้านหนองจาน เป็นการสร้างคอนเทนต์ สั่งให้เอาออกแล้ว ศปก.ทภ.1 โดย กกล.บูรพา ชี้แจงภาพที่ปรากฏตามสื่อออนไลน์เมื่อวันที่ 26 ส.ค.68 ว่าประชาชนกัมพูชาได้นำธงชาติกัมพูชามาปักเสาธงหน้าแนวลวดหนามพื้นที่บ้านหนองจานนั้น ปัจจุบัน (27 ส.ค.68) จากการตรวจสอบพบว่าประชาชนกัมพูชา ได้นำธงดังกล่าวออกไป และทหารกัมพูชาได้ห้ามปรามการกระทำดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว คาดว่าการดำเนินการดังกล่าว เป็นการทำคอนเทนต์เพื่อลงสื่อออนไลน์ และนำลงไปเรียบร้อยแล้ว -สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” แจงปมขอสัญชาติไทย หากผิดกม.ไม่รับพิจารณา

มหาดไทย 27 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ย้อนถามใครคือ “เบญจามิน” หลังมีข่าวขอสัญชาติไทย หากผิดกฎหมายไม่รับพิจารณา แม้โยง “ทักษิณ” แต่ไม่เกี่ยวมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกรมการปกครองได้เสนอเรื่องการขอสัญญาชาติไทยของนายเบนจามิน เมาเออร์ เบอร์เกอร์ นักธุรกิจชาวแอฟริกาใต้ และนายหน้าขายเครื่องบินให้กับนายทักษิณ ชินวัตร มาให้พิจารณาหรือไม่ ว่ายังไม่ทราบเรื่อง มาก็ว่าไปตามกฎหมาย หากมีสิทธิ์ขอก็ขอได้ ส่วนจะอนุมัติหรือไม่อยู่ที่เรา เพราะมีกฎเกณฑ์อยู่แล้ว ในเรื่องการขอสัญชาติ หรือมีปัญหาทางด้านกฎหมายเราก็ไม่ให้ แต่ถ้าไม่มีอะไรเป็นไปตามข้อตกลง กติกาก็ไม่เป็นปัญหาอะไร ซึ่งตนยังไม่เคยได้ยินชื่อ และไม่รู้จักเขา ถ้าจะยื่นมาต้องผ่านหลายขั้นตอน ผ่านกองบัญชาการตำรวจสันติบาล มาอีกมาก “นายเบนจามินก็ไม่เกี่ยวกับผม และไม่เกี่ยวกับอะไรกับกระทรวงมหาดไทย ผมก็ไม่เคยได้ยืนเรื่องนี้มาก่อน” นายภูมิธรรม กล่าว เมื่อถามว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่านายเบนจามิน เคยเสนอมาในยุคของนายอนุทิน แต่เนื่องจากเอกสารไม่ครบ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนี้ตนไม่ทราบได้ ถ้าขึ้นมาไม่ผิดเลยก็ว่าไปตามกฎหมาย ถ้ามีอะไรที่ผิดกฎหมายตนก็ไม่ให้ยื่น เมื่อถามว่าอธิบดีกรมการปกครองได้รายงานเรื่องนี้มาหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องค้างเก่า […]

“ภูมิธรรม” เผย “บิ๊กเต่า” มีสิทธิร้องถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม

มหาดไทย27 ส.ค.- “ภูมิธรรม” เผย “บิ๊กเต่า” รายงานคืบหน้าคดีวัดพระบาทน้ำพุ ให้ “ป.ป.ช. – ปปง.” ร่วมตรวจสอบ ยังตอบไม่ได้มีการฟอกเงิน รอตำรวจแถลงความชัดเจน ส่วนร้องขอความเป็นธรรม ขึ้นตำแหน่งแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาระเบียบกฎเกณฑ์ ยันมีสิทธิร้องถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มารายงานความคืบหน้าคดีวัดพระบาทน้ำพุ ว่าได้รายงานว่าพบหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งก็จะทำการสอบสวน ถ้าชัดเจนอะไรแล้วก็คงจะมีแถลง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้แถลง เช่น ป.ป.ช. ปปง. และตำรวจ ส่วนที่ให้ ปปง. เข้ามาตรวจสอบด้วยแสดงว่ามีการฟอกเงินใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่าเราพูดไม่ได้ ต้องให้มีการสอบสวนแล้วดูข้อเท็จจริง ส่วนจะใช้เวลานานหรือไม่ อยู่ที่การทำคดี เราต้องระมัดระวัง ไม่ใช่ว่าเห็นอะไรแล้วไปทึกทัก ต้องไปดูว่ามันถูกต้อง หรือผิดกฎหมาย อยู่ที่คนทำคดี เรื่องนี้เราตอบยาก ส่วนกรณีที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ยื่นขอความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจประจำปี 2568 ในขณะเดียวกันพลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ก็มีการขึ้นตำแหน่งแบบฟาสต์แทก จากรองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เป็นผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ […]

“ภูมิธรรม” ย้ำไม่แทรกแซงเขากระโดง ปมเพิกถอนกรมที่ดินทำอยู่

มหาดไทย 27 ส.ค.- “ภูมิธรรม” แจงเรียก “ยุทธนา แพรดำ” แค่อยากทราบความคืบหน้าคดีเขากระโดง ชี้เป็นอำนาจดีเอสไอยกเป็นคดีพิเศษหรือไม่ แต่สั่งการแล้วให้ยึดกฎหมาย ไม่กลั่นแกล้งใคร บอกกรมที่ดินทำอยู่ เรื่องเพิกถอน ถ้าชัดเจนคงประกาศ ย้ำไม่แทรกแซง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ารายงานเรื่องเขากระโดงเมื่อวานนี้ (26 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล จะมีการรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ว่า ขึ้นอยู่กับอธิบดีดีเอสไอ ถ้าเข้าเงื่อนไขก็สามารถพิจารณา และถ้าอยู่ในอำนาจของดีเอสไอก็ดำเนินการได้ แต่หากต้องการความชัดเจน หรือต้องการการอนุมัติจากคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) อันนี้ค่อยนัดอีกที แต่อธิบดีดีเอสไอยังไม่มีการเสนออะไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนเมื่อวานนี้ตนเพียงอยากฟังว่าอะไรเป็นอะไร จึงให้มารายงานให้ทราบ และได้กำชับว่า ให้ยืนยันในหลักของกฎหมาย อย่าไปคิดกลั่นแกล้งใคร ให้ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และความเป็นจริง ถ้าผิดกฎหมายก็ดำเนินการ แต่ถ้าไม่ผิดก็ไม่มีอะไรที่ต้องทำ เมื่อถามว่า ในส่วนของกรมที่ดินได้ดำเนินการเรื่องเพิกถอนที่ดินเขากระโดงแล้วหรือยัง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ทราบเลย แต่ขณะนี้เขาทำหน้าที่อยู่ ถ้าชัดเจนคงประกาศ […]

แม่ทัพภาค 2 เตรียมแถลงข่าวผลประชุม RBC

27 ส.ค.- แม่ทัพภาคที่ 2 เตรียมแถลงข่าวผลประชุม RBC “ไทย-กัมพูชา” บริเวณด่านศุลกากร ช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ บรรยากาศก่อนการแถลงข่าวการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC ระหว่างไทยและกัมพูชา บริเวณด่านศุลกากร ช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ทหาร เตรียมความพร้อมทั้งการรักษาความปลอดภัยและห้องแถลงข่าว ส่วนพื้นที่การประชุมนั้นเป็นจุดเสี่ยง จึงไม่ให้สื่อมวลชนและผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตามขึ้นไป โดยกำหนดการประชุมในวันนี้ เวลา 10.00 น. เป็นการประชุม คณะเลขานุการนำโดยเสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 และเสนาธิการภูมิภาคทหารที่ 4เวลา 11.00 น. เป็นการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) กัมพูชา และ ไทย พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และ พลเอก โปว เฮง รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 เป็นประธานร่วม ส่วนบรรยากาศในพื้นที่ ชาวบ้านต่างทราบว่าจะการปรุะชุม RBC และอยากให้ผลออกมาตามข้อตกลงในการหยุดยิงเพื่อความปลอดภัย ขณะที่เวลา […]

สกัดจับรายวัน ต่างด้าวลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย

27 ส.ค.- จับรายวัน! ทหาร ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ สกัดจับต่างด้าวผิดกฎหมาย รับอยู่ที่ประเทศตนเองไม่มีงานทำ เมื่อวันที่ 27 ส.ค.68 พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ในฐานะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ พร้อมนายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากชุดปฏิบัติการข่าวในพื้นที่ ว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดน จ.กาญจนบุรี เข้ามายังพื้นที่ตอนใน จึงสั่งการให้ พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29 ในฐานะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พร้อมด้วย พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า จัดกำลังพลร่วมกับ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135, ฝ่ายปกครองอำเภอทองผาภูมิ และ สถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัด บริเวณ จุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ กระทั่งเวลา 05.30 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณ จุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ สังเกตพบรถยนต์ต้องสงสัยตามที่ได้รับแจ้งจากสายข่าว จำนวน 2 คัน […]

“แพทองธาร” ออกงานครั้งแรก หลังเก็บตัวสู้คดีคลิปเสียง

กระทรวงวัฒนธรรม 27 ส.ค.- “แพทองธาร” ออกงานทางการครั้งแรก เป็นประธานประชุม คกก.วัฒนธรรม-แถลงประกาศผลคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ 67 หลังเก็บตัวสู้คดีคลิปเสียง บอก ไม่ได้เจอสื่อมาพักนึงแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2568 ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยมีนายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วม นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า สวัสดีสื่อมวลชนเราไม่ได้เจอกันมาพักนึงแล้ว ขอขอบคุณผู้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ เนื่องจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในฐานะ ประธานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติติดภารกิจ จึงได้มอบหมายให้ตนเอง ในฐานะรองประธานฯ เป็นประธานการประชุมแทน โดยวันนี้มีวาระเร่งด่วนพิจารณา 2 เรื่องคือ การขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายของกองทุนส่งเสริมงานพัฒนาวัฒนธรรม ประจำปี 2569 และวาระลับ ซึ่งถือเป็นเรื่อง โดยจะขอให้คณะกรรมการยกวาระรับขึ้นมาพิจารณาเป็นลำดับแรก นอกจากนี้ยังมีเรื่องแจ้งเพื่อทราบ เพื่อให้คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติดำเนินการจำนวน 4 เรื่อง ทั้งนี้ภายหลังการประชุม นางสาวแพทองธาร จะเป็นประธานในการแถลงข่าวการประกาศผลการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช 2567 อย่างไรก็ตามวันนี้ (27 ส.ค.) […]

จับตาประชุม RBC จุดผ่านแดนช่องสะงำ พื้นที่กองทัพภาค 2

27 ส.ค.- จับตาการประชุม RBC วันนี้ ที่จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 จับตาการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC วันนี้ ที่จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการฝ่ายไทย และผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการฝ่ายกัมพูชา ภายหลังการประชุม จะมีการแถลงข่าวร่วมกัน ส่วนสถานการณ์ชายแดน 11 จุด ใน 7 จังหวัด มีความสงบเรียบร้อยปกติ กองทัพไทยยังคงตรึงกำลังและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ย้ำเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย และจะนำประเด็นชาวกัมพูชาบุกรื้อลวดหนามและทำร้ายเจ้าหน้าที่เข้าสู่การประชุม GBC เดือนกันยายนนี้ -สำนักข่าวไทย

UNHCR ชื่นชมไทยต้นแบบดูแลมนุษยธรรม-กระตุ้นศก.ท้องถิ่น

ทำเนียบ 27 ส.ค.- รัฐบาลเปิดโอกาสให้สิทธิผู้ลี้ภัยสู้รบในเมียนมาทำงานได้ ขณะที่ UNHCR ชื่นชมประเทศไทย ถือเป็นต้นแบบในการดูแลมนุษยธรรม และกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) แถลงชื่นชม รัฐบาลไทย ให้สิทธิในการทำงานแก่ผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาที่พำนักระยะยาวในไทย โดยวานนี้ (26 ส.ค.) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวที่พำนักอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลี้ภัยสามารถทำงานในประเทศได้อย่างถูกกฎหมาย และมีส่วนช่วยสร้างเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญ “UNHCR ระบุว่าประเทศไทยไม่เพียงแต่ยึดมั่นในหลักการด้านมนุษยธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่ออนาคตของไทยอีกด้วย ผู้ลี้ภัยนอกจากจะสามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวแล้ว ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นผ่านการบริโภค และส่งเสริมการสร้างงาน ซึ่งจะมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของ GDP และความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจของประเทศ” นโยบายใหม่นี้ ถือเป็นการต่อยอดความเป็นผู้นำและบทบาทสำคัญในการให้ที่พักพิงแก่ผู้ลี้ภัยของไทยที่มีมานานกว่า 50 ปี ซึ่งจะถือเป็นมาตรฐานใหม่ในภูมิภาคสำหรับการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยที่ยั่งยืน โดยยึดหลักสิทธิมนุษยชน และอาจเป็นแบบอย่างให้กับประเทศอื่นๆ ที่เผชิญกับความท้าทายที่คล้ายคลึงกันอีกด้วย “รัฐบาลให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมแก่คนต่างด้าวกลุ่มผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมาอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบัน องค์กรระหว่างประเทศและองค์การนอกภาครัฐต่างๆ ปรับลดงบประมาณส่งผลรัฐบาลไทย ต้องรับภาระในการดูแลคนต่างด้าวเพิ่มขึ้น ดังนั้น ครม. จึงเล็งเห็นว่าเพื่อบรรเทาภาระของรัฐและสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ตลอดจนแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน จึงผ่อนผันให้กลุ่มคนต่างด้าวดังกล่าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อทำงานเพื่อให้สามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวต่อไป” นายจิรายุ กล่าว ปัจจุบันพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา […]

สู้สุดใจ! สาวไทยพ่ายเนเธอร์แลนด์ 2-3 เซต กอดคอลิ่ว 16 ทีม

27 ส.ค.- ทีมนักตบสาวไทย สู้สุดใจ ก่อนพ่ายเนเธอร์แลนด์ 2-3 เซต จบอันดับ 2 ของกลุ่ม เข้ารอบ 16 ทีม ศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 ศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ใน 4 จังหวัดได้แก่ เชียงใหม่ นครราชสีมา ภูเก็ต และกรุงเทพมหานคร โดยการแข่งขันในกลุ่มเอ ที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก กรุงเทพฯ ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ที่นัดแรกเอาชนะ อียิปต์ มา 3-1 เซต และเอาชนะ สวีเดน 3-0 เซต มี 6 แต้มนำเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมแน่นอนแล้ว พร้อมขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 18 ของของโลก มาลงสนามนัดสุดท้ายของกลุ่มเอ เจอกับ เนเธอร์แลนด์ อันดับ […]

กรมการปกครองสั่งคุมเข้ม ‘สแกนม่านตาแลกเหรียญ’

กทม. 27 ส.ค. – กรมการปกครองสั่งกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน สอดส่องกิจกรรมสแกนม่านตาแลกเหรียญ อย่าให้หลอกลวงประชาชน เตือนไม่ใช่การเก็บข้อมูลของสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เผยแพร่ข้อมูลประชาสัมพันธ์ โดยระบุว่า ได้รับรายงานว่ามีกลุ่มบุคคลใช้อุปกรณ์สแกนม่านตา ชื่อว่า Orb ในการสแกนเก็บข้อมูลม่านตาของประชาชนเพื่อยืนยันตัวตนตามห้างสรรพสินค้า และชักชวนไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเหรียญเงินดิจิทัลคริปโทเคอร์เรนซี Cryptocurrency เป็นเงินประมาณ 500 – 1,000 บาท     กรมการปกครองได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่าการดำเนินการจัดเก็บข้อมูลม่านตาดังกล่าวนั้นไม่ใช่การดำเนินการจัดเก็บข้อมูลของสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง หรือส่วนราชการอื่น ๆ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาสัมพันธ์ข้อมูลในท้องที่ สอดส่องการจัดกิจกรรมดังกล่าวอย่าให้เกิดการหลอกลวงประชาชน เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) วิเคราะห์ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ หากประชาชนถูกหลอกหลวงไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือพบเห็นการกระทำความผิดดังกล่าวสามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด/อำเภอ หรือสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 -สำนักข่าวไทย

1 53 54 55 56 57 1,402