รวบเมียนมาสุดโหด แทงตัดขั้วหัวใจเพื่อนเมียดับ

ลพบุรี 14 ก.ย. – รวบตัวหนุ่มเมียนมาสุดโหด ใช้มีดจ้วงแทงเพื่อนภรรยาเสียชีวิต อ้างก่อเหตุเพราะปกปิดข้อมูล ทำให้ไม่ได้เจอภรรยาที่หนีออกจากบ้าน แถมถูกหัวเราะเยาะ ด่าทอสารพัด จนทนไม่ไหว บันดาลโทสะก่อเหตุดังกล่าว ตำรวจสืบสวน สภ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี นำกำลังเข้าจับกุมนาย win chay อายุ 29 ปี ชาวเมียนมา ได้บริเวณพื้นที่ป่ารกใน ต.ช่องสาริกา อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี พร้อมของกลางอาวุธมีดยาวประมาณ 30 เซนติเมตร หลังเมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ นาย win chay ใช้อาวุธมีดพกจ้วงแทง น.ส.ซินเม พิว เพื่อนสาวของภรรยา จนเสียชีวิตหน้าห้องเช่าใน ต.ช่องสาริกา อ.พัฒนานิคม และหลบหนีไปซ่อนตัวในป่ารกใกล้กับจุดเกิดเหตุ แต่สุดท้ายไม่รอด ถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด จากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณห้องเช่าที่เกิดเหตุ ท่ามกลางความดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และใช้เวลาไม่นานในการทำแผนฯ เพราะเกรงว่าอาจถูก ชาวบ้านและเพื่อนผู้เสียชีวิตรุมประชาทัณฑ์ หนุ่มเมียนมาอ้างก่อเหตุเพราะแค้นถูกเพื่อนภรรยาด่าทอ-หัวเราะเยาะสอบปากคำผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่า อยู่กินกับภรรยาที่ จ.สมุทรสาคร มานาน ก่อนย้ายมากรุงเทพฯ แต่อยู่ๆ ภรรยาขอเลิก […]

“ทักษิณ” กักโรคครบ 5 วัน จับตาเปิดเยี่ยมครั้งแรกพรุ่งนี้

14 ก.ย.- “ทักษิณ” กักโรคครบ 5 วัน จับตาพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) เปิดให้เข้าเยี่ยมวันแรก โฆษกกรมราชทัณฑ์ ยันดำเนินการเหมือนผู้คุมขังทั่วไป พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงกรณีการคุมขังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่วันนี้ครบ 5 วันกำหนดการกักตัวเฝ้าระวังโรค อาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนจะจำแนกแยกแดนไปอยู่แดนไหน ขึ้นอยู่กับวงรอบของแต่ละเรือนจำ ระหว่างรอจำแนกก็จะให้อยู่ที่แดนกักโรคไปก่อน และเมื่อถามว่านายทักษิณจะไปอยู่แดนผู้สูงอายุหรือไม่ พันตำรวจโท เชน บอกว่า ผู้สูงอายุจะมีหลักเกณฑ์รับผู้ต้องขังอายุเกิน 65 ปีซึ่งนายทักษิณเข้าเกณฑ์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับทางผู้บัญชาการเรือนจำของเปรมว่าจะดำเนินการอย่างไร พันตำรวจโท เชน ยังบอกอีกว่า สำหรับวันพรุ่งนี้ที่จะอนุญาตให้ญาติและทนายความเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ทางเรือนจำมีความพร้อมแต่ไม่ได้จัดสถานที่ให้เยี่ยมเป็นพิเศษ ทุกอย่างจะดำเนินการเหมือนผู้คุมขังทั่วไป เบื้องต้นตนได้รับรายงานว่าจะมีญาติเข้าเยี่ยม แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพราะยังไม่เป็นการเยี่ยมญาติแบบใกล้ชิดที่สัมผัสกันได้ ส่วนการรักษาความปลอดภัย หากมีกลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามาให้กำลังใจก็จะประสานตำรวจท้องที่เข้ามาดูแลอำนวยความสะดวก -สำนักข่าวไทย

ซูเปอร์โพลเผยคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมเปิดด่านไทย-กัมพูชา

14 ก.ย.- ซูเปอร์โพลสำรวจข้อดี-ข้อเสีย การเปิดหรือปิดด่านไทย-กัมพูชา พบ 38.9% กระตุ้นเศรษฐกิจชายแดน แต่ 60.7% มองทำร้ายจิตใจคนไทย ทำลายศักดิ์ศรี ยังไม่พร้อมคืนดีหรือให้อภัย วันนี้ (14 ก.ย.68) ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้ก่อตั้งสำนักวิจัยซูเปอร์โพล มูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เปิดเผยรายงานผลสำรวจเรื่อง เสียงประชาชนต่อการเปิดด่านไทย-กัมพูชา จากกลุ่มตัวอย่างทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศจำนวน 1,158 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 12 – 13 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ผลการสำรวจที่ค้นพบ สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนเห็นข้อดีของการเปิดด่านในหลายมิติ แต่ตัวเลขส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าร้อยละ 50 ทั้งหมด โดยลำดับแรกคือ การกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดน ได้รับการยอมรับมากที่สุดที่ร้อยละ 38.9 รองลงมาคือ การส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ร้อยละ 33.4 และ การเสริมสร้างสันติภาพชายแดน ร้อยละ 32.8 ขณะที่ แรงงานเข้าระบบถูกกฎหมาย ได้ร้อยละ 24.5 และข้อดีอื่น ๆ […]

“อนุทิน” โพสต์ภาพเปิดบ้านรับ “ทูตรัสเซีย” เผยเป็นเพื่อนกันมานาน

14 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพเปิดบ้านพักต้อนรับ “ทูตรัสเซีย” ก่อนได้นั่งนายกฯ หนึ่งสัปดาห์ เผย เป็นเพื่อนกันมานาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (14 ก.ย.)นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุ ยินดีต้อนรับ นายเยฟเกนี โตมีฮิน (Evgeny Tomikhin) เอกอัครราชทูตรัสเซีย ที่ได้มาเยี่ยมบ้านผม หลังจากนัดหมายกันมานาน เอกอัครราชทูตเยฟเกนี เป็นเพื่อนกันมานาน นับตั้งแต่ท่านเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 6 ปีก่อน เราฝึกพูดภาษาจีนกลางทุกครั้งที่พบกัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่ผมจะได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี. -สำนักข่าวไทย

“สุรเดช” ไม่เห็นด้วยเปิดด่าน แนะเจรจาเงื่อนไขชดใช้เยียวยา

14 ก.ย.- “สุรเดช” ไม่เห็นด้วยเปิดด่าน ลั่นต้องยกเลิก MOU 43-44 และข้อตกลงทั้งหมดที่ผ่านมา หลังไทยได้รัฐบาลใหม่แล้ว เชื่อดีกว่ารัฐบาลเก่าที่อ่อนแอ เจรจาเสียเปรียบตลอดแน่นอน แนะเจรจาเงื่อนไขให้กัมพูชาชดใช้เยียวยาสิ่งที่ไทยสูญเสียทั้งชีวิต-ทรัพย์สินก่อนคุยเปิดด่านในอนาคต นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุม GBC โดยมีข้อหนึ่งที่มีรายงานมีบางประเทศกดดันให้ไทยทบทวนการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งปรากฎว่ามีกระแสสังคมออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยผ่านโซเชียลฯเป็นจำนวนมากว่า ส่วนตัวตนก็ไม่เห็นด้วยในการเปิดด่านเช่นกัน เพราะเราไว้ใจเขมรไม่ได้ ตนถึงบอกว่าอยากให้มีการกั้นกำแพงเลย การเปิดด่านควรต้องเป็นหลังจากที่มีการกั้นกำแพงแล้ว และเราไม่ควรฟังประเทศใดๆที่มากดดันเรา ปัญหาอะไรที่ประเทศเหล่านั้นกังวลให้เขาไปจัดการกันเอง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของอธิปไตยของไทย ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมาก “เราต้องเอาตามข้อตกลงของเรา ไม่ใช่ข้อตกลงของกัมพูชา พูดง่ายๆคือที่ผ่านมาต้องยกเลิกทั้งหมด ไม่ต้องไปเจรจาอะไรกับกัมพูชาแล้ว และตอนนี้เราเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว ดังนั้นเราก็ต้องเปลี่ยนท่าทีใหม่ เราต้องไม่อ่อนแอเหมือนรัฐบาลเก่าที่มีการเจรจาเสียเปรียบมาโดยตลอด ทั้งๆที่ถ้าเราต่อสู้กัน ปะทะกัน เราก็ชนะอยู่แล้ว ที่ผ่านมากัมพูชาก็พยายามละเมิดอธิปไตยและข้อตกลงมาตลอด ที่ไปตกลงกันมาไม่มีประโยชน์เลย เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเปิดด่านจะต้องมีการยกเลิกเอ็มโอยู 43 และ44 ก่อน เป็นเอ็มโอยูที่ทางพรรคภูมิใจไทยเสนอในสภาแล้ว และตอนนี้พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำรัฐบาลแล้ว ก็ต้องมาพิจารณาตรงนี้ก่อนเลย คือยกเลิกไปเลยทั้งเอ็มโอยู 43 และ 44 ข้อตกลงเก่าที่ผ่านมายกเลิกให้หมด แล้วมาดูกันใหม่ ส่วนการเปิดด่านต้องเป็นขั้นตอนสุดท้าย ถ้ากัมพูชายอมก็ต้องชดใช้สิ่งที่ประเทศไทยสูญเสียทั้งทรัพย์สินและชีวิตของประชาชนและทหาร จะมาใช้วิธีว่าเมื่อปะทะกันแล้ว […]

‘ดีอี’ จ่อตั้งกลไกตรวจแยกผู้บริสุทธิ์-ผู้แอบอ้าง ปมอายัดบัญชี

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – “ปลัดดีอี” ย้ำเป็นการระงับเงินต้องสงสัยเอี่ยวบัญชีม้า เหตุผู้ค้าโอนเงินไม่ได้ วอน ปชช.อย่าตื่นตระหนก ยันเร่งแก้ไข-ตั้งวอร์รูมรับเรื่อง จ่อตั้งกลไกตรวจสอบแยกผู้บริสุทธิ์-ผู้แอบอ้าง นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์หลังการหารือกับ ตัวแทนธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้แทนสมาคมธนาคารไทย ถึงกรณีที่มีผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกระงับเงินในบัญชีธนาคาร ว่า จากกรณีกระแสข่าวที่ออกไปว่าอายัดบัญชีนั้น ตนขอชี้แจงว่าไม่ใช่การอายัดบัญชี แต่เป็นการระงับวงเงินที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แต่ในส่วนอื่นยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ โดยการระงับดังกล่าวเป็นการระงับชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งตามกฎหมาย ธนาคารจะมีสิทธิ์ระงับเงินเป็นเวลา 3 วัน แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีสิทธิ์ระงับวงเงิน ไม่เกิน 7 วัน และถ้าหากว่าภายในระยะเวลา 7 วัน ตรวจสอบแล้วไม่พบเบาะแสเพิ่มเติมว่าเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า วงเงินที่ถูกระงับดังกล่าวก็จะสามารถใช้ได้ตามปกติ และเงินที่ถูกระงับไว้ก็จะถูกโอนกลับคืนในบัญชี ส่วนกรณีที่บางรายยอดเงินในบัญชีติดลบ ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบพบว่าที่ยอดเงินในบัญชีที่ติดลบอาจเป็นเพราะยอดเงินในบัญชีของผู้ที่ถูกระงับเหลือไม่เพียงพอกับยอดเงินที่เคยทำได้รับโอนมาจากบัญชีม้า จึงเป็นสาเหตุทำให้จำนวนเงินในบัญชีขึ้นว่าติดลบ นอกจากนี้ ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ ระบุว่า สำหรับกลไกการอายัดบัญชี จะมีกรณีเดียวเท่านั้นคือบัญชีจะถูกยุติการใช้งาน และไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้เลย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเป็นกระแสข่าวในโลกโซเชียลเป็นเพียงแค่การระงับยอดเงินบางส่วนที่ต้องสงสัย แต่ เงินจำนวนอื่น และบัญชียังใช้ได้ตามปกติ […]

หลวงพี่สะดุ้ง งูเขียวโผล่กลางห้องน้ำ

ปราจีนบุรี 14 ก.ย.- จีวรบิน! หลวงพี่สะดุ้งหวิดถูกงูเขียวฉก ขณะเข้าไปปลดทุกข์ในห้องน้ำ วิ่งหนีเตลิดขอความช่วยเหลือจากกู้ภัยช่วยจับ พระครูสมุห์โสภณวิชญ์ ปัญญาวโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดใหม่กรงทอง อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ชี้ให้หน่วยกู้ภัยดูงูเขียวพระอินทร์ ที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำ หลังเกือบถูกงูตัวดังกล่าวฉก ขณะเข้าห้องน้ำเพื่อปลดทุกข์ จนต้องวิ่งหนีเตลิดออกมา ขอความช่วยเหลือ จากหน่วยกู้ภัย หน่วยกู้ภัยใช้เวลาจับงูตัวนี้อยู่นานเกือบ 20 นาที เพราะงู มีนิสัยดุร้าย พยายามจะแว้งกัดตลอดเวลา ทำให้การจับงูเป็นไปอย่างยากลำบาก จนต้องใช้ผ้าขนหนูคลุมงูไว้ให้อยู่นิ่งๆ ก่อนจับตัวได้ในที่สุด และนำงูไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ พระครูสมุห์โสภณวิชญ์ เล่าว่า ขณะตนกำลังจะไปเข้าห้องน้ำเพื่อปลดทุกข์ แต่กลับจ๊ะเอ๋กับงูที่กำลังจะพุ่งเข้ามาหาตน ทำให้ตกใจ รีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำ โดยห้องน้ำดังกล่าวอยู่บริเวณด้านหลังที่ทำงาน เบื้องต้นคาดเป็นงูเขียวพระอินทร์หรืองูเขียวเข้ม อาจกลัวเสียงฟ้าร้องหรือฝนที่ตกในพื้นที่จึงเลื้อยเข้ามาอยู่ในห้องน้ำ ซึ่งปกติบริเวณห้องน้ำของพระจะไม่เคยมีสัตว์เลื้อยคลานเข้ามาเเบบนี้ เนื่องจากว่าพื้นที่ภายในวัดไม่มีต้นไม้ เป็นลานปูนลานหินอ่อน -สำนักข่าวไทย

สนั่นโซเชียล พนง.โรงแรมกระชากผม เรียกเงิน 1 พันบาท

พัทยา 14 ก.ย.- สนั่นโซเชียล! พนักงานโรงแรมกระชากผม เพื่อเรียกเงิน 1,000 บาท โดยอ้างจะเอาไปคืนลูกค้า สุดท้ายผู้เสียหายโร่แจ้งความดำเนินคดี ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความถามสังคมออนไลน์ “พนักงานสามารถกระชากหัวลูกค้าแบบนี้ได้หรือ เคลียร์ไม่ลงก็ควรพาไปโรงพัก ไม่ใช่มากระชากหัวลูกค้าแบบนี้ ทั้งๆ ที่น้องก็ทำงานเสร็จ และลูกค้าก็ให้น้องออกจากโรงแรมแล้ว” พร้อมทั้งโพสต์คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุพบผู้เสียหายทั้ง 2 ราย ที่อยู่ในคลิปเหตุการณ์ที่ถูกพนักงานโรงแรม ดึงตัวไว้ไม่ให้ออกจากโรงแรมดังกล่าว โดยเล่าให้ฟังว่ารับงานเอ็นเตอร์เทนลูกค้าชาวต่างชาติ คิดค่าจ้างชั่วโมงละ 1,000 บาทต่อคน ซึ่งพอหลังจากจบงาน ลูกค้าก็ได้ให้ค่าตอบแทนเป็นเงินคนละ 1,000 บาท เมื่อจะออกจากโรงแรม พนักงานโรงแรมกลับไม่ให้ออกจากโรงแรม โดยอ้างว่าจะเอาเงินไปคืนให้ลูกค้า 1,000 บาท ซึ่งลูกค้าก็ไม่ได้เรียกเงินคืน ดังที่พนักงานโรงแรมกล่าวอ้างแต่ประการใด ต่อมาทั้ง 2 คน ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเมืองพัทยา เพื่อขอความช่วยเหลือ และจะดำเนินคดีกับพนักงานโรงแรมคนดังกล่าวให้ถึงที่สุด -สำนักข่าวไทย

ตชด.วิ่งไล่จับคนร้ายลอบขน จยย. จวนตัวกระโดดน้ำหนี

เลย 14 ก.ย.- เจ้าหน้าที่ ตชด. วิ่งไล่จับคนร้าย ขณะลอบขนรถจักรยานยนต์ข้ามไปฝั่งลาว แต่เมื่อคนร้ายเห็นว่าจวนตัว กระโดดลงแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวกราก หนีไปได้หวุดหวิด ตำรวจตระเวนชายแดน 246 นำโดย พ.ต.ต.สุเมธ พลเยี่ยม ผบ.ร้อย ฐานปฏิบัติการลาดปู่ จังหวัดเลย ต้องวิ่งไล่กวดคนร้าย ขณะตรวจพบการลักลอบนำรถจักรยานยนต์ ข้ามแม่น้ำเหือง บริเวณแก่งเครือฮาว บ้านปากห้วย ม.7 ต.หนองผือ อ.ท่าลี่ จ.เลย เมื่อช่วงเย็นวานนี้ โดยเจ้าหน้าที่ พบชายคนหนึ่งกำลังลักลอบนำรถจักรยานยนต์สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ลงเรือกีบเพื่อข้ามไปยัง สปป ลาว เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวขอตรวจค้น ชายดังกล่าวกลับทิ้งรถจักรยานยนต์ กระโดดลงแม่น้ำเหืองที่กำลังไหลเชี่ยวกราก หลบหนีไปได้ โดยกล้องวงจรปิดที่ติดตัวเจ้าหน้าที่จับภาพได้ทุกขั้นตอน หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจรถยึดรถและประสานไปยังศุลกากรท่าลี่ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าลี่ ดำเนินการตามกฎหมาย -สำนักข่าวไทย

หนุ่มเมาขับร่ำไห้กราบขอโทษเหยื่อ ซิ่งเก๋งเสย จยย. สาหัส 3

อยุธยา 14 ก.ย.- หนุ่มวัย 24 ร่ำไห้กราบขอโทษเหยื่อ หลังขับเก๋งพุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ เจ็บสาหัส 3 ราย สาบานเลิกดื่มเหล้าตลอดชีวิต นายภาณุพงศ์ หนุ่มวัย 24 ปี ร่ำไห้กราบขอโทษผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังขับเก๋งพุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ บนถนนโรจนะ ขาออก ก่อนขึ้นสะพานต่างระดับอยุธยา ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อเวลา 01.30 น.คืนที่ผ่านมา ทำให้คนขับรถจักรยานยนต์และคนซ้อนท้ายอีก 2 คน ซึ่งเป็นชาย 1 คน และหญิง 2 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัส กระเด็นกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง หนึ่งในนั้นเป็นหญิงหมดสติ ขาขวาเกือบขาด เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนประสานทีมแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลราชธานี นำตัวส่งรักษาด่วน ส่วนอีก 2 ราย ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา หลังเกิดอุบัติเหตุ นายภาณุพงศ์ คนขับรถเก๋ง ที่เดินมาดูการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ทรุดตัวร่ำไห้ด้วยความเสียใจอย่างหนัก เพราะสำนึกผิด พร้อมอธิษฐานขอให้ผู้บาดเจ็บปลอดภัย เจ้าตัวยอมรับทั้งน้ำตาพร้อมพูดว่า “จะเลิกดื่มเหล้าตลอดชีวิต” […]

จนท.ห้ามล่าสัตว์ป่า หายตัวปริศนา 3 วัน หลังไปขายลอตเตอรี่

อุทัยธานี 14 ก.ย.- แม่เศร้าลูกชาย ซึ่งเป็น จนท.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา หายตัวปริศนา 3 วัน หลังออกเวรไปเร่ขายลอตเตอรี่ แต่จนถึงขณะนี้ ยังติดต่อไม่ได้ นางจำรัส อายุ 57 ปี ชาวบ้านบึงเจริญ หมู่ 9 ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี นำเบาะแส เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด มอบให้สื่อมวลชน ช่วยเป็นกระบอกเสียง ในการตามหาลูกชาย คือนายเอกฉัตร อายุ 39 ปี ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา ต.ระบำ อำเภอลานสัก จ.อุทัยธานี หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนาน 3 วัน โดยภาพวงจรปิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน นายเอกฉัตรนำแผงลอตเตอรี่มาขาย ที่ร้านของชำของแม่ ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ สีแดงออกไป กระทั่งล่าสุด วันที่ 11 กันยายน กล้องอีกจุดจับภาพนายเอกฉัตร ขี่รถจักรยานยนต์ สีเขียว ทะเบียน 1ขอ […]

ทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 600 ต่อปี

14 ก.ย.- ตำรวจสอบสวนกลาง ทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 600 ต่อปี พบเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 30 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง บุกจับนายณัฐพงษ์ อายุ 36 ปี นายวิเนตร อายุ 28 ปี และนายธีรวุฒิ อายุ 34 ปี ที่อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข้อหาร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต และเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พร้อมของกลางหลายรายการ หลังมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสเครือข่ายเงินกู้นอกระบบเก็บดอกเบี้ยถึงร้อยละ 626.25 ต่อปี กลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย ที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนถูกกฎหมายได้ ผู้กู้ไม่ต้องใช้หลักฐานยืนยันตัวตนไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน โอนเงินให้ผู้กู้ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ไปบัญชีธนาคารของผู้กู้ โดยหักยอดเงินกู้เป็นดอกเบี้ยงวดแรก และงวดสุดท้ายไว้ก่อน หากผิดนัดชำระหนี้ ก็จะไประรานลูกหนี้อย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย. -สำนักข่าวไทย

1 22 23 24 25 26 1,402