นัดเสื้อแดงกินข้าวหน้าเรือนจำ 20 ก.ย. ให้กำลังใจ “ทักษิณ”

กรุงเทพฯ 18 ก.ย.- “วรชัย” นัดเสื้อแดงกินข้าวหน้าเรือนจำ ให้กำลังใจ “ทักษิณ” 20 ก.ย.นี้ นายวรชัย เหมะ อดีตสส.สมุทรปราการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำคลองเปรม ว่า การตัดสินใจของนายทักษิณ ที่เดินทางกลับมาฟังคำสั่งศาลต้องมีจิตใจเด็ดเดี่ยว เพราะการอยู่ในเรือนจำถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพอย่างร้ายแรงที่สุด แม้ว่านายทักษิณ ได้เดินทางออกไปต่างประเทศ จนมีคนวิพากษ์วิจารณ์ว่านายทักษิณ หนีแล้ว แต่ก็กลับมาฟังคำตัดสินและยอมรับคำตัดสินเข้าไปอยู่ในเรือนจำ “พวกเราพี่น้องเสื้อแดงและคนที่รักประชาธิปไตยต่างเห็นใจนายทักษิณ เพราะรู้ว่าการอยู่ในเรือนจำกำลังใจเป็นเรื่องสำคัญที่สุด โดยเฉพาะกำลังใจจากครอบครัว นักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้นายทักษิณ อยู่ได้ ดังนั้นในวันเสาร์ที่ 20 ก.ย. กลุ่มคนเสื้อแดงที่เคารพรัก และพี่น้องฝ่ายประชาธิปไตยที่รักเคารพนายทักษิณ จะไปรวมตัวกันที่หน้าเรือนจำคลองเปรมเวลา 15.00 น. เพื่อทานข้าวร่วมกันหน้าเรือนจำพร้อมกับนายทักษิณ ที่จะทานข้าวเย็นอยู่ในเรือนจำ เป็นการส่งกำลังใจให้สู้ต่อเป็นเสาหลักที่จะกลับมาทำงานให้กับประเทศชาติต่อไป และเมื่อถึงวันที่นายทักษิณ ออกจากเรือนจำจะได้มีโอกาสใช้ความรู้ความสามารถมาให้คำแนะนำการแก้ปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชนอีกครั้ง ”นายวรชัย ระบุ .-316 -สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ซัด “ปชน.” ยื่นดาบให้ “ภท.” มีอำนาจล้นฟ้า

รัฐสภา18 ก.ย.- “ภูมิธรรม” ตั้งข้อสังเกตปมเขากระโดงพลิกได้อย่างไร หลังศาลปกครองสูงสุดเคยพิพากษาแล้ว ปูด “อนุทิน” โทรหาผู้ใหญ่ในดีเอสไอ-มท.-คมนาคม ซัด “พรรคประชาชน” ยื่นดาบให้ “ภูมิใจไทย” มีอำนาจล้นฟ้า คุมสภา-ฝ่ายบริหาร มอง ยังไม่ทันตั้งรัฐบาลเสร็จเรื่องต่างๆ จะกลับสู่สภาพปกติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง กรณีกรมที่ดินแถลงข่าวยุติการเพิกถอนที่ดินเขากระโดง ว่า ไม่น่าแปลกใจ ตอนนี้นายอนุทินชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครใหญ่กว่าแล้ว ถ้ากล้าจะทำอะไรแบบนี้ต้องคิดให้ดีๆ ซึ่งประเด็นเขากระโดง ถ้าเทียบกับกรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส.ราชบุรี ซึ่งที่เป็นที่ดินของหลวงในการจัดสรรให้ราษฎรครอบครอง แต่เขากระโดงเป็นที่ดินพระราชทาน หัวใจของเรื่องนี้คือที่ดินพระราชทานของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 และมีการออกกฤษฎีกาในสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ เมื่อจุดเริ่มต้นเป็นแบบนี้ เป็นที่ดินพระราชทาน ที่เป็นของหลวงโดยแท้ไม่อาจเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ ดังนั้นการที่จะไปได้ที่ดินมาจากไหนก็ต้องไปพิสูจน์ตัวเองว่าได้มาโดยชอบธรรม ซึ่งมันชอบไม่ได้ มันไม่มีทางได้โดยชอบ การครอบครองที่ดินแปลงนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ไปเช่าซื้อ หรืออะไรต่างๆแต่อยู่ๆเรื่องนี้มาแปลสภาพเป็นแบบนี้ คนที่ตัดสินใจทำเรื่องนี้ไม่ว่าเป็นใครต้องตัดสินใจ และต้องดูเจตนาให้ดี ถึงอย่างไรก็ตามไม่อาจลบล้างการเป็นที่ดินของพระเจ้าอยู่หัว หรือที่ดินพระราชทานได้ และหลักฐานทั้งหมด […]

“เท้ง” ยันไม่ได้เป็นนั่งร้านให้ “ภท.” ขยายอำนาจ

รัฐสภา18 ก.ย.-“เท้ง ณัฐพงษ์” ยัน ไม่ได้เป็นนั่งร้านให้ “ภูมิใจไทย” ขยายอำนาจ สร้างความแข็งแกร่ง หลังเนื้อหอม กลุ่มการเมืองไหลเข้าพรรค รับเห็นความผิดปกติ ขอใช้เวทีอภิปรายนโยบายเป็นดาบแรก พิสูจน์ผิด MOA หรือไม่อยู่ที่เสียงลงมติในสภา ชี้ หากผิดชัดพร้อมยื่นซักฟอก เลี่ยงตอบ ยังมั่นใจหรือไม่ว่าโหวต “อนุทิน” ไม่ผิด แต่เป็นตัวเลือกจำเป็น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ขณะนี้มีกลุ่มการเมืองไหลเข้าไปที่พรรคภูมิใจไทย ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า เป็นผลพวงมาจาก MOA พรรคประชาชนเป็นนั่งร้าน สร้างความแข็งแกร่ง และจะทำให้พรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ว่า ยืนยันว่าเราไม่ได้ไปนั่งร้านให้กับพรรคภูมิใจไทย ทันทีที่รัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เข้าปฏิบัติหน้าที่ ก็จะใช้ทุกกลไก ของสภาตรวจสอบเริ่มตั้งแต่การทานแรงนโยบายต่อรัฐสภา รายการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 หากมีเหตุที่ทำให้เชื่อได้ว่ารัฐบาลของนายอนุทิน ไม่ดำเนินการตาม MOA เมื่อถามย้ำว่าสิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นผลพวงมาจาก MOA ทำให้พรรคภูมิใจไทยมีความแข็งแกร่งขึ้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เร็วไป ที่จะประเมินแบบนั้นเพราะสุดท้าย สิ่งที่เราจะตัดสิน ว่าพรรคภูมิใจไทยละเมิด MOA หรือไม่ […]

“ณัฐพงษ์” ย้ำพร้อมใช้กลไกสภาล้มรัฐบาล หากเจอเกมสกัด

รัฐสภา 18 ก.ย.- “ณัฐพงษ์” บอก ตอบไม่ได้ เสียง สว.พอแก้ รธน.หรือไม่ เชื่อ สส.ช่วยกันผลักดัน ไม่ให้เสียคะแนน ย้ำ พร้อมใช้กลไกสภาล้มรัฐบาล หากเจอเกมสกัด นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีข้อกังวลว่าจะได้รับเสียงสนับสนุส สว.จะไม่พอ ว่า ตนคงไปตอบแทน สว.ไม่ได้ทั้งหมด เชื่อว่าหากเป็นกฎหมายที่ประชาชนได้ประโยชน์ ภายใต้กรอบระยะเวลาที่เหลืออยู่ สส.ทุกคนก็น่าที่จะพร้อมผ่านกฎหมายที่เป็นประโยชน์ให้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าทุกพรรคมองเห็นแล้วว่า ต้องมีการเลือกตั้งเร็วๆ นี้ ไม่ช้าก็เร็ว ภายใต้กรอบระยะเวลา 4 เดือน ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ทุกพรรคพยายามผลักดันให้ตัวเองไม่เสียคะแนน เมื่อถามว่า พรรคประชาชนจะมีการไปพูดคุยกับ สว.หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรามีการทํางานร่วมกับทุกฝ่ายอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติที่ต้องมีการประสานงานกันในสภา เมื่อถามว่า หาก สว.ไม่เห็นตรงกับ สส. จะมีปัญหาหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า วิญญูชนและสาธารณชน พอจะรับรู้รับทราบได้อยู่ว่า มีกระบวนการในการขัดขวาง อาจไม่ได้ออกมาพูดตรงๆ […]

“ภูมิธรรม” เชื่อ 10 ล้านเสียงเดิมยังหนุนเพื่อไทย

พรรคเพื่อไทย 18 ก.ย.-“ภูมิธรรม” เปรยหากกระแส “ณัฐพงศ์” สามี “พินทองทา” ดี อาจทาบ เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย มั่นใจ สส.ส่วนใหญ่ยังอยู่ หลัง “คุณหญิงพจมาน” เข้าให้กำลังใจ เชื่อ 10 ล้านเสียงเดิมยังหนุน เลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ที่ 1 ก็ที่ 2 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้ สัมภาษณ์ก่อนการประชุมพรรคเพื่อไทยวันนี้ (18 ก.ย.) ถึงกระแสข่าวว่าเพื่อไทยจะดึง น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ มาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคนั้น ในที่ประชุมได้มีพูดคุยกันอย่างไรบ้าง นายภูมิธรรมกล่าวว่า น.ส.พินทองทา “ท่านทำธุรกิจดีอยู่แล้ว” ส่วนที่มีกระแสสังคมเชียร์ ให้ทาบทาม นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามีน.ส.พินทองทา มาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย นั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า นายณัฐพงศ์ เป็นคนสมาร์ท หล่ออยู่แล้ว ซึ่งก็ต้องถามเจ้าตัว […]

“เอกนัฏ” เปิดใจ ปัดขัดแย้ง “พีระพันธ์ุ” หลังไขก๊อกเลขาฯ รทสช.

รัฐสภา 17 ก.ย.- “เอกนัฏ” เปิดใจ ไม่มีความขัดแย้ง “พีระพันธ์ุ” หลังไขก๊อกเลขาฯ รทสช. เผยคุย “อนุทิน” ตลอด พร้อมฝากก๊วน สส.ชุมพร หลังเปิดอกอยากไปร่วมงานด้วย บอกหากทำงานการเมืองต่อ “ภูมิใจไทย” เป็นทางเลือกหนึ่ง เหตุจุดยืนตรงกัน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวลาออกจากเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ยื่นหนังสือเพื่อลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งได้พูดคุยกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติเรียบร้อยแล้ว และยืนยันว่าตนกับทางนายพีระพันธ์ุ ไม่มีความขัดแย้งส่วนตัว และมองว่านายพีระพันธ์ุ เป็นนักการเมืองน้ำดีคนหนึ่ง แต่ว่าในบทบาทของตนที่ทำหน้าที่เลขาธิการพรรคและ กก.บห. ในภายหลังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ซึ่งได้นำไปปรึกษากับทางด้านนายพีระพันธ์ุแล้ว แต่หากจะให้ทำงานต่อในสภาวะความคิดเห็นที่แตกต่างกัน คาดว่าจะไม่เป็นผลดีต่อพรรค ตนจึงยินดีลาออกเพื่อให้ กก.บห.พรรคมีเอกภาพมากกว่านี้ “ผมและนายพีระพันธุ์ยังมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน ในชีวิตการเมืองตั้งแต่มีการตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ และในฐานะที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคมา 3 ปี ผมกับนายพีระพันธุ์ก็มีความประทับใจอยู่เยอะ แต่การทำงานของผมในฐานะเลขาธิการพรรค ในช่วงหลัง โดยเฉพาะช่วงที่มีกระแสข่าวคลิปเสียง และช่วงของการโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่สาม 32 เริ่มมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ด้วยการทำงานที่ระยะเวลาอีก 4-5 […]

สกพอ. จับมือ 7 บริษัทชั้นนำในจีน ลงนามแสดงเจตจำนงการลงทุนในอีอีซี

กว่างโจว ประเทศจีน 17 ก.ย.-สกพอ. จับมือ 7 บริษัทชั้นนำจากพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษกวางตุ้ง–ฮ่องกง–มาเก๊า ลงนามแสดงเจตจำนงการลงทุนในอีอีซี สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนจีนต่อศักยภาพของประเทศไทย และพื้นที่อีอีซีในฐานะศูนย์กลางการลงทุนแห่งใหม่ของเอเชีย คาดว่าจะเกิดเงินลงทุนกว่า 4,340 ล้านบาท ดร. จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ สกพอ. ร่วมลงนาม หนังสือแสดงเจตจำนงการลงทุน (LOI) ระหว่าง สกพอ. และ 7 บริษัทชั้นนำจากพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษกวางตุ้ง–ฮ่องกง–มาเก๊า (Greater Bay Area : GBA) โดยมีนายกาจฐิติ วิวัธวานนท์ กงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว ดร. ภัณฑิล จงจิตรตระกูล อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ และประธานคณะอนุกรรมการส่งเสริมและติดตามการลงทุนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พร้อมด้วยผู้บริหาร สกพอ. และผู้บริหารสมาคม SIDTA ร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนจีนต่อศักยภาพของประเทศไทย และพื้นที่อีอีซีในฐานะศูนย์กลางการลงทุนแห่งใหม่ของเอเชีย โดยคาดว่าจะเกิดเงินลงทุนรวมประมาณ 4,340 ล้านบาท ทั้งนี้ การลงนาม LOI […]

หุ้นไทยปิดลบ 1.50 จุด

กทม. 17 ก.ย.- SET ปิดวันนี้ที่ 1,306.69 จุด ลดลง 1.50 จุด (-0.11%) มูลค่าซื้อขายราว 48,098.33 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,304.67 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,311.80 จุด -สำนักข่าวไทย

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

มวลชนเขมรบุกรื้อลวดหนาม ป่วนบ้านหนองหญ้าแก้ว

17 ก.ย.- เจรจาไม่เป็นผล! มวลชนกัมพูชาบุกรื้อลวดหนาม ป่วนบ้านหนองหญ้าแก้ว เจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตา-กระสุนยาง เพื่อควบคุมสถานการณ์ เมื่อเวลา 15.53 น. กองกำลังบูรพาได้รับแจ้งจากตำรวจควบคุมฝูงชนจังหวัดสระแก้ว ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณรั้วลวดหนาม หมู่บ้านหนองหญ้าแก้ว ว่า มีประชาชนชาวกัมพูชาจำนวน 200 คน พร้อมไม้ยาวประมาณ 3 เมตร เป็นอาวุธประจำกายเข้ามารื้อทำลายลวดหนามที่ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้วางเอาไว้ ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนชาวกัมพูชาว่าอย่าทำลายรั้วลวดหนาม แต่ก็ยังไม่เป็นผล ใช้เวลาเจรจาประมาณ 30 นาที ไม่เป็นผล เวลา 16.20 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจำเป็นต้องใช้มาตรการควบคุมฝูงชนจากเบาไปหาหนัก โดยการใช้แก๊สน้ำตายิงเตือนชาวกัมพูชาที่กำลังทำลายรั้วลวดหนาม แต่ทางฝ่ายกัมพูชาก็ยังไม่ละความพยายามยังคงรื้อทำลายรั้วลวดหนาม ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจำเป็นต้องใช้กระสุนยาง ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีชาวกัมพูชาบางส่วนได้ล่าถอยออกไปเพราะถูกแก๊สน้ำตา ด้านแหล่งข่าวจากหน่วยความมั่นคง ให้ข้อมูลว่าหลังจากที่คณะผู้สังเกตการณ์ หรือ IOT ที่ทางกัมพูชาพามาลงพื้นที่ ได้เดินทางกลับแล้ว ทางฝ่ายไทยได้ให้เจ้าหน้าที่ทหารไปจัดทำรั้วลวดหนามให้เหมือนเดิม เพื่อเป็นการป้องกันตัวเอง แต่ทางกัมพูชาก็มีการขนคนมาสร้างความปั่นป่วน และทำร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งในส่วนนี้ได้ให้ตำรวจไทย เฝ้าระวังป้องกันและดำเนินการ เบื้องต้นมีการใช้แก๊สน้ำตา และขณะนี้ยังควบคุมสถานการณ์ได้ -สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุปะทะ “บ้านหนองหญ้าแก้ว” จนท.ฝ่ายไทยเจ็บ

17 ก.ย.- กองทัพบกแจงเหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” มวลชนกัมพูชาชุมนุมประท้วงก่อความวุ่นวาย-ใช้ความรุนแรง จนท.ฝ่ายไทยจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง เพื่อควบคุมสถานการณ์ วันนี้ (17 ก.ย. 2568) เวลา 15.40 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังบูรพา กรณีฝ่ายกัมพูชาได้นำประชาชนและมวลชนประมาณ 200 คน มาชุมนุมประท้วงการปฏิบัติของฝ่ายไทย ระหว่างการวางเครื่องกีดขวางและลวดหีบเพลงเสริมความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ฝ่ายไทยได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมและดำเนินการวางลวดหีบเพลงตามแผนการปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม กลุ่มมวลชนกัมพูชายังคงแสดงการประท้วงอย่างต่อเนื่อง ต่อมา เวลา 16.20 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางควบคุมสถานการณ์ ส่งผลให้กลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนถอยห่างออกจากแนวปะทะ เนื่องจากผลของแก๊สน้ำตา จนถึงเวลาประมาณ 17.00 น. ฝ่ายไทยยังคงดำเนินการเสริมความมั่นคงตามแนวชายแดน โดยการวางแนวลวดหนามเพิ่มเติมและใช้ยางรถยนต์ประกอบ รวมถึงควบคุมการประท้วงโดยใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และเครื่อง LRAD ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาเริ่มถอยออกจากพื้นที่ และมีการตะโกนต่อว่าเจ้าหน้าที่ไทยเป็นระยะ รวมทั้งมีการใช้ความรุนแรงโดยการขว้างปาท่อนไม้ ก้อนหิน และยิงหนังสติ๊กมายังเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย จนมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด -สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

1 17 18 19 20 21 1,402