“บขส” เปิดจุดบริการรับฝากพัสดุภัณฑ์ “EMS Point” 10 แห่ง

กรุงเทพ 22 ก.ย.- “บขส.” จับมือ “ไปรษณีย์ไทย” เปิดจุดบริการรับฝากพัสดุภัณฑ์ “EMS Point” 10 แห่ง เพิ่มความสะดวกและทางเลือกส่งพัสดุให้ประชาชน นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า ได้เปิดจุดบริการรับฝากพัสดุภัณฑ์ EMS Point ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง บขส. กับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) เพื่ออำนวยความสะดวก เพิ่มทางเลือกและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชนในการฝากส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์กับ บขส. สำหรับจุดบริการรับฝากพัสดุภัณฑ์ EMS Point จะครอบคลุมพื้นที่ 10 แห่ง ประกอบด้วย 1.สถานีเดินรถพิจิตร 2.สถานีเดินรถฉะเชิงเทรา 3.จุดจอดพัทยา 4.สถานีเดินรถอรัญประเทศ 5.จุดจอดสระแก้ว 6.จุดจอดปราจีนบุรี 7.จุดจอดนครนายก 8.สถานีเดินรถสุพรรณบุรี 9.สถานีเดินรถนครปฐม และ 10.จุดจอดราชบุรี นอกจากนี้ในอนาคตจะขยายจุดบริการ EMS […]

“พลอยทะเล” รับย้ายซบ “ภท.” เหตุ “ปชป.” มีปัญหาภายใน

พรรคภูมิใจไทย 22 ก.ย.- “พลอยทะเล” รับตัดสินใจย้ายซบ “ภูมิใจไทย” เหตุประชาธิปัตย์มีปัญหาภายใน ชี้ ทำงานการเมืององค์กรต้องเข้มแข็ง ตอบโจทย์ปัญหาชาวบ้านได้ นางสาวพลอยทะเล ลักษมีแสงจันทร์ อดีตกรรมการบริหาร และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยภายหลังเปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร สส.ภูเก็ต พรรคภูมิใจไทย ว่า ความตั้งใจที่ตัดสินใจมาร่วมกับพรรคภูมิใจไทย เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยลงเลือกตั้งสมาชิกเทศบาลตำบลวิชิต อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต และได้เห็นการทำงานของพรรคภูมิใจไทย ในช่วงการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ทั้งการมอบวัคซีนและการทำภูเก็ตแซนบ็อก ที่ทำได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ตที่เป็นจังหวัดท่องเที่ยว ซึ่งการทำงานของพรรคภูมิใจไทย ในช่วงนั้นถือว่าทำได้ดีมาก จึงเป็นสิ่งที่ประทับใจในตัวพรรค จึงทำให้ตัดสินใจย้ายมา เมื่อถามว่าปัญหาภายในพรรคประชาธิปัตย์เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ย้ายมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยใช่หรือไม่ นางสาวพลอยทะเล ยอมว่า ส่วนหนึ่งก็ใช่ เพราะการที่จะทำงานการเมืององค์กรต้องเข้มแข็ง การตัดสินใจย้ายมาเพื่อทำงานต่อให้กับประชาชนในพื้นที่ต้องอยู่ในองค์กรที่สามารถสนับสนุนตอบโจทย์ประชาชนได้ในการแก้ปัญหาต่างๆ จึงต้องเป็นพรรคภูมิใจไทย ในการแก้ปัญหาเป็นทางเลือกให้กับตนในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านได้ ส่วนกระแสการตอบรับของประชาชนในพื้นที่ นางสาวพลอยทะเล กล่าวว่า เป็นไปในหลายทาง แต่ก็มั่นใจการตัดสินใจของตนเอง หลายคนก็ยังสนับสนุน ไม่ว่าจะไปสังกัดพรรคใด ทางด้าน นายวิวัฒน์ จินดาพล อดีตสจ.จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ก็เคยลงสมัคร สส.ในนามของพรรคภูมิใจไทยมาแล้ว แต่ไม่ได้รับเลือก ในครั้งนี้จึงมีความตั้งใจอย่างเต็มที่ […]

คปท.ยื่นหนังสืออัยการสูงสุด จี้อุทธรณ์คดี ม.112 “ทักษิณ”

22 ก.ย.- กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย เข้ายื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุดขอให้ยื่นอุทธรณ์ คดีทักษิณ ในความผิดประมวลกฎหมายอาญาตามมาตรา 112 โดยมองว่าคดีนี้ อัยการสูงสุดควรดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพราะเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับสถาบันที่ประชาชนให้ความเคารพ กลุ่มมวลชนที่เรียกตัวเองว่าเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. รวมตัวเข้ายื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด ขอให้พิจารณายื่นอุทธรณ์ ดำเนินคดีกับนายทักษิณ ชิณวัตร ในความผิดประมวลกฎหมายอาญาตามมาตรา 112 หลังศาลชั้นต้นได้พิพากษายกฟ้องไปเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. เปิดเผยว่า ในช่วงหนึ่งของคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ความเห็นว่า อัยการไม่สามารถนำพิสูจน์ข้อเท็จจริงเรื่องที่มาของคลิป ทำให้คดีนี้ถูกยกฟ้องและทำให้นักวิชาการเกิดข้อสงสัยการทำงานของอัยการว่าดำเนินการครบถ้วนในฐานะโจทก์หรือไม่ นอกจากนี้ได้สังเกตว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์และประชาชนให้ความสนใจ ซึ่งส่วนใหญ่คดีที่มีลักษณะเช่นนี้อัยการสูงสุดจะดำเนินคดีถึงที่สุด แต่คดีของนายทักษิณกลับไม่เป็นเช่นนั้น ทำให้การยื่นหนังสือในวันนี้เพื่อต้องการให้อัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์ ด้านนายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า อัยการได้ยื่นหนังสือขยายระยะเวลาไปเป็นวันที่ 22 ตุลาคมเรียบร้อยแล้ว ส่วนเอกสารที่นำมายื่นให้ในวันนี้จะนำเรียนให้กับอัยการสูงสุดพิจารณาว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ -สำนักข่าวไทย

“ภท.” เปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัคร สส.ภูเก็ต สู้ศึกเลือกตั้ง

พรรคภูมิใจไทย 22 ก.ย.-“ภูมิใจไทย” เปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร สส.ภูเก็ต 3 คน เตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง หลังยุบสภา พร้อมเดินหน้าทาบทามผู้สมัครภาคใต้ 14 จังหวัด เปิดตัวชัดกลางเดือนหน้า ตั้งเป้า 30 เก้าอี้ ยันไม่ขัด MOA ขอพรรคประชาชนสบายใจ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ แกนนำภาคใต้ พรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย แถลงเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร สส. ภูเก็ต ทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย นางสาวพลอยทะเล ลักษมีแสงจันทร์ อดีตกรรมการบริหาร และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์, นายษณกร กี่สิ้น อดีตรองนายกเทศบาลเมืองป่าตอง และนายวิวัฒน์ จินดาพล อดีต สจ.ภูเก็ต นายศุภชัย กล่าวว่า ทั้ง 3 คนดังกล่าว จะผนึกกำลังร่วมกับพรรคภูมิใจไทย เพื่อให้ได้ชัยชนะในการเลือกตั้งที่จะมาถึงภายใน 6 เดือนข้างหน้านี้ […]

ปภ. บูรณาการแจ้งเตือนภัย “T-Alert” เข้าถึงปชช.ทุกช่องทาง

22 ก.ย.- ปภ.ระดมประชาสัมพันธ์ระบบการแจ้งเตือนภัยของประเทศไทย “T – Alert” ที่จะเป็นการแจ้งเตือนภัยในทุกรูปแบบที่ดำเนินการโดยภาครัฐ ผ่านอุปกรณ์เตือนภัยทุกระบบในพื้นที่เสี่ยง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จัดการประชุมสัมมนาและประชาสัมพันธ์ระบบการแจ้งเตือนภัยของประเทศไทย “T – Alert” ให้แก่ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน ซึ่งจะเป็นการแจ้งเตือนภัยในทุกรูปแบบที่ดำเนินการโดยภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นการส่งสัญญาณแจ้งเตือนภัยผ่านอุปกรณ์เตือนภัยในพื้นที่เสี่ยง เช่น หอเตือนภัย การส่งสัญญาณเตือนภัยไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ผ่านเครื่องรับสัญญาณเตือนภัยผ่านดาวเทียม เพื่อให้มีการกระจายข้อความการแจ้งเตือนไปยังประชาชนในพื้นที่ให้รับทราบและเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้น เช่น การกระจายข้อมูล ผ่านสถานีวิทยุ โทรทัศน์ รถกระจายเสียง หรือแม้กระทั่งกลไกที่ดำเนินการโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และรวมถึงการส่งสัญญาณแจ้งเตือนภัยไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประชาชน ทั้งระบบ Cell Broadcast และ SMS ถึงประชาชน กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน เล็งเห็นถึงความสำคัญของระบบการแจ้งเตือนภัย จึงร่วมกันพัฒนาระบบการแจ้งเตือนภัยอยู่อย่างต่อเนื่อง สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการแจ้งเตือนภัยคือการรับรู้ของประชาชน และความเชื่อมั่นที่จะพร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำของส่วนราชการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นไปเพื่อประโยชน์และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน เพราะยิ่งเราลดความสูญเสีย และความเสียหายจากสาธารณภัยได้มากเท่าใด กิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ก็สามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น สำหรับสาธารณภัยที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ถือเป็นภัยคุกคามของรัฐและมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น […]

“มทภ.2” เผยเขมรไม่มีท่าทีถอนอาวุธหนัก ลั่นเลิกคุยหากยังยั่วยุ

22 ก.ย.- “มทภ.2” ขอบคุณนายกฯ ไฟเขียวแก้ปัญหาชายแดน เผยเขมรไม่มีท่าทีถอนอาวุธหนัก มีแต่เพิ่มกำลัง ลั่นเลิกคุยหากยังยั่วยุ บินโดรน-ฝังทุ่นระเบิด ขณะที่กองทัพภาคที่ 1 ถก RBC สัปดาห์นี้ ส่วนด้านจันทบุรี – ตราด ยังไม่กำหนดวัน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า การนำผลประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา (GBC) เมื่อ 10 ก.ย.68 ไปสู่การปฏิบัติ โดยที่ประชุมกำหนด ให้มีการถอนอาวุธหนัก และยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูงออกจากพื้นที่ชายแดน กลับสู่ที่ตั้งปกติ โดยฝ่ายเลขานุการจีบีซี และอาร์บีซี จะหารือกันภายใน 3 สัปดาห์ เพื่อจัดทำแผนดำเนินการ และเริ่มเคลื่อนย้ายกำลังตามกรอบเวลาที่กำหนด โดยให้คณะผู้สังเกตการณ์ (IOT) มาร่วมสังเกตการณ์ ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยความคืบหน้าการนัดประชุมคณะกรรมชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) จัดทำแผนดำเนินการถอนอาวุธหนัก และยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูงออกจากพื้นที่ชายแดนว่า ฝ่ายกัมพูชายังไม่มีท่าทีที่จะดำเนินการ มีแต่จะเพิ่มกำลังในพื้นที่ ซึ่งยังไม่ชัดว่าจะสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้หรือไม่ และยังไม่ได้มีการกำหนดการประชุมRBC คาดว่าจะเป็นต้นเดือน ต.ค.นี้ […]

“กทพ.-ดีอี” ลงนาม MOU พัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูล Easy Pass ภาครัฐ

22 ก.ย.- กทพ. จับมือ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลงนาม MOU ว่าด้วยการพัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลการใช้บริการบัตรอัตโนมัติ (Easy Pass) ของหน่วยงานภาครัฐ นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ร่วมกับ ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลการใช้บริการ บัตรอัตโนมัติ (Easy Pass) ของหน่วยงานภาครัฐระหว่าง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กับ กทพ. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนการให้บริการภาครัฐสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล โดยมุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพการเดินทาง ปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานสู่ระบบอัตโนมัติ และสร้างความคล่องตัวในการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายภาครัฐ ณ อาคารกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ (อาคารซี) ในการนี้ นายพิทยา ธนวณิชย์กุล รองผู้ว่าการ (ดิจิทัล) และนายเทพฤทธิ์ รัตนปัญญากร ผู้อำนวยการ ฝ่ายดิจิทัล 1 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนางปิยนุช วุฒิสอน รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนางสาวพิยะดา สุดกังวาล […]

อัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นห้องทำงานรองนายกฯ “ธรรมนัส”

ทำเนียบ 22 ก.ย.- คณะทำงาน “ธรรมนัส” อัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นห้องทำงาน รองนายกฯ ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าคณะทำงานของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำรถตู้ของสํานักปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2 คัน ขน โต๊ะหมู่บูชาชุดใหญ่ และอัญเชิญพระพุทธรูป อาทิ พระบูชา ภปร.วัดบวรนิเวศวิหาร พระพุทธชินราช พระพุทธศรีสวรรค์ พระเจ้าตากสิน เศียรพระพิฆเนศร และ พระฉายาลักษณ์ของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ขึ้นห้องทำงาน ชั้น 2 ตึกบัญชาการ 1 ขณะที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมทำความสะอาดห้องทำงานของรองนายกฯ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไว้รอรับรัฐมนตรีใหม่ ที่คาดว่าจะทยอยขนของมาในช่วง 2 วันนี้ ก่อนที่รัฐมนตรีจะเข้าถวายสัตย์ฯ และเริ่มทำงานทันที -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ขนทีมเศรษฐกิจถกสมาคมธนาคารไทย

สมาคมธนาคารไทย 22 ก.ย.- “อนุทิน” ขนทีมเศรษฐกิจถกสมาคมธนาคารไทย ชี้เป็นหัวใจระบบเศรษฐกิจ บอกเคยเป็น Banker มาก่อน ระบุความเห็นเอกชนเป็นประโยชน์ภายใต้เป้าหมายเดียวกันคือดันไทยก้าวสู้ศูนย์กลางอาเซียน-ภูมิภาค นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ประกอบด้วย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมหารือกับสมาคมธนาคารไทย โดยมีนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ให้การต้อนรับ จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างการหารือในหัวข้อ “ฝ่าวิกฤต พลิกอนาคตเศรษฐกิจไทย ด้วยพลวัตใหม่” ว่า วันนี้ตนและทีมงานเศรษฐกิจต้องขอบคุณกับการต้อนรับที่อบอุ่น ตั้งใจมาพบกับทุกท่านหลังจากที่มีความชัดเจน ในการจัดตั้งรัฐบาล และตนได้ใช้ความพยายามเป็นอย่างยิ่ง ในการคัดสรรบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มาบริหารงานด้านเศรษฐกิจในรัฐบาลของตน ซึ่งพวกท่านน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว และวันนี้มีความจำเป็นต้องพบปะ สถาบันหลัก ทางเศรษฐกิจโดยสัปดาห์ที่แล้วได้เดินทางไปที่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมาย เพราะตนก็ออกจากวงการนี้ไปนาน เมื่อไปถึงสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ก็ได้พบกับผู้ประกอบการ ที่เป็นมืออาชีพ […]

“วันนอร์” ยึดเก้าอี้แน่น บอกปธ.สภาฯ ยังทำหน้าที่ได้ตามรธน.

รัฐสภา 22 ก.ย.- “วันนอร์” ยึดเก้าอี้ประธานสภาฯ แน่น ชี้ แม้เปลี่ยนรัฐบาล ก็ยังทำหน้าที่ได้ตามรัฐธรรมนูญ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ สส.พรรคภูมิใจไทย ออกมากดดันให้เปลี่ยนตัวประธานสภาผู้แทนราษฎร หลังจากมีการเปลี่ยนรัฐบาล ว่า ตำแหน่งประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ นั้น ไม่เคยมีกำหนดในรัฐธรรมนูญหรือข้อบังคับว่าจะเปลี่ยนไปตามรัฐบาล เพราะประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรรคการเมือง แต่เป็นตำแหน่งที่เป็นอิสระ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เปลี่ยนรัฐบาล ก็ไม่ได้เปลี่ยน “ถ้าดูประเพณีปฏิบัติที่ผ่านมา เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล สักกี่ครั้งก็แล้วแต่ ประธานสภาก็ไม่ได้เปลี่ยน นี่ไม่ได้หมายความว่าประธานสภาฯ หรือรองประธานสภาฯ อยากจะเปลี่ยน แต่ก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว อย่างไรก็ตาม กลัวเรื่องข้อกังขาที่อาจจะมีตามมาหรือไม่ เพราะอยู่ในซีกของฝ่ายค้าน นายวันมูหะมัดนอร์ ต้องดูหน้างานหากทำได้ก็ทำไป ถ้าทำไม่ได้ก็ว่าไป.-312 -สำนักข่าวไทย

“วันนอร์” คาดรัฐบาลแถลงนโยบาย 1-2 ต.ค. นี้

รัฐสภา 22 ก.ย.- “วันนอร์” คาดรัฐบาลแถลงนโยบาย 1-2 ต.ค. นี้ แต่อาจเปลี่ยนได้ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของรัฐบาล ชี้ต้องส่งคำแถลงให้สมาชิกรัฐสภาอ่านก่อน 3 วัน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวถึงวันแถลงนโยบายของรัฐบาล ว่า ขึ้นอยู่กับการกำหนดของรัฐบาล หลังจากวันที่ 24 กันยายนที่จะเข้าถวายสัตย์ฯ และประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ ก็จะแจ้งมายังสภา ว่ารัฐบาลพร้อมที่จะแถลงนโยบายวันใด เมื่อรัฐบาลแจ้งมาแล้วสภาก็จะหารือวิป 3 ฝ่ายเพื่อกำหนดวันและชั่วโมงในการอภิปราย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นสัปดาห์หน้าต้นหรือปลายสัปดาห์ ซึ่งสภาพร้อมที่จะแจ้งให้สมาชิกทราบว่าจะแถลงนโยบายวันไหนและต้องแจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วัน เพราะรัฐบาลต้องส่งนโยบายที่แถลงมาให้สมาชิกได้อ่านก่อนวันประชุม นายวันมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวต่อว่า ถ้าหากทุกอย่างพร้อมไม่มีอะไรติดขัด อาจจะเป็นวันที่ 1 – 2 ตุลาคม โดยจะใช้เวลาทั้ง 2 วันซึ่งจะเท่ากับรัฐบาลที่ผ่านมา แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับข้อตกลงของวิปทั้ง 3 ฝ่าย เมื่อถามถึงการแบ่งเวลาที่ฝ่ายค้านมีเสียงมากกว่ารัฐบาลจะแบ่งเวลาได้ลงตัวหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ ระบุว่า เดี๋ยววิปก็จัดการได้ต้องมีการประชุมหารือเพื่อหาข้อตกลง แต่อย่างไรก็ต้องรอให้รัฐบาลแจ้งความพร้อมในการแถลงนโยบายมาก่อน ถ้าทุกอย่างมีความพร้อมก็คงจะเรียบร้อย.-312 -สำนักข่าวไทย

เขื่อนป่าสักฯ ปรับเพิ่มระบายน้ำอีกครั้ง คาดท้ายเขื่อนล้นตลิ่งที่ลุ่มต่ำ

ลพบุรี 22 ก.ย. – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เตรียมทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำขึ้นเป็นลำดับ เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน หลังมีแนวโน้มน้ำไหลเข้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดระดับน้ำแม่น้ำป่าสักอาจเพิ่มขึ้น 1.50 – 1.80 เมตรและส่งผลให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำหลายจุด ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยายังคงการระบาย แต่เฝ้าระวังใกล้ชิด เหตุน้ำเหนือที่จังหวัดนครสวรรค์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ออกหนังสือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แจ้งเตือนประชาชนถึงความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำจากมีปริมาณน้ำในอ่าง 743 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 77ของความจุอ่างฯ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อน 662 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือประมาณ 57 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยยังคงมีน้ำไหลเข้าอย่างต่อเนื่องจากพื้นที่ด้านเหนือเขื่อนและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นเพื่อควบคุมระดับน้ำในเขื่อนให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม กรมชลประทานจะปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเดิม 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยทยอยเพิ่มวันละ 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2568 เป็นต้นไป การปรับเพิ่มการระบายน้ำดังกล่าว คาดว่า จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 1.50 – 1.80 เมตร ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำบางจุดเช่น ขณะเดียวกันยังคงอัตราการระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาทที่ 2,200 […]

1 12 13 14 15 16 1,402