กรมประมงเดินหน้าทุกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง

กรุงเทพฯ 26 มิ.ย. – อธิบดีกรมประมง เผยปริมาณการนำเข้ากุ้ง 5 เดือนแรกปี 67 คิดเป็นร้อยละ 0.46 ของผลผลิตกุ้งในประเทศช่วงเวลาเดียวกัน จึงไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ราคากุ้งลดต่ำลง โดยราคากุ้งในประเทศผันผวนตามตลาดโลก ยืนยันยกระดับมาตรการคุมเข้มตามแนวชายแดน ป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย ขณะเดียวกันเดินหน้าส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิตให้ผู้เลี้ยงไทยมีศักยภาพการแข่งขันเทียบเท่าอินเดียและเอกวาดอร์


นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง ประธานกรรมการบริหารจัดการห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ หรือ Shrimp Board) กล่าวว่า ราคากุ้งในประเทศมีความผันผวนตามภาวะตลาดโลก โดยราคาที่ลดต่ำลง ไม่ได้เป็นผลกระทบจากการนำเข้า

ทั้งนี้ผลผลิตกุ้งทะเลของไทย ปี 2567 (ม.ค. – พ.ค .67) มีปริมาณรวมประมาณ 92,000 ตัน คาดว่า ทั้งปี 2567 จะมีผลผลิตกุ้งรวม 250,000 ตัน ส่วนการนำเข้าสินค้ากุ้งทะเลจากการเพาะเลี้ยง ปี 2567 (ม.ค. – พ.ค. 67) มีปริมาณ 426 ตัน คิดเป็นเพียงร้อยละ 0.46 ของผลผลิตกุ้งภายในประเทศในช่วงเวลาเดียวกัน โดยจากการสอบถามผู้ประกอบการนำเข้าพบว่า ปริมาณกุ้งที่นำเข้าในปี 2567 เป็นกุ้งที่ค้างส่งมอบตามคำสั่งซื้อในปี 2566 แต่ในปี 2567 ยังไม่มีคำสั่งซื้อแต่อย่างใด


หากเปรียบเทียบปริมาณและมูลค่าการนำเข้าสินค้าและผลิตภัณฑ์กุ้งทะเลในเดือนมกราคม – เดือนเมษายน 2567 ประเทศไทยมีการนำเข้าสินค้าและผลิตภัณฑ์กุ้งทะเล (ไม่รวมล็อบสเตอร์) 5,440.42 ตัน มูลค่า 788.49 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ปริมาณการนำเข้าลดลงร้อยละ 51.65 และมูลค่าการนำเข้าลดลงร้อยละ 66.46 หากจำแนกชนิดกุ้งพบว่า เป็นกุ้งขาวแวนนาไมเพียง 389.58 ตัน (ร้อยละ 7.16) กุ้งกุลาดำ 2.24 ตัน (ร้อยละ 0.04) และกุ้งอื่นๆ 5,048.61 ตัน (ร้อยละ 92.80)

สำหรับประเทศต้นทางที่นำเข้ากุ้งมายังประเทศมากที่สุดคือ กุ้งทะเลจากอาร์เจนตินาร้อยละ 46.08 ของมูลค่าการนำเข้ากุ้งทะเลทั้งหมด โดยเป็นกุ้งที่ไม่สามารถเพาะเลี้ยงได้ในประเทศไทย ส่วนการนำเข้ากุ้งทะเลจากอินเดีย และเอกวาดอร์ซึ่งเป็นประเทศที่ต้นทุนการผลิตต่ำกว่าประเทศไทยพบ ว่า กุ้งจากอินเดียเป็นกุ้งอื่นๆ รวม 268.79 ตันและกุ้งจากเอกวาดอร์เป็นกุ้งขาวแวนนาไมรวม 352.34 ตัน (ที่มา: คณะทำงานบริหารจัดการข้อมูลด้านกุ้งทะเล ประมวลผลจากกรมศุลกากร, 7 มิถุนายน 2567)

ปริมาณการนำเข้ากุ้งขาวแวนนาไมจากต่างประเทศในปี 2567 (เดือนมกราคม – เดือนเมษายน) รวม 389.58 ตัน เปรียบเทียบกับปริมาณการผลิตกุ้งขาวแวนนาไมภายในประเทศไทยในช่วงเวลาเดียวกันซึ่งมีปริมาณรวม 63,172.44 ตัน คิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 0.62 ของผลผลิตกุ้งขาวแวนนาไมภายในประเทศเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถกระทบต่อราคาจำหน่ายกุ้งภายในประเทศได้ (ที่มา: คณะทำงานบริหารจัดการข้อมูลด้านกุ้งทะเล, 7 มิถุนายน 2567)


นายบัญชาย้ำว่า กรมประมงมีมาตรการควบคุมการนำเข้ากุ้งทะเลจากต่างประเทศ ก่อนการอนุญาตให้นำกุ้งทะเลเข้ามาในราชอาณาจักร ภายใต้พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 โดยสินค้าจะต้องเข้าสู่ระบบการกักกันเพื่อให้เจ้าหน้าที่กรมประมงดำเนินการสุ่มตรวจเชื้อก่อโรคกุ้งทะเลที่สำคัญตามบัญชีรายชื่อขององค์การสุขภาพสัตว์โลก (World organization for Animal Health: WOAH) โดยเฉพาะโรคอุบัติใหม่ได้แก่ โรคไอเอ็มเอ็น (IMN) โรคเอ็นเอชพี (NHP) และโรคดีไอวี วัน (DIV 1) รวมทั้งมีการสุ่มตรวจสารตกค้างเช่น Chloramphenicol Nitrofurans และ Malachite green ภายใต้พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ตามหลักการสากลที่ WOAH และ CODEX กำหนดไว้ และหากมีการตรวจพบเชื้อก่อโรคและ/หรือตรวจพบสารตกค้างเกินเกณฑ์มาตรฐาน สินค้าเหล่านั้นจะถูกทำลายหรือตีกลับประเทศต้นทางทันที

การประกาศงดการออกหนังสืออนุญาตนำเข้ากุ้งทะเลจากต่างประเทศ ต้องเป็นมาตรการที่ดำเนินการในกรณีฉุกเฉินซึ่งเป็นกุ้งที่ได้จากการทำการประมงและมีเหตุอันควรที่ใช้ชั่วคราวเท่านั้น เพราะประเทศไทยและประเทศผู้ผลิตกุ้งทะเลเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) ต้องปฏิบัติตามความตกลงภายใต้ WTO โดยมาตรการที่ใช้ในการจำกัดการนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหาร หรือมาตรการที่กำหนดขึ้นเพื่อใช้ควบคุมสินค้าเกษตรและอาหารต้องกำหนดระดับความปลอดภัยและการตรวจสอบมาตรฐานสินค้านำเข้าที่ไม่ก่อให้เกิดอุปสรรคทางการค้า หรือข้อกีดกันทางการค้าของประเทศสมาชิก ดังนั้น ทำให้ประเทศไทยและประเทศสมาชิกไม่สามารถกำหนดมาตรการการห้ามนำเข้าได้อย่างถาวร

ปัจจุบันได้มีการยกระดับมาตรการควบคุมการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำตามนโยบายของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยขอความร่วมมือไปยังจังหวัดชายแดนเพื่อควบคุมการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำ โดยมีมาตรการดังนี้

  1. เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบสินค้าประมงเพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมายได้แก่

1.1 ตรวจสอบเอกสาร หมายเลขซีล และสินค้าประมงนำเข้าเบื้องต้นร้อยละ 100 จำนวน 4 ด่าน ได้แก่ ศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 3 (กรุงเทพมหานคร) ด่านตรวจประมงลาดกระบัง ด่านตรวจประมงชลบุรี และศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 8 (สงขลา) และทำการติดซีลตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อป้องกันการสับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนถ่ายสินค้าระหว่างการขนส่ง และตรวจสอบสินค้าประมงนำเข้าทางตู้คอนเทนเนอร์ร้อยละ 100 ณ สถานที่จัดเก็บหรือสถานประกอบการหรือห้องเย็นปลายทางว่าเป็นไปตามที่ได้รับอนุญาตหรือไม่

1.2 ตรวจสอบการนำเข้า การขนถ่ายสัตว์น้ำขึ้นท่าของเรือประมงต่างประเทศให้เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต ณ ด่านตรวจประมงระนอง โดยตรวจสอบเรือประมงที่แจ้งเข้าเทียบท่าและเมื่ออนุญาตให้ขนถ่ายสัตว์น้ำขึ้นท่าเทียบเรือแล้ว เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบการนำเข้า การขนถ่ายสัตว์น้ำขึ้นท่า ณ ท่าเทียบเรือที่จดทะเบียนเป็นท่าเทียบเรือประมงตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ทั้งชนิดและปริมาณสัตว์น้ำว่าเป็นไปตามที่ได้รับอนุญาตหรือไม่ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมการนำเข้าสัตว์น้ำจากเมียนมาที่นำเข้าทางเรือตามมาตรการรัฐเจ้าของท่า (PSM)

            2. ออกประกาศกรมประมง เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาตนำเข้าสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2567 ลงวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 โดยกำหนดเอกสารประกอบการนำเข้าที่ชัดเจนมากขึ้น ต้องมีบัญชีรายละเอียดภาชนะบรรจุ (Packing list) ให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบสินค้าได้ถูกต้องมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์น้ำที่มาจากการทำการประมงโดยมิชอบด้วยกฎหมายเข้าสู่กระบวนการตลาดและกระบวนการผลิตของประเทศไทย และกำหนดให้ระบุสถานที่จัดเก็บสินค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบและควบคุมสินค้านำเข้า

            3. จัดทำหนังสือถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และจังหวัดกาญจนบุรี ขอความอนุเคราะห์ให้จังหวัดพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขการนำเข้า เพื่อควบคุมสินค้าสัตว์น้ำนำเข้าที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจ และการค้าของประชาชนภายในประเทศ

            4. จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการนำเข้าส่งออกสินค้าประมงผิดกฎหมาย เพื่อกำหนดแนวทางมาตรการในการแก้ไขปัญหาและป้องกันการนำเข้าส่งออกสินค้าประมงผิดกฎหมาย รวมถึงกำหนดแนวทางการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออกสินค้าประมงผิดกฎหมาย มีการดำเนินคดีไปแล้ว จำนวน 330 คดี และกรมประมงแต่งตั้งคณะทำงานชุดเฉพาะกิจ ตรวจสอบ ควบคุม ป้องกัน การลักลอบนำเข้าสินค้าประมงผิดกฎหมายเข้าประเทศตามแนวชายแดน เพื่อประสานความร่วมมือการดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการควบคุม กำกับ ตรวจสอบ ติดตาม จับกุมผู้กระทำผิดการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรด้านการประมงผิดกฎหมายให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

            5. จัดเก็บข้อมูลสถิติการนำเข้าสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์ผ่านระบบการขออนุญาตในระบบเชื่อมโยงคำขอกลาง และระบบสนับสนุนใบอนุญาตและใบรับรองผ่านอินเตอร์เน็ต กรมประมง (FSW) ซึ่งสามารถเรียกข้อมูลการนำเข้าในแต่ละชนิดสัตว์น้ำและมีเผยแพร่เป็นข้อมูลสถิติทางเว็บไซต์ แต่สำหรับอัตราภาษีอากรขาเข้าของสินค้าต้องกำกัดอยู่ในความรับผิดชอบของกรมศุลกากร

ทั้งนี้ยืนยันว่า ยังไม่พบการลักลอบนำเข้ากุ้ง ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ราคากุ้งภายในประเทศลดต่ำลงตามข้อห่วงกังวลของพี่น้องเกษตรกร โดยวัฏจักรราคากุ้งในประเทศไทยพบว่ามีช่วงที่ราคาตก 2 ช่วง ในรอบปี คือ ช่วงเดือนเมษายน – เดือนพฤษภาคม และเดือนกันยายน – เดือนตุลาคม ซึ่งเป็นไปตามภาวะราคากุ้งในตลาดโลก และกลไกตลาดตามหลักการอุปสงค์ – อุปทาน เมื่อตลาดโลกมีความต้องการสูงราคาจะเพิ่มขึ้น แต่เมื่อผลผลิตมีมากเกินความต้องการราคากุ้งก็จะต่ำลง และยังคงพบว่าราคาในปีนี้เริ่มลดลงในเดือนเมษายนเหมือนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ราคากุ้งภายในประเทศยังมีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ โดยพบว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาจำหน่ายกุ้งแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน คือ รูปแบบและช่องทางการจำหน่ายผลผลิตกุ้งของเกษตรกร โดยภาคตะวันออกและภาคกลางมีช่องทางการจำหน่ายผลผลิตกุ้งทะเล 2 ช่องทางหลักได้แก่ ตลาดภายในประเทศ (ตลาดหลัก) และตลาดต่างประเทศ (จำหน่ายเข้าห้องเย็นและโรงงานแปรรูป) โดยตลาดภายในประเทศมีการกระจายสินค้าไปยังภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงได้แก่ ลาว และกัมพูชา นอกจากนี้ ผลผลิตกุ้งที่มีคุณภาพยังนิยมจำหน่ายเป็นกุ้งมีชีวิตเพื่อส่งไปคัดขนาดก่อนกระจายไปยังตลาดภายในประเทศ และบางส่วนส่งเข้าโรงงานแปรรูป ทำให้กุ้งมีราคาค่อนข้างสูง แต่ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ซึ่งมีช่องทางการจำหน่ายผลผลิตหลักคือ การส่งออกกุ้งแช่เย็นไปยังประเทศมาเลเซีย โดยอาจผ่านผู้รวบรวม (แพ) หลายทอด ทำให้ราคารับซื้อกุ้งจากเกษตรกรค่อนข้างต่ำ ประกอบกับประเทศมาเลเซียมีการนำเข้ากุ้งทะเลจากเอกวาดอร์และอินเดียที่มีราคาต่ำจึงใช้เป็นราคาอ้างอิงในการรับซื้อกุ้งจากประเทศไทย

นายบัญชากล่าวว่า สิ่งที่กรมประมงจะดำเนินการเพิ่มเติมคือ การสนับสนุนการลดต้นทุนการผลิตเนื่องจากเกษตรกรยังประสบปัญหาต้นทุนการเลี้ยงสูงกว่าประเทศที่มีการผลิตกุ้งมากได้แก่ อินเดียและเอกวาดอร์ ทำให้เกษตรกรมีรายได้ลดลง รวมถึงผู้ส่งออกสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน โดยกรมประมงเร่งรัดนำเสนอเพื่อดำเนินการโครงการและกิจกรรมต่างๆ เช่น

  • “โครงการพลังงานทางเลือก ลดต้นทุนและสนับสนุนการผลิตกุ้งทะเลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” เป้าหมายเกษตรกรที่มีพื้นที่เลี้ยงไม่เกิน 40 ไร่ จำนวน 8,961 เพื่อสนับสนุนการติดตั้งมอเตอร์ DC brushless และ Solar cell สำหรับอุปกรณ์เติมอากาศ คนละครึ่ง โดยรัฐจะสนับสนุน 2 ชุดและเกษตรกรออกค่าใช้จ่าย 2 ชุด
  • “โครงการสนับสนุนอาหารกุ้งทะเลที่มีระดับโปรตีนที่เหมาะสมเพื่อลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม ปี 2567/68” เพื่อสนับสนุนอาหารเม็ดสำเร็จรูปที่มีระดับโปรตีนเหมาะสมต่อศักยภาพการจัดการของเกษตรกร โปรตีนร้อยละ 32 และร้อยละ 35 ในฟาร์มเลี้ยงกุ้งที่มีระบบการเลี้ยงโดยใช้จุลินทรีย์เป็นหลักในการควบคุมคุณภาพน้ำและควบคุมเชื้อก่อโรค เป้าหมายเกษตรกรที่มีพื้นที่เลี้ยงไม่เกิน 40 ไร่ จำนวน 8,961 ราย
  • “โครงการขยายฐานการผลิตจุลินทรีย์เพื่อการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเล” วงเงิน 24 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการฯ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เห็นชอบแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณ
  • “โครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ปี 2567” โดย Shrimp Board เสนอให้กรมการค้าภายในจัดทำโครงการฯ เพื่อเชื่อมโยงการจำหน่ายผลผลิตกุ้งทะเลในประเทศ เป้าหมายรวม 7,000 ตัน เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยขอรับการสนับสนุนเงินจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร
  • “โครงการกระจายผลผลิตกุ้งทะเลคุณภาพสู่ผู้บริโภคภายในประเทศ” โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทำโครงการเชื่อมโยงการจำหน่ายผลผลิตกุ้งทะเลระหว่างเกษตรกรและธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าภายในประเทศ
  • “โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกุ้งทะเลด้วยระบบป้องกันโรค ตลอดห่วงโซ่การผลิต (Shrimp Sandbox)” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคกุ้งทะเล ยกระดับความปลอดภัยทางชีวภาพตลอดสายการผลิตตั้งแต่ต้นทางในโรงเพาะฟักต่อเนื่องไปยังโรงอนุบาลและฟาร์มเลี้ยง ลดต้นทุนแฝง ลดการใช้ยาและปัจจัยการผลิต ผลผลิตกุ้งปลอดสารตกค้าง สร้างรายได้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งมีต้นทุนหมุนเวียนในการเลี้ยงกุ้งทะเลอย่างต่อเนื่อง. 512 – สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]