นครปฐม 22 มี.ค. – ไทยส่งไข่ไก่ล็อตแรกไปไต้หวัน กรมปศุสัตว์คาดปี 2566 จะส่งออกไข่ไก่ไปไต้หวันได้กว่า 50 ล้านฟอง มูลค่า 230 ล้านบาท ล่าสุดมาตรการผลักดันการส่งออกไข่ไก่ ส่งผลให้ราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มที่ก่อนหน้านี้ตกต่ำ จนเกษตรกรขาดทุน ได้ปรับขึ้นแล้ว
นายสัตวแพทย์โสภัชย์ ชวาลกุล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์เป็นประธานในพิธีปล่อยตู้คอนเทนเนอร์บรรจุไข่ไก่สดไปยังไต้หวัน โดยกล่าวว่า การส่งออกตู้คอนเทนเนอร์แรกนี้ เป็นการส่งออกจากศูนย์รวบรวมไข่ไก่บริษัท เกษมชัย ฟู้ด จำกัด จังหวัดนครปฐม ที่ได้รับรองมาตรฐานเพื่อการส่งออกจากกรมปศุสัตว์ มีปริมาณการส่งออก 325,000 ฟอง มูลค่าประมาณ 1,500,000 บาท โดยคาดการณ์ว่า ในปี 2566 นี้ จะมีปริมาณการส่งออกไข่ไก่สดจากประเทศไทยไปยังไต้หวันได้มากกว่า 50 ล้านฟอง มูลค่ากว่า 230 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการสร้างตลาดใหม่ ส่งผลดีต่อการรักษาสมดุลระหว่างการผลิตและการบริโภค และสร้างเสถียรภาพด้านราคาที่เกษตรกรจำหน่ายในประเทศได้
ในปี 2565 ประเทศไทยสามารถส่งออกไข่ไก่ได้ทั้งหมด 282 ล้านฟอง มูลค่า 1,238 ล้านบาท ตลาดหลักคือ ฮ่องกงและสิงคโปร์ ยอดการส่งออกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนไข่ไก่สดเพราะการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก อีกทั้งต้นทุนการผลิตยังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่ประเทศไทยโดยกรมปศุสัตว์มีมาตรการป้องกันโรคไข้หวัดนกอย่างเข้มงวด ส่งผลให้ไม่มีการแพร่ระบาดไข้หวัดนกในประเทศไทยมากกว่า 15 ปี เป็นจุดแข็งของอุตสาหกรรมสัตว์ปีกและไข่ที่สามารถผลิตได้อย่างมีคุณภาพ ปลอดภัย และเป็นที่เชื่อมั่นของคู่ค้า จากนี้ไปจะมีการเปิดตลาดของไข่สดอีกหลายแห่งเพื่อสร้างตลาดส่งออกใหม่ จะส่งผลให้ประเทศไทยสามารถรักษาระดับการผลิตและการบริโภคให้ใกล้เคียงภาวะสมดุลได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับผลสำเร็จจากการเปิดตลาดและส่งออกไข่ไก่สดครั้งนี้ มาจากความเชื่อมั่นสินค้าเกษตรและอาหารไทย ที่กรมปศุสัตว์กำกับ ดูแลการผลิตสินค้าปศุสัตว์ตลอดห่วงโซ่การผลิตให้ได้คุณภาพมาตรฐานเพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคด้านความปลอดภัยอาหาร ตั้งแต่แหล่งที่มาของสัตว์จากฟาร์มมาตรฐาน GAP จนถึงศูนย์รวบรวมและแปรรูปสินค้าปศุสัตว์ที่ได้มาตรฐาน GMP และ HACCP สอดคล้องตามข้อกำหนดของทั้งกฎหมายไทย ระเบียบของคู่ค้า และหลักสากล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การผลักดันการส่งออกไข่ไก่เป็นส่วนหนึ่งมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่เนื่องจากตั้งแต่กลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรจำหน่ายได้ปรับลดลง สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากปริมาณไข่ไก่ล้นตลาด ผลผลิตเกินความต้องการบริโภคในประเทศ โดยไทยผลิตไข่ไก่ได้ 43 ล้านฟองต่อวัน จากปริมาณแม่ไก่ยืนกรง 50-52 ล้านตัว ผลผลิตไข่ไก่ที่บริโภคในประเทศประมาณ 41 ล้านฟองต่อวัน กรมปศุสัตว์จึงกำหนดมาตรการขอความร่วมมือผู้เลี้ยงรายใหญ่ปลดแม่ไก่ยืนกรงให้เร็วขึ้น รวมถึงผลักดันการส่งออก จนกระทั่งราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มปรับขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มีนาคม ไข่คละหน้าฟาร์มปรับขึ้น 20 สตางค์จากฟองละ 3.20 บาทเป็น 3.40 บาท หรือ 6 บาทต่อแผง แล้วจะปรับอีกครั้งพรุ่งนี้ (23 มีนาคม) ฟองละ 20 สตางค์ จาก 3.40 บาทต่อฟองเป็น 3.60 บาท หรือ 6 บาทต่อแผง รวมการปรับขึ้น 2 ครั้ง ปรับขึ้นรวม 40 สตางค์ต่อฟองหรือ 12 บาทต่อแผง.-สำนักข่าวไทย
