กรมชลฯ แจง น้ำท่วมกทม.-ปทุมธานี จากฝนตกหนัก ไม่ใช่จากระบายน้ำเหนือ

กรุงเทพฯ 13 ก.ย.- กรมชลประทานเผยถึงสาเหตุน้ำท่วมในพื้นที่กทม. และปทุมธานีมาจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ ไม่ใช่การระบายน้ำเหนือผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ย้ำการรับน้ำเข้าระบบชลประทาน 2 ฝั่งเหนือเขื่อนเจ้าพระยาทำในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อทุ่ง 2 ฝั่งซึ่งมีฝนตกหนักเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะลุ่มน้ำท่าจีน มีน้ำที่ระบายจากทุ่งสองพี่น้องและบางปลาม้าลงสู่แม่น้ำท่าจีนเป็นปริมาณมาก ทำให้เอ่อท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรบริเวณที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ


นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า น้ำเหนือที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นทำให้ต้องระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาที่จังหวัดชัยนาทเพิ่มให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำฝน-น้ำท่า ในการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา กรมชลประทานใช้เขื่อนเจ้าพระยาเป็นเครื่องมือหลักในการหน่วงและระบายตามสถานการณ์ที่เหมาะสม ขณะที่น้ำส่วนเกินเร่งระบายออกทะเลตามที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ยืนยันว่า แม้จะมีฝนตกลงมาเพิ่มในช่วงปลายฤดูฝน รวมถึงอาจมีพายุ ตามที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) และกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า จะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย 2 ลูกในเดือนกันยายนถึงตุลาคม แต่ 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยาคือ เขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยบำรุงแดน และป่าสักชลสิทธิ์ยังสามารถรับน้ำได้อีก 10,651 ล้านลูกบาศก์เมตร


ส่วนที่มีกระแสวิจารณ์ในโซเชียลมีเดียว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนใหญ่ 4 เขื่อนมีไม่มาก ส่งผลให้ปริมาณน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาไม่มากเหมือนปีก่อนๆ แต่เหตุใดกรมชลประทานปล่อยน้ำลงคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ไม่แบ่งน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาไปทางฝั่งตะวันตกให้เข้าสู่แม่น้ำท่าจีน จึงทำให้มีน้ำท่วมขังในจังหวัดปทุมธานี กรมชลประทานยืนยันว่า น้ำที่ท่วมขังในจังหวัดปทุมธานีไม่ได้เกิดจากการระบายน้ำเหนือจากเขื่อนเจ้าพระยาลงมา แต่เพราะมีฝนตกหนักบริเวณลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างอย่างต่อเนื่อง รวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะในจังหวัดปทุมธานีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันและในวันที่ 8 กันยายน ฝนตกหนักในจังหวัดปทุมธานีมากที่สุดในประเทศไทย ปริมาณฝน 24 ชั่งโมงที่วัดได้ที่สถานีประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์มากถึง 157 มิลลิเมตร ปริมาณฝนที่มากกว่า 100 มิลลิเมตรถือเป็นฝนตกหนักในเกณฑ์ที่จะส่งผลต่อการระบายน้ำ หากรวมปริมาณฝน 3 วันมากกว่า 300 มิลลิเมตร ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์สูงเกินระดับวิกฤติ เช่นเดียวกับในกรุงเทพฯ ที่ฝนตกหนักจนทำให้ระดับน้ำในคลองหลายๆ สายสูงเกินระดับวิกฤติ

ทั้งนี้แม่น้ำท่าจีนรับน้ำจากฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านประตูระบายน้ำพลเทพ จังหวัดชัยนาท บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตรา 20 ลบ.ม./วินาที แต่ที่ลุ่มน้ำท่าจีนมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ระบายออกท้ายประตูระบายน้ำโพธิ์พระยาผ่านอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี 175 ลบ.ม./วินาที แล้วมีน้ำที่ระบายออกจากทุ่งสองพี่น้องและบางปลาม้าจากฝนที่ตกลงมาไหลมารวมเป็น 320 ลบ.ม./วินาที ทำให้ปัจจุบันระดับน้ำท้ายประตูระบายน้ำโพธิ์พระยาอยู่ที่ 5.18 ม.รทก. ซึ่งเกินระดับควบคุมที่ 4.50 ม.รทก. น้ำจึงเอ่อท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ

ส่วนการรับน้ำเข้าสู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา รับผ่านประตูระบายน้ำมโนรมย์เข้าสู่คลองชัยนาท-ป่าสัก รับเพียง 41 ลบ.ม./วินาที แล้วไหลต่อไปยังแม่น้ำป่าสัก จากนั้นไหลผ่านประตูระบายน้ำพระนารายณ์สู่คลองระพีพัฒน์ตามลำดับ โดยกรมชลประทานควบคุมไม่ให้น้ำไหลต่อไปยังคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ด้วยการระบายผ่านประตูระบายน้ำพระศรีศิลป์และพระศรีเสาวภาคในอัตรา 3-5 ลบ.ม./วินาทีเท่านั้น


พร้อมกันนี้ยังย้ำถึงการผันน้ำเหนือเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำ 11 ทุ่งตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนของกอนช. ว่า เมื่อเกษตรกรเก็บเกี่ยวข้าวนาปีแล้ว จะเตรียมพื้นที่ให้พร้อม แต่จะดำเนินการเป็นมาตรการสุดท้าย เนื่องจากการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยาด้วยการใช้เขื่อนเจ้าพระยาเป็นเครื่องมือหน่วงและระบายน้ำเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วนการระบายผ่านลำน้ำหลักเป็นเส้นทางที่สามารถระบายน้ำออกทะเลได้เร็วที่สุด แต่ขอให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างยังไม่ต้องเป็นกังวลเพราะกรมชลประทานจะควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยาไม่เกิน 3,500 ลบ.ม./วินาทีซึ่งปัจจุบันอยู่ที่  2,374 ลบ.ม./วินาที โดยปริมาณน้ำที่ไม่เกินเกณฑ์ 3,500 ลบ.ม./วินาทีจะไม่เกิดผลกระทบต่อกทม. และปริมณฑล

ส่วนที่กอนช. และกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์การเกิดพายุว่า ได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ โดยสั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่อยู่ตามเแนวร่องฝนและที่มีแนวโน้มว่า จะได้รับอิทธิพลจากพายุ โดยต้องบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำแบบพลวัต (Dinamic Operation Curve) ซึ่งต้องสอดคล้องกับการคาดการณ์ปริมาณน้ำไหลลงอ่างเนื่องจากต้องคำนึงการการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งด้วย

นายประพิศย้ำว่า การบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำต่างๆ ทั่วประเทศ ต้องเป็นไปตามแนวทาง “ต้นเก็บ-กลางหน่วง-ปลายระบาย” คือ ต้นน้ำต้องเก็บน้ำไว้ในอ่างเก็บน้ำ กลางน้ำต้องหน่วงน้ำเพื่อไม่ให้น้ำเหนือไหลลงสู่ตอนล่างอย่างรวดเร็วเกินไปจนทำให้เกิดน้ำท่วม และปลายน้ำต้องเร่งระบายน้ำและพร่องน้ำในลำน้ำเพื่อรองรับน้ำจากพื้นที่ตอนบน

ดังนั้นในลุ่มน้ำเจ้าพระยา เขื่อนหลัก 4 เขื่อนซึ่งอยู่ต้นน้ำทำหน้าที่เก็บกักน้ำ กลางน้ำมีเขื่อนเจ้าพระยาทำหน้าที่หน่วงน้ำ ขณะเดียวกันดำเนินทุกมาตรการเร่งระบายน้ำช่วงปลายน้ำออกสู่ทะเลได้แก่ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มที่สถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำต่างๆ ที่มีจุดเชื่อมต่อกับพื้นที่กทม. และปริมณฑลเสริมเพื่อเสริมศักยภาพ ที่คลองประเวศบุรีรมย์ บริเวณทางน้ำเข้า ด้านหน้าสถานีท่าถั่วจะขุดขยายเพื่อช่วยชักน้ำด้านเหนือน้ำให้เข้าสถานีสูบน้ำได้รวดเร็วยิ่งขึ้นซึ่งจะทำให้น้ำที่ระบายจากกทม. ลงสู่คลองประเวศน์บุรีรมย์ระบายออกสู่แม่น้ำบางปะกงได้เร็ว ส่วนคลองชายทะเลพร่องน้ำให้ต่ำกว่าเกณฑ์ควบคุมเพื่อรอรับน้ำที่ระบายลงมา แล้วใช้สถานีสูบน้ำบริเวณแนวคลองชายทะเล  9 แห่งที่มีศักยภาพการระบายน้ำรวมกันประมาณ 22.18 ล้านลบ.ม./วันเร่งระบายน้ำออก พร้อมให้เปิด-ปิดประตูระบายน้ำตามจังหวะการขึ้น-ลงของน้ำทะเล โดยอาศัยจังหวะที่น้ำทะเลลง เปิดบานระบายให้น้ำไหลได้สะดวก

นอกจากนี้ยังสนับสนุนเครื่องจักร-เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำเข้าช่วยเหลือทุกพื้นที่เพื่อลดกระทบของประชาชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]