สมาคมประมงฯ แจงคลิปจับโลมาไม่ใช่เรือสัญชาติไทย

กรุงเทพฯ 15 ก.ค. – สมาคมประมงฯ แจงเรือจับโลมาตามคลิปไม่ใช่เรือประมงพาณิชย์สัญชาติไทย แต่เป็นเรือสัญชาติมาเลเซียมีไต้ก๋งและคนงานส่วนหนึ่งเป็นคนไทย


แหล่งข่าวในสมาคมประมงแห่งประเทศไทยระบุถึงคลิปปรากฎในโซเชียลมีเดียเป็นภาพเรือประมงพาณิชย์ลำหนึ่งจับโลมาหลายตัวขึ้นเรือ โดยมีไต้ก๋งคนไทยสั่งการ รวมทั้งมีคนงานส่วนหนึ่งเป็นคนไทย จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เรือลำดังกล่าวชื่อ “เรือ KNF.7779”  เป็นเรือสัญชาติมาเลเซีย ก่อนหน้านี้เป็นเรือ 2 สัญชาติ คือ ถือธงสัญชาติไทยและมาเลเซีย แต่ต่อมากฎหมายประมงฉบับใหม่ของไทยกำหนดให้เรือที่ถือธงสัญชาติไทยร่วมกับสัญชาติอื่นต้องเลือกเพียงสัญชาติเดียว เรือลำนี้จึงถอนสัญชาติไทยและคืนเอกสารเรือไทยแล้วจดทะเบียนภายใต้สัญชาติมาเลเซีย 

แหล่งข่าวชี้แจงว่าผลจากกฎหมายประมงดังกล่าว ทำให้มีเรือหลายลำเปลี่ยนไปจดทะเบียนใช้สัญชาติเพื่อนบ้าน แต่ไต้ก๋งและคนงานไทยยังคงรับจ้างทำงานบนเรือ อีกทั้งข้อสังเกตการตั้งชื่อเรือซึ่งลงท้ายด้วยเลข 4 ตัวนั้น เรือสัญชาติไทยไม่มี ส่วนพิกัดที่จับโลมานั้น จากการประสานงานเบื้องต้นกับผู้ประกอบการประมงมาเลเซียยืนยันว่าขณะจับโลมาอยู่ในน่านน้ำมาเลเซีย แต่ต้องรอฟังคำยืนยันจากกรมประมงของไทยถึงรายละเอียดต่าง ๆ อย่างเป็นทางการ


ทั้งนี้ ไทยมีประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องกําหนดให้สัตว์นํ้าชนิดที่เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์น้ำที่หายากหรือใกล้สูญพันธุ์ที่ห้ามไม่ให้ผู้ใดจับหรือนําขึ้นเรือประมง ตามความในมาตรา 66 แห่งพระราชกําหนดการประมง พ.ศ. 2558 ได้แก่ เต่าทะเลทุกชนิดในวงศ์ (Family) Cheloniidae และ Dermochelyidae รวมทั้งไข่ด้วย พะยูน (Dugong dugon) โลมาและวาฬทุกชนิดในอันดับ (Order) Cetacea ปลาฉลามวาฬ (Rhincodon typus) กัลปังหาดําทุกชนิดในอันดับ (Order) Antipatharia กัลปังหาทุกชนิดในอันดับ (Order) Gorgonacea ปะการังแข็งทุกชนิดในอันดับ (Order) Scleractinia และในอันดับ (Order) Stylasterina   ปะการังไฟทุกชนิดในสกุล (Genus) Millepora  ปะการังสีฟ้าทุกชนิดในอันดับ (Order) Helioporacea ปะการังอ่อนทุกชนิดในอันดับ (Order) Alcyonacea ดอกไม้ทะเลทุกชนิดในอันดับ (Order) Actiniaria หอยมือเสือทุกชนิด (Tridacna spp.) หอยสังข์แตร (Charonia tritonis) โดยความตามประกาศนี้ยกเว้นกรณีจําเป็น เพื่อการช่วยชีวิตของสัตว์น้ำนั้น ซึ่งประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2559

ด้านแหล่งข่าวจากกรมประมงระบุว่าได้ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับคลิปดังกล่าว หากเป็นเรือชื่อ KNF 7779 จริงตามที่ได้รับรายงานเบื้องต้นพบว่า เดิมเคยถือสัญชาติไทยชื่อเรือ ส.พรเทพนาวี 9 หมายเลขทะเบียน 302102291 ต่อมาคืนสัญชาติไทยแล้วจดทะเบียนสัญชาติมาเลเซีย แต่ไต้ก๋งและคนงานส่วนหนึ่งเป็นคนไทย ซึ่งกรมประมงกำลังตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมถึงวันเวลา พิกัดการทำประมงของเรือลำดังกล่าว รวมทั้งการจับโลมาขึ้นเรือว่าอยู่ในน่านน้ำไทยหรือไม่ 

ทั้งนี้ กรมประมงไม่มีระบบติดตามเรืออิเล็กทรอนิกส์ของเรือสัญชาติอื่น แต่หากเข้ามาในน่านน้ำไทยอาจมีหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งของกรมประมงและหน่วยงานอื่น ๆ ทราบเบาะแส หากกระทำการจับโลมาในน่านน้ำไทยจะมีความผิดฐานรุกล้ำน่านน้ำและสิทธิ์อาณาเขตการทำประมง


ขณะนี้กรมประมงกำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลทุกด้าน เนื่องจากหากเป็นเรือสัญชาติอื่นมากระทำผิดในน่านน้ำไทย ซึ่งเป็นปัญหาระหว่างประเทศที่มีความละเอียดอ่อน จึงต้องมีหลักฐานครบถ้วน แต่คงตรวจสอบให้แน่ใจด้วยว่าไม่ใช่เรือสัญชาติไทย ถ้าเป็นเรือสัญชาติไทยแล้วจับโลมาขึ้นเรือตามคลิปจะมีความผิดตามมาตรา 66 ตาม พ.ร.ก.ประมง พ.ศ. 2558 ซึ่งมีประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดห้ามนำสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและสัตว์น้ำหายาก 13 ชนิดขึ้นเรือ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับ 30,000 – 300,000 บาท หรือปรับเป็น 5 เท่าของมูลค่าสัตว์น้ำ โดยการตรวจสอบว่าเป็นเรือสัญชาติไทยหรือไม่ ทำได้ไม่ยาก เนื่องจากติดตามด้วยระบบติดตามเรือประมง (Vessel Monitoring System : VMS) สามารถทราบทั้งวันเวลาที่เรือจอดหรือออกทำประมง ตลอดจนพิกัดของเรือประมงสัญชาติไทยทุกลำ

ขณะที่ศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้าออกเรือประมงปัตตานีได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น เรือประมง ส.พรเทพนาวี 9 ทบ.302102291 รายการแจ้งเรือออก ( PO) ครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2559 รายการแจ้งเรือเข้า (PI) ครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2559 เรือประมงลำนี้ได้ขอยื่นถอนทะเบียนเรือไทยเพื่อทำการซื้อขายให้กับประเทศมาเลเซีย โดยได้รับการยกเลิกทะเบียนเรือและเพิกถอนทะเบียนเรือไทย เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2560 และมีการโอนทะเบียนให้กับเจ้าของใหม่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2560 ตามหลักฐานจากกรมเจ้าท่าภูมิภาค สาขาปัตตานี ได้เดินทางออกจากท่าปัตตานี และได้รับหมายเลขทะเบียนเรือมาเลเซีย KNF 7779 จากการตรวจสอบเรือประมงลำดังกล่าวได้ทำการประมงอยู่ในมาเลเซียตั้งแต่ถอนทะเบียนเรือไทยไปแล้ว โดยไม่ได้กลับมาในประเทศไทย และตรวจสอบถึงปัจจุบันเรือลำนี้ยังคงทำการประมงอยู่ประเทศมาเลเซีย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]